“ฮาโกดาเตะ” เมืองท่าวิวสวยติดอันดับโลก ชมความงามสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป เดินเก๋ๆ ในหมู่บ้านวินเทจ ย่านโมโตมาชิ
“ฮาโกดาเตะ” เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของกิ่งจังหวัดโอะชิมะ และใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของจังหวัดฮอกไกโด อยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางคาบสมุทรคาเมเดะ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นเมืองท่าเมืองแรกของญี่ปุ่น สิ่งที่สะดุดตาในฮาโกดาเตะ นั่นก็คือ สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่มีความสวยงามมากๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวยามค่ำคืนชวนน่าหลงไหล แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย เลยทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางไปเที่ยวเมืองนี้อย่างไม่ขาดสาย
เมืองนี้สามารถมองเห็น ภูเขาฮาโกดาเตะ ซึ่งเป็นภูเขาสูง สามารถเข้าถึงได้โดยการนั่งเคเบิ้ลคาร์ ทางเท้า และรถยนต์ มุมมองตอนกลางคืนจากยอดเขามีชื่อเสียงในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก มีการขนานนามว่า เป็นเมืองที่มีวิวกลางคืนที่ดีที่สุดเป็นที่หนึ่งของประเทศ และเป็นหนึ่งในสามของโลก รวมถึงฮ่องกง และเนปาล ความสวยงามของวิวเมือง บอกเลยว่า อลังการสุดๆ มีความสวยงามน่าประทับใจ ส่วนสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปก็สวยงามไม่แพ้กัน รวมทั้งป้อมโงเรียวกาคุ ที่มีรูปแบบเป็นดาว 5 แฉก น้ำล้อมรอบ ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะ ที่เป็นสถานที่ยอมนิยมที่ผู้คนจะมาชมดอกซากุระสีชมพู และหอคอยสีขาวสูง ที่มีลักษณะคล้ายกับหอควบคุมการจราจรทางอากาศ โครงสร้างของหอคอยนี้สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของสวนสาธารณะ และเมืองในลักษณะพาโนรามา รวมถึงแผ่นดินใหญ่ของญี่ปุ่น ผ่านช่องแคบซึการุ ในวันที่อากาศปลอดโปร่ง
ฮาโกดาเตะ เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับอาหารทะเล และซูชิ โดยเฉพาะปลาทูน่า หมึก ปลาแซลมอน หอยเม่น และปูทะเล อาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ คือ ฮาโกดาเตะชิโอราเมน (ราเมนเกลือ) น้ำซุปใส รวมถึงมีเนื้อไก่ กระดูกหมู ผัก ปลา และสาหร่ายทะเล เมืองฮาโกดาเตะ สำหรับภัตตาคารที่มีชื่อเสียงที่สุด ชื่อ Ikkatei Tabiji (อิคคาเทอิ ทาบิจิ) มีอาหารจานเด็ด ที่มีชื่อเรียกว่า Dancing Squid คือ หมึกที่ตายแล้วไม่นาน เมื่อนำโชยุมาราด กล้ามเนื้อจะทำปฏิกิริยากับโซเดียม เกิดการกระตุก แล้วหนวดหมึกจะขยับไปมา ราวกับว่า กำลังเต้นอยู่
สถานที่ท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ
✦ ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)
ภูเขาฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่บริเวณป่าทางตอนใต้ของปลายคาบสมุทรฮอกไกโด ซึ่งเป็นจุดใต้สุดของภูมิภาคฮอกไกโด และอยู่บริเวณใจกลางเมืองฮาโกดาเตะ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามมากที่สุดของญี่ปุ่น 1 ใน 3 เลยก็ว่าได้ ทำให้ในเเต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการมาเที่ยวชมกันอย่างมากมายเลยทีเดียว
ภูเขาฮาโกดาเตะ มีความสูงมากกว่า 334 เมตร ทำให้จุดชมวิวทิวทัศน์ด้านบนนั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งทั้งในเวลากลางวันเเละในเวลากลางคืน โดยเฉพาะในวันที่มีอากาศสดใสนั้นสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล จนบางครั้งสามารถดมองเห็นปลายสุดของเกาะฮอนชูในอาโอโมริได้อีกด้วย ส่วนในยามค่ำคืนนั้นก็สามารถมองเห็นเเสงไฟที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งของตัวเมืองฮาโกดาเตะนับว่าเป็นอีกจุดที่น่าสนใจมาเที่ยวชม โดยที่ด้านบนตรงบริเวณจุดชมวิวนั้นจะมีร้านคาเฟ่กาเเฟที่สามารถมานั่งเล่นชิลๆ ได้อีกด้วย รวมทั้งร้านอาหารที่เป็นสไตล์โรงอาหารเปิดให้บริการเเละมีร้านขายของที่ระลึกอีกด้วย
การเดินทางไปภูเขาฮาโกดาเตะ :
ใช้บริการกระเช้า โดยกระเช้าจะอยู่สถานีด้านล่าง ในที่ย่านโมโตะมาจิ ซึ่งสามารถเดินมาจากสถานีรถราง Jujigai เพียงเเค่ 10 นาที ก็ถึง โดยมีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการกระเช้าอยู่ที่ 1,200 เยนสำหรับการไปและกลับ โดยราคาเที่ยวเดียวนั้นจะอยู่ที่ 660 เยน เเละกระเช้าจะออกทุกๆ 5-10 นาที โดยเปิดให้บริการตั้งเเต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 22.00 น. ของทุกวัน นับว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกอีกเส้นทาง นอกจากนี้เเล้วการเดินทางมายัง ภูเขาฮาโกดาเตะ ยังสามารถใช้บริการของรถบัสประจำทางที่จะมีบริการเฉพาะในช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที เสียค่าบริการต่อเที่ยว 400 เยนต่อคน อีกทั้งยังสามารถขับรถยนต์ขึ้นมาได้อีกด้วยในช่วงเวลาเดียวกัน เเต่จะปิดเส้นทางในเวลา 17.00 น.
แผนที่ Google Map กระเช้าขึ้นภูเขาฮาโกดาเตะ และภูเขาฮาโกดาเตะ :
✦ ย่านโมโตมาชิ (Motomachi District)
ย่านโมโตมาชิ เป็นอีกหนึ่งในย่านเมืองเก่าของเมืองฮาโกดาเตะที่มีความสวยงาม และเต็มไปด้วยบรรยากาศที่วินเทจเป็นอย่างมาก โดยบริเวณเเห่งนี้เป็นย่านเเรกๆ ของเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1854 เเละมีการติดต่อค้าขายกับหลายประเทศทั้งจีน รัสเซีย เเละประเทศตะวันตกอื่นๆ โดยเป็นย่านที่ตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาฮาโกดาเตะ ที่มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว เพราะมีอาคารเก่าเเก่หลายหลังยังคงตั้งอยู่ในย่านเเห่งนี้
ย่านโมโตมาชิ นั้นมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายต่อหลายจุดด้วยกัน ทั้งในส่วนของห้องโถงอนุสรณ์จีน โดยเป็นอาคาร 2 ชั้นที่เป็นอดีตที่ทำการเก่าของรัฐบาลฮอกไกโด ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 200 เยน จุดถัดมาก็คือ ศาลาประชาคมฮาโกดาเตะ ซึ่งเป็นห้องรับรอบแขก เเละจัดกิจกรรมต่าง โดยเปิดให้เข้าชมในเวลา 9.00 นง จนถึงเวลา 19.00 น. เสียค่าเข้าขมคนละ 300 เยน ส่วนทางด้านของ โบสถ์รัสเซียออโธด็อกซ์ ก็นับว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองฮาโกดาเตะ ที่มีความสวยงามเเละสร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1916 ตั้งเเต่เริ่มเเรกที่ชาวรัสเซียเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายออโธด็อกซ์ให้แก่ชาวญี่ปุ่น โดยเปิดให้เข้าชมเวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 17.00 น. เสียค่าเข้าชมคนละ 200 เยน ส่วนทางด้านของอาคารสถานกงสุลอังกฤษเก่า ก็มีความสวยงามเเละปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านกาเเฟ เเละร้านอาหารต่างๆ โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน เเละเสียค่าเข้าชมคนละ 300 เยน
นอกจากนี้เเล้ว ย่านโมโตมาชิ ก็ยังมีจุดท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจอีกหลายจุดทั้งในส่วนของ บ้านเก่าตระกูลโซมะ ที่เป็นอาคารสไตล์ญี่ปุ่น ที่สร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1908 โดยเปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 9.30 น. จนถึงเวลา 17.00 น. โดนเสียค่าเข้าชมคนละ 600 เยน ส่วนทางด้านของวัดฮิงาชิฮอนงันจิ สาขาเมืองฮาโกดาเตะ ก็เป็นวัดพุทธนิกายฮิงาชิฮอนงันจิ โดยเป็นวัดแรกของประเทศญี่ปุ่นที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมกับเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย ในขณะที่โบสถ์อิปิสโคปัล ก็เป็นอาคารที่มีรูปทรงเเปลกตาเเละน่ามาเที่ยวอย่างยิ่ง โดยเป็นโบสถ์ของนิกายแองคลิแกน ที่สร้างโดยชาวอังกฤษ เเละโบสถ์โมโตมาจิโรมันคาธอลิค ก็เป็นอาคารสไตล์โกธิค ที่มีประติมากรรมต่างๆ ที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง โดยเปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ในเวลา 10.00 นง จนถึงเวลา 16.00 น.
การเดินทางไปย่านโมโตมาชิ :
ใช้บริการของรถไฟโดยมาลงที่สถานีรถไฟ JR Hakodate Station จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้บริการของรถราง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีก็จะเข้าสู่ย่านเเห่งนี้เเล้ว
แผนที่ Google Map ย่านโมโตมาชิ :
✦ เนินฮาจิมันซากะ (Hachiman-Zaka Slope)
เนินฮาจิมันซากะ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของฮาโกดาเตะเป็นอย่างยิ่ง โดยตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองท่าที่สำคัญเเห่งนี้ เเละเป็นที่รู้จักเเละมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในฐานะของจุดชมวิวที่มีความสวยงามในทุกฤดูกาลเยทีเดียว จึงกลายเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเเห่งนี้ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเองเเละชาวต่างชาติเป็นอย่างมากในการมาชมวิวทิวทัศน์ที่เเสนจะสวยงาม
โดยที่วิวทิวทัศน์ที่มองจากเนินฮาจิมันซากะนั้น จะสามารถมองเห็นวิวของท่าเรือฮาโกดาเตะได้อย่างชัดเจนเเละเลยไปจนถึงท้องทะเลอีกด้วย อีกทั้งสามารถเห็นวิวที่เเสนจะสวยงามของภูเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างชักเจ อีกทั้งสองข้างทางของถนนเส้นที่ทอดยาวจากเนินเเห่งนี้ลงไปด้านล่างก็เต็มไปด้วยที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้บริเวณเเห่งนี้กลายเป็นจุดยอดนิยมในการมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฮาโกดาเตะ ส่วนในฤดูหนาวนั้นก็มีความสวยงามไปอีกเเบบด้วยการประดับประดาไฟอย่างสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
บริเวณเนินฮาจิมันซากะ ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดที่สามารถมาชมความสวยงามของเทศกาล ฮาโกดาะเตะ ไลฟต์ อัพ ได้อย่างชดเจนเเละมีสีสันที่สวยงามเป็นอย่างมากอีกด้วย โดยเทศกาลดังกล่าวจะจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาวนั่นเอง โดยเนินเเห่งนี้เปิดให้เข้ามาเที่ยวชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียเงินเเต่อย่างใด เเละเป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงามเเละสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนเมืองท่าเเห่งนี้กันอีกด้วย
การเดินทางไปเนินฮาจิมันซากะ :
ใช้บริการของรถรางมาลงที่สถานีรถราง Suehirocho Station จากนั้นก็เดินต่อไปทางสถานี Jujigai Station ด้วยระยะทางอีกประมาณ 180 เมตร เเล้วเมื่อพบกับสี่เเยกใหญ่เเล้วก็ให้คุณเลี้ยวขวาเเล้วเดินขึ้นมาทางลาด โดยคุณสามารถมองเห็นท่าเรือฮาโกดาเตะเป็นวิวที่สวยงามได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นข้อบ่งบอกว่าได้มาถึงบริเวณเเห่งนี้เเล้ว
แผนที่ Google Map เนินฮาจิมันซากะ :
✦ แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ (Tachimachi-Misaki)
แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ เป็นอีกหนึ่งในจุดชมวิวที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งเเละตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองฮาโกดาเตะเท่าใดนัก โดยความสวยงามของมันนั้นมาจากการที่มีลักษณะเป็นภูมิประเทศที่ยื่นออกไปในกลางทะเล ทำให้สามารถมองเห็นวิวในมุมกว้างของท้องทะเลได้อย่างชัดเจน เเละในวันที่มีอากาศเเจ่มใส สถานที่เเห่งนี้จะได้รับความนิยมจากชาวเมืองอาโกดาเตะในการมาชมความสวยงามเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้
โดยที่แหลมทาชิมาชิ มิซากินั้น สามารถทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมได้มองเห็นวิวทิวทัศน์ในมุมที่กว้างเกือบ 270 องศาเลยทีเดียว เเละทำให้สามารถชมวิถีชีวิตของชาวประมงญี่ปุ่นได้อีกด้วย เเละสามรถเข้าไปสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว นอกจากนี้เเล้วบริเวณเเห่งนี้ยังสามารถมองเห็นเมืองมุทสึซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอาโอโมริ บนเกาะฮอนชู ได้อย่างชัดเจนในวันที่อากาศเเจ่มใสอีกด้วย จึงทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมากยามที่มาเที่ยวเมืองอาโกดาเตะ
บรรยากาศบริเวณแหลมทาชิมาชิ-มิซากิ เป็นที่โล่งเเจ้ง สามารถรับลมทะเลได้เป็นอย่างดีเเละมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งทั้งในฤดูร้อนเเละฤดูหนาวที่นี่จะมีวิวทิวทัศน์ที่เเปลกตาเป็นอย่างมาก เเถมยังสงบ เเละไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรมากมายนักยังคงธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างเต็มที่เลยก็ว่าได้ โดนที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวันตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว นับว่าเป็นอีกหนึ่งในจุดชมวิวที่น่าสนใจของเมืองอาโกดาเตะเป็นอย่างยิ่ง
การเดินทางไปแหลมทาชิมาชิ-มิซากิ :
ใช้บริการของรถรางมาลงที่สถานี Yachigashira Station จากนั้นให้เดินเลี้ยวซ้ายที่บริเวณสี่เเยกเเรกที่พบ เเละเดินต่อไปจนสุดทางเดินก็ให้คุณเลี้ยวขวาเเละเดินลัดเลาะไปตามถนนที่จะขนานไปกับทะเล หรือจะลงไปเดินที่ชายหาดก็ได้ โดยเดินไปอีกเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงเเหลมเเห่งนี้เเล้ว
แผนที่ Google Map แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ :
✦ โกดังอิฐแดง (Red Brick Warehouses)
โกดังอิฐแดง เป็นอีกหนึ่งในเเลนด์มาร์คของฮาโกดาเตะเลยทีเดียว โดยตั้งอยู่ริมแม่น้ำของอ่าวฮาโกดาเตะ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ช็อปปิ้งและเเหล่งแฮงเอ้าท์ขึ้นชื่อของเมืองเเห่งนี้เป็นอย่างมาก รวมทั้งเป็นเเหล่งรวมสถานบันเทิงเเบบฮิปสเตอร์ในยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงสร้างบรรยากาศเเนววินเทจที่ประทับใจเหล่าผู้ที่ได้มาเยี่ยมเยียนบริเวรเเห่งนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
โกดังอิฐแดงนั้น เป็นศูนย์รวมของเเหล่งช็อปปิ้งที่มีทั้งร้านค้าเสื้อผ้าเเนวเเฟชั่นมากมายหลายร้านที่มีความโดดเด่นเเละส่วนใหญ่จะเป็นเเบรนด์ญี่ปุ่นเเท้ๆ หรือจะเป็นร้านอาหารต่างๆ ที่มีความน่าสนใจเเละมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เเถมน่านั่งเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เหมาะกับการมานั่งชิลๆ ดื่มด่ำสัมผัสกับบรรยากาศริมอ่าวฮาโกดาเตะเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้เเล้วในส่วนของบรรดาร้านขนมก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย เเละมีจุดที่น่าไปท่องเที่ยวหลายต่อหลายจุดด้วยกัน
โดยจุดท่องเที่ยวในโกดังอิฐแดงที่น่าสนใจ นอกจากเเหล่งช็อปปิ้งเเล้วก็ยังมีในส่วนของโบสถ์เก่าที่ยังใช้ในการจัดพิธีเเต่งงานอยู่ เเถมได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกด้วย เเละมีบริการในการล่องเรือเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามของอ่าวฮาโกดาเตะอีกด้วย เเละในช่วงของฤดูหนาวในวันที่ 1-25 ธันวาคม นั้นจะมีการจัดงาน Hakodate Christmas Fantasy ที่บริเวณเเห่งนี้อีกด้วย โดนมีการประดับประดาต้นคริสมาสต์ขนาดยักษ์ พร้อมกับมีขบวนซานตาครอสมาสร้างความครื้นเครงเป็นอย่างยิ่ง โดยจะมีไฟประดับประดาอย่างสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในบริเวณนี้เปิดให้มาใช้บริการได้ทุกวันตั้งเเต่เวลา 9.30 น. จนถึงเวลา 19.00 น. เเล้วเเต่ร้านเเต่ละเเห่ง
การเดินทางไปโกดังอิฐแดง :
ใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ Hakodate Station ก็ให้เดินต่อไปอีกประมาณ 15-20 นาที ก็จะถึงเเล้ว หรือหากใช้บริการของรถรางก็สามารถมาลงที่ป้าย Jujigai tram stop เเล้วให้เดินไปทางชายทะเลอีกประมาณ 5 นาทีก็จะถึงเเล้ว
แผนที่ Google Map โกดังอิฐแดง :
✦ ฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่ (Hakodate Factory)
ฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเเนวช็อปปิ้งที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวเป็นอย่างยิ่งของฮาโกดาเตะ โดยให้บรรยากาศของความวินเทจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว เเละมีทั้งชาวญี่ปุ่นเองเเละนักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการเดินทางมาเที่ยวยังสถานที่เเห่งนี้กันอย่างมากมายเลยก็ว่าได้
สำหรับโครงสร้างอาคารของฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่ นั้นเป็นงานสถาปัตยกรรมในสมัยเมจิที่มีความโดดเด่นเเละสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาคารหลังนี้สร้างขึ้นมาในปี ค.ศ.1911 เพื่อเป็นที่ทำการไปรษณีย์ ของอาโกดาเตะ ก่อนที่จะย้ายออกไปยังที่ทำการใหม่ในปี ค.ศ.1962 ทำให้อาคารเเห่งนี้ถูกปล่อยรกร้างอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง เเละมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัยเเละเป็นห้างสรรพสินค้าเเบบในปัจจุบันนี้ โดยมีร้านค้ามากมายหลายร้านตั้งอยู่บริเวณเเห่งนี้ โดยเเต่ละร้านนั้นมีเอกลักษณ์เเละสินค้าที่โดดเด่นเป็นอย่ายิ่ง จนทำให้นักท่องเที่ยวต้องประทับใจเเละมีโอกาสเสียเงินสูงอย่างมากเลยก็ว่าได้
มีร้านค้ามากมายในฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่ ทั้งร้านขายของที่ระลึกที่มีอยู่หลายร้านด้วยกัน รวมไปถึงร้านทำเครื่องเเก้วอีกด้วย เเละมีร้านกล่องดนตรีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง เเละมีร้านอาหารที่มีหลากหลายเเบบเเละสไตล์ให้เลือกชิมกัน รวมทั้งมีลานเบียร์ให้นั่งชิลๆ ชมความสวยงามของริมทะเล เเละดื่มด่ำกับบรรยากาศความวินเทจของย่านนี้ วึ่งสามารถมองไปเห็นถึงโกดังอิฐแดงที่มีชื่อเสียงเเละสวยงามอีกด้วย โดยที่นี่นั้นเปิดให้บริการทุกวันในเวลา 9.00 น. ถึงเวลา 19.00 น. เเต่ในวันเสาร์จะเปิดถึงเวลา 22.00 น. นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของฮาโกดาเตะที่น่ามาเดินเที่ยวเล่นเป็นอย่างยิ่ง
การเดินทางไปฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่ :
ใช้บริการของรถรางมาลงที่ Jujigai หลังจากนั้นก็เดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที โดยให้คุณเดินไปทางเดียวกันกับห้างสรรพสินค้าริมน้ำ โดยอาคารจะหันออกถนนที่ผ่านด้านหลังของโกดังนั่นเอง
แผนที่ Google Map ฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่ :
✦ พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ (Mashu-Mashu Ship Museum)
พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญเเละน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยมันเป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำที่ตั้งอยู่ในอ่าวอาโกดาเตะ โดยเป็นการนำเรือเฟอร์รี่เก่าที่เเล่นข้ามฟากระหว่างเมืองอาโอโมริบนเกาะฮอนชู กับเมืองฮาโกดาเตะในฮอกไกโด มาปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
เเต่เดิมการเดินทางข้ามช่องแคบสึงารุนั้น ต้องอาศัยเรือเฟอร์รี่ในการเดินทางเท่านั้น โดยที่พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครอบรอบ 80 ปีของท่าเรือเฟอร์รี่ที่เดินทางผ่านช่องเเคบเเห่งนี้ โดยปัจจุบันนั้นก็ยังมีการเเล่นกันอยู่ ทำให้พิพิธภัณฑ์เเห่งนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
โดยภายในตัวพิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ นั้น มีการจัดเเสดงเรื่องราวของการเดินเรือข้ามฟากตั้งเเต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน โดยมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมในส่วนของหอบังคับการเรือหรือสะพานเดินเรือ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นสภาพที่ชัดเจนของเรือลำนี้ รวมไปถึงในส่วนของห้องวิทยุ ที่ยังคงรักษาสภาพเดิมเอาไว้เป็นอย่างดี ส่วนทางด้านของห้องโดยสารนั้นก็มีให้ชมทั้งในส่วนของก้องโดยสารชั้นหนึ่ง เเละห้องโดยสารชั้นสอง พร้อมกับมีการจัดเเสดงเครื่องเเบบกัปตันเเละลูกเรืออีกด้วย พร้อมกับมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิดีโอเกี่ยวกับเรือข้ามฟากในสมัยก่อน เเละมีโมเดลในการเเสดงระบบโหลดรถไฟลงในเรือ พร้อมกับมีการจัดเเสดงกลไกการขับเคลื่อนของเรื่อต่างๆ ให้ได้ชมกันอย่างจุใจอีกด้วย โดยพิพิธภัณฑ์เเห่งนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เช้าชมทุกวันในเวลา 8.30 น. จนถึงเวลา 18.00 น. โดยเสียค่าบริการคนละ 500 เยน
การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ :
ใช้บริการของรถไฟเจอาร์มาลงที่สถานีรถไฟ JR Hakodate เเล้วหลังจากนั้นก็ให้คุณเดินต่อมาเเล้วเลี้ยวซ้ายลงมาเดินต่อที่ถนนเลียบทางเดินริมทะเล โดยเดินต่อไประยะทางประมาณ 300 เมตรก็จะถึงเเล้ว
แผนที่ Google Map พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ :
✦ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market)
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองฮาโกดาเตะ เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวฮาโกดาเตะ โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 4 ช่วงตึก เเละเป็นจุดที่มีความคึกคักเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาเช้า เเละเป็นจุดที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในการมาเที่ยวชม
สำหรับบรรยากาศของตลาดเช้าฮาโกดาเตะนั้น มีสีสันเเละความคึกคักมาก เพราะเป็นตลาดเช้าประจำเมืองฮาโกดาเตะที่มีลูกค้าเป็นชาวเมืองฮาโกดาเตะเเห่งนี้ โดยจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารทะเลสดที่มีความสดเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในส่วนของ หอยเม่นทะเล ที่มีความสดใหม่เเละมีรสชาดอร่อยเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งมีปูคานิ ที่มีความน่าสนใจเเละน่ากินเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงไข่ปลาแซลม่อน ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมอย่างมากเลยทีเดียว รวมไปถึงในส่วนของผลิตภัณฑ์ประเภทผักเเละผลไม้จำนวนมากมายที่มีความสดเเละอร่อยเป็นอย่างยิ่ง โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาซึมซับกับบรรยากาศของตลาดท้องถิ่นญี่ปุ่นที่มีมนต์เสน่ห์และน่ามาชมเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้เเล้ว ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ก็ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารอีกหลายร้านที่เปิดจำหน่ายกันตั้งเเต่ในช่วงเช้า โดยมีเมนูเด็ดที่ได้รับการเเนะนำกันเป็นอย่างยิ่งก็คือ Uni-Ikura Domburi ซึ่งมีลักษณะเป็นข้าวเสิร์ฟพร้อมกับหอยเม่นทะเลและไข่ปลาแซลม่อน ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของฮอกไกโดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งจากบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยว โดยตลาดเเห่งนี้จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งเเต่เวลา 5.00 น. จนถึงเวลา 12.00 น. ส่วนในฤดูหนาวนั้นจะเปิดในเวลา 6.00 น. ถือว่าเป็นตลาดที่น่ามาสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง โดยแนะนำว่าให้มาเดินกันในช่วงเช้าจะได้ซึมซับกับบรรยากาศอย่างเต็มที่
การเดินทางไปตลาดเช้าฮาโกดาเตะ :
ใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ JR Hakodate Station หลังจากนั้นก็ให้คุณเดินไปทางขวาของสถานี เเล้วข้ามถนนไปอีก 1 บล็อกก็จะถึงเเล้ว
แผนที่ Google Map ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ :
✦ ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)
ป้อมโงเรียวกาคุ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คอีกเเห่งของฮาโกดาเตะเเละของฮอกไกโดที่มีความสวยงามเเละสำคัญอย่างมากทั้งเชิงการท่องเที่ยวเเละประวัติศาสตร์ โดยป้อมเเห่งนี้มีอีกชื่อเรียกว่า ป้อมดาว 5 แฉก โดยที่เป็นรูปดาวห้าเเฉกนั้นเพราะได้รับอิทธิพลในการสร้างป้อมปราการเเบบนี้มาจากตะวันตกโดยเฉพาะฝรั่งเศส เพื่อใช้เป็นฐานในการตั้งปืนใหญ่ปกป้องญี่ปุ่นจากชาติตะวันตกในเวลานั้น โดยที่นี่กลับกลายเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดเเห่งสุดท้ายในช่วงของการปฏิรูปเมจิอีกด้วย เพราะกองทัพรัฐบาลเมจิเเละกองทัพของตระกูลโตกุกาวะปะทะกันขั้นสุดท้ายที่ป้องเเห่งนี้นั่นเอง ที่นี่จึงกลายเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ไป
ป้อมโงเรียวกาคุ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งเเต่ช่วงปลายสมัยเอโดะ เเต่หลังจากชัยชนะของกองทัพรัฐบาลเมจิเเล้ว ก็เปลี่ยนป้อมเเห่งนี้มาเป็นสวนสาธารณะในปี ค.ศ.1910 โดยมีการปลูกต้นซากุระเอาไว้จำนวนมากหลายร้อยต้นบริเวณริมคูน้ำ ทำให้เกิดภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากในฤดูใบไม้ผลิ จนกลายเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ชมซากุระบานที่สำคัญของฮอกไกโด โดยมีจุดท่องเที่ยวที่สำคัญหลายจุดด้วยกันทั้งในส่วนของสะพานข้ามเข้าไปในพื้นที่รูปดาว ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้ในช่วงเวลา 9.00 น. ถึง 19.00 น. ของทุกวัน เเละพื้นที่ใจกลางรูปดาวนั้นก็จะมีอาคารที่สำคัญตั้งอยู่อย่างอดีตที่ทำการรัฐบาลของฝ่ายสาธารณรัฐ ซึ่งเป็นอาคารเดิมของไดเมียที่ปกครองพื้นที่ฮอกไกโดสมัยเอโดะ โดยอาคารดั้งเดิมนั้นถูกทำลายลงในช่วงสงคราม เเต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ เป็นอาคารสถาปัตยกรรมเเบบเอโดะที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยอาคารเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 9.00 น. ถึง 18.00 น. โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 500 เยน
จุดที่สำคัญอีกจุดของป้อมโงเรียวกาคุ ก็คงจะหนีไม่พ้น หอคอยโงเรียวกาคุ ที่มีความสูงกว่า 107 เมตร ซึ่งเป็นรูปเเบบห้าเหลี่ยม โดยตั้งอยู่ทางทิศใต้ของป้อม เเละเป็นจุดชมวิวเเบบ 360 องศาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถชมตัวป้อมได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถเห็นลักษณะของดาวห้าเเฉกได้อย่างงดงามอีกด้วย จึงเป็นที่นิมอย่างมากของนักท่องเที่ยว โดยหอคอยเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลา 8.00 น. ถึง 19.00 น. โดยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 840 เยนสำหรับผู้ใหญ่ เเละ 630 เยนสำหรับเด็ก ส่วนทางด้านของการเข้าชมป้อมนั้นสามารถเข้าชมได้ฟรีทุกวันในเวลา 8.00 น. ถึง 19.00 น.
การเดินทางไปป้อมโงเรียวกาคุ :
ใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานี Hakodate Station ก็ให้คุณใช้บริการของรถรางสาย 2 หรือสาย 5 ก็ได้ โดยมาลงที่ป้าย Goryokaku Koen Mae หลังจากนั้นก็ให้เดินต่อไปทางด้านทิศเหนือเป็นระยะทางประมาณ 750 เมตร ก็จะถึงเเล้ว หรือไม่เช่นนั้นก็สามารถนั่งรถชัตเติลบัสจากหน้าสถานีรถไฟ JR Hakodate ไปลงที่ป้อมได้เลย เพียงเเค่ต้องเช็ครอบเวลาของรถอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากไม่ได้วิ่งทุกวัน
แผนที่ Google Map ป้อมโงเรียวกาคุ :
✦ สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden)
สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ เป็นสวนพืชเขตร้อนขนาดใหญ่อีกเเห่งของญี่ปุ่น ซึ่งสถานที่ตั้งของมันนั้นอยู่ในเขตตัวเมืองฮาโกดาเตะ เเละเป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเองเเละชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่งในการมาชมความสวยงามของธรรมชาติที่สวยงามเเละน่ามาสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
ภายในของสวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ มีความโดดเด่นด้วยเรือนกระจกซึ่งเป็นสถานที่สำหรับเพาะพันธุ์พืชเขตร้อนที่มีมากกว่า 3,000 สายพันธุ์เลยทีเดียว เเละมีโซนอื่นๆ อีกหลายโซนที่เเสดงออกถึงธรรมชาติที่มีความสวยงามของสถานที่เเห่งนี้ พร้อมกันนี้ในช่วงฤดูร้อนที่นี่ยังเป็นสวนน้ำและสนามเด็กเล่น ซึ่งชาวฮาโกดาเตะให้ความนิยมในการมาพักผ่อนกันเเบบครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถมาเล่นน้ำเเละชมความสวยงามของธรรมชาติอีกด้วย
จุดเด่นที่สำคัญของสวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ คือ ในช่วงฤดูหนาวนั้นที่นี่จะเป็นเเหล่งที่ลิงภูเขาจำนวนมากลงไปแช่ออนเซ็น เหมือนกับที่จังหวัดนากาโน่ อีกด้วย โดยลิงภูเขาเหล่านี้จะมีลักษณะพิเศษคือหน้าของพวกมันจะเเดง เเละการที่จะยืนชมพวกมันเเช่ออนเซ็น นั้นต้องยืนชมจากด้านบนเท่านั้นไม่สามารถเข้าไปใกล้ลิงได้ เเละเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาชมกันอย่างมากมาย เเละมีการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างมากอีกด้วย จึงนับว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างมากในช่วงฤดูหนาว โดยสวนเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 9.30 น. จนถึงเวลา 18.00 น. ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ส่วนในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมนั้น จะเปิดในเวลา 9.30 น. จนถึงเวลา 16.30 น. โดยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 300 เยน
การเดินทางไปสวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ :
ใช้บริการของรถรางสาย 5 หรือสาย 2 ก็ได้ โดยให้มาลงที่ป้าย Yunokawa Onsen จากนั้นก็ให้คุณเดินต่อไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร เเล้วให้ข้ามสะพานไปอีกซักเล็กน้อยก็จะพบกับทางเข้าสวนสวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ
แผนที่ Google Map สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ :
✦ อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park)
อุทยานแห่งชาติโอนุมะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามเเละตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองฮาโกดาเตะไปทางทิศเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีภูเขาไฟโคมะงาตาเกะตั้งตะหง่านอยู่อย่างสวยงามเเละมีทะเลสาบที่สวยงามเเละเป็นเเหล่งพักผ่อนที่สำคัญอีกเเห่งของชาวเมืองฮาโกดาเตะ นับว่ามีความสวยงามเเละน่ามาสัมผัสกับบรรยากาศทางธรรมชาติที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง
จุดท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติโอนุมะ มีความน่าสนใจในการมาเที่ยวชมก็มีทั้งในส่วนของทะเลสาบโอนุมะเเละทะเลสาบโคนุมะที่มีความสวยงาม ทำกิจกรรมทางน้ำ ล่องเรือชมธรรมชาติ โดยในช่วงฤดูร้อนนั้นจะมีบริการล่องเรืออีกด้วย โดยใช้เวลาในการล่องเรือรอบละครึ่งชั่วโมง เสียค่าตั๋วคนละ 1,000 เยน หรือใครจะลองพายเรือเเคนู เเละนั่งตกปลาชิลๆ ก็ได้ รวมทั้งมีพื้นที่ของการตั้งเเคมป์ค้างคืนอีกด้วย เเละมีสนามเทนนิสเเละกอล์ฟอีกด้วย
โดยที่พื้นที่บริเวณระหว่างทะเลสาบโอนุมะกับทะเลสาบโคนุมะ ในอุทยานแห่งชาติโอนุมะนั้นมีความน่าสนใจ เพราะเป็นพื้นที่ซึ่งมีเส้นทางในการเดินสำรวจธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากนักเดินป่าเป็นอย่างยิ่ง โดยเส้นทางเดินนั้นจะเป็นเส้นทางเดินที่ผ่านคาบสมุทรเเละเกาะเเก่งต่างๆ ในทะเลสาบ โดยมีการเชื่อต่อกับด้วยสะพานไม้เล็กๆ ซึ่งมีหลายเส้นทางในการเดิน เเละใช้เวลาในการเดินเเตกต่างกันออกไปตั้งเเต่ 15 นาทีจนถึง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีจักรยานเปิดให้เช่าอีกด้วย โดยมีเรทค่าเช่าชั่วโมงละ 500 เยน เเละเรท 1,000 เยนต่อวัน โดยเส้นทางการปั่นนั้นจะมีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติโอนุมะ :
ใช้บริการของรถไฟ JR limited express train โดยมาลงที่สถานี Onuma Koen Station หรือจะใช้บริการของรถไฟท้องถิ่นก็ได้ นอกจากนี้เเล้วก็ยังสามารถใช้เส้นทา งtoll-free หมายเลข 5 จากเมืองฮาโกดาเตะ ด้วยรถยนต์ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงเเล้ว
แผนที่ Google Map อุทยานแห่งชาติโอนุมะ :
เป็นยังไงกันบ้าง น่าสนใจกันไหมคะ สำหรับฮาโกดาเตะ เมืองท่าเมืองแรกของประเทศญี่ปุ่น ใจกลางคาบสมุทรคาเมเดะ วิวเมืองยามค่ำคืนสวยติดอันดับโลก สามารถมองเห็นช่องแคบซึการุจนถึงแผ่นดินใหญ่ บอกเลยว่าความสวยงามนี้จะเป็นที่น่าจดจำ จนคุณไม่มีวันลืมเลยล่ะค่ะ สถาปัตยกรรมยุโรปก็สวยงามไม่แพ้กัน โบสถ์ในรูปแบบต่างนิกาย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ยุโรปจริงๆ ส่วนอาหารนั้น ถ้าไปฮาโกดาเตะก็ต้องไปกินหมึกแดนซ์ให้ได้นะ ถือวาเป็นเอกลักษณ์ของเมืองสุดๆ เลยค่ะ เอาล่ะ สำหรับวันนี้ก็ขอจบการทัวร์ฮาโกดาเตะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น แต่เพียงเท่านี้ ถ้าชอบก็กดไลท์ ใช่ก็กดแชร์ และกดติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ : >>CheckInChill<< ในคราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน ก็รอติดตามชมกันด้วยน๊าาา ~♥