25 ที่เที่ยวสระบุรี 2025 พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ ปิกนิกริมน้ำตกฟิน ๆ ไม่ไกลกรุงเทพ

ขอแนะนำให้รู้จักกับ จังหวัดสระบุรี จังหวัดที่ถูกสันนิษฐานว่า เกิดจากการแบ่งเขตพื้นที่บางส่วนของนครนายก, ลพบุรี และนครราชศรีมา มารวมกันเป็นจังหวัดเดียว อย่าง สระบุรี เมืองรองที่ผู้คนต่างใช้เป็นทางผ่านไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ใครจะคิดล่ะว่า ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลย สภาพภูมิศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสักแสนอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการเพาะปลูกมาก ๆ ที่นี่จึงมีทั้งสวนดอกไม้และสถานที่สวย ๆ วิวปัง ๆ อีกมากมาย กำลังรอให้คุณไปสัมผัสอยู่นะคะ รีบตาม เช็คอินชิลล์ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่า 25 ที่เที่ยวสระบุรี ที่จะพาทุกคนไปพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ ปิกนิกริมน้ำตกแบบฟิน ๆ แถมอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ที่เราคัดมานั้น จะน่าตามมาเที่ยวขนาดไหน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยค่ะ

(สารบัญ) 25 ที่เที่ยวสระบุรี 2568 พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ ปิกนิกริมน้ำตกฟิน ๆ ไม่ไกลกรุงเทพฯ ซ่อน

บรรยากาศมุมกว้าง โดย วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร จ.สระบุรี

เริ่มกันด้วยวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยมาช้านาน อย่าง วัดพระพุทธบาท หรือ วัดพระพุทธฉาย เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยการปกครองของพระเจ้าทรงธรรม  มีความเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ขณะเสด็จบนแผ่นดินเหนือเขาสุวรรณบรรณพต พระองค์ทรงเห็นว่า รอยพระพุทธบาทที่พบมีขนาด กว้าง 21 นิ้ว ยาว 60 นิ้ว ลึก 11 นิ้ว มีลายลักษณ์กงจักร ตรงตามลักษณะ 108 ประการ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปครอบไว้และสถาปนาขึ้นเป็นเจดียสถานสำคัญ พร้อมสร้างพระอารามหลวงต่าง ๆ เพื่อให้ใช้เป็นที่ค้างแรมแก่พระภิกษุหรือสามเณร นับแต่นั้นมาวัดแห่งนี้จึงกลายเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์เกือบทุกพระองค์เข้ามากราบสักการะอย่างเป็นประจำและรับสั่งให้คอยสร้างหรือต่อเติมกันมาหลายสมัย ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ จนในปี พ.ศ. 2478 วิหารหลวงถูกปรับให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ไว้เก็บสะสมวัตถุโบราณและศิลปวัตถุมีค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับวัดพระพุทธบาทและของส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ในแต่ละสมัย เช่น เครื่องสังคโลก, เครื่องทองสำริด, เครื่องทรงพระเจ้าทรงธรรม, ศาสตราวุธโบราณ และยอดมณฑปอันเก่า เป็นต้น ปัจจุบัน พิพิธภัณฑสถานพระพุทธบาท จะเปิดให้เข้าชมแค่ปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงเทศกาลนมัสการพระพุทธบาทและเทศกาลตักบาตรดอกไม้ในวันเข้าพรรษา เท่านั้น

วัดพระพุทธบาท โดย Shutterstock.com
รอยพระพุทธบาท, วัดพระพุทธบาท โดย Sumet Kocharoen
พระพุทธรูปบริเวณด้านหน้ามณฑป , วัดพระพุทธบาท โดย ชาติ คาร์บอย

อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย โดย Rattanakead Yai-aroon

สถานที่ยอดฮิต ยอดนิยม ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับ วัดพระพุทธบาท มีมุมถ่ายรูปเก็บภาพชิค ๆ เท่ ๆ เรียกกันว่า “อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย’’ เป็นอุโมงค์รถไฟลอดภูเขา 1 ใน 7 ของประเทศไทย มีลักษณะโค้งเป็นรูปเกือกม้า ภายในสร้างด้วยคอนกรีต อุโมงค์มีความยาวอยู่ที่ประมาณ 1.2 กิโลเมตร, กว้าง 7 เมตร และสูง 5.5 เมตร บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้และเนินเขา อุโมงค์นี้มีสถานี 2 ฝั่ง คือ สถานีบุใหญ่ กับ สถานีวิหารแดง แนะนำให้ถ่ายรูปฝั่งสถานีบุใหญ่ บริเวณปากอุโมงค์นะคะ เพราะจะมีแสงลอดผ่านมายังตัวอุโมงค์ สวยงามมาก ๆ เลยค่ะ ส่วนฝั่งอุโมงค์สถานีวิหารแดง ด้านในจะค่อนข้างมืด จึงไม่นิยมมาถ่ายรูปฝั่งนี้กันนัก ข้อแนะนำ คือ เวลาถ่ายรูปต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเกิดอันตรายได้ เพราะในปัจจุบันสถานียังเปิดให้บริการอยู่ จึงมีรถไฟวิ่งผ่านปกติ เพราะฉะนั้นอย่าลืม เช็คเวลาเดินรถไฟกันดี ๆ นะ ถ้าได้แวะมาที่วัดพระพุทธบาทแล้ว แนะนำมาก ๆ เลยค่ะ ว่าให้แวะมาที่อุโมงค์พระพุทธฉายด้วย รับรองว่าได้รูปเท่ ๆ ไปลงโซเชียลอวดผู้ติดตามแน่นอนค่ะ

ภาพถ่ายมุมสูง, อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย โดย Paitoon SRIFA
อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย โดย Jirawat Rattanamet
อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย โดย Attaporn Lholamlert
บริเวณด้านในอุโมงค์, อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย โดย Shutterstock.com

น้ำตกสามหลั่น, อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น โดย Shutterstock.com

มาเที่ยวอุทยานน้ำตกกันค่ะ เดิมถูกจัดให้เป็นวนอุทยาน อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนเขาพระพุทธฉาย มีเนื้อที่เพียง 24 ตารางเมตร ภายหลังกรมป่าไม้จัดตั้งกองอุทยานแห่งชาติขึ้น จึงโอนย้ายจากวนอุทยานมาเป็นอุทยานแห่งชาติแทน แล้วเปลี่ยนชื่อจาก “อุทยานเขาพระพุทธฉาย” เป็น “อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น” เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะน้ำตกที่สวยงามโดดเด่น อย่าง น้ำตกสามหลั่น ตัวน้ำตกมีลักษณะเป็นลานหินกว้างซ้อนกันลงมาสามชั้น ลดหลั่นกันลงมาประมาณ 5 เมตร น้ำแห้งเกือบทั้งปี ยกเว้นช่วงฤดูฝน จึงจะมีน้ำมากพอให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นกันได้ ผืนป่าโดยรอบมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถเดินสำรวจตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้ ระหว่างทางเต็มไปด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่าที่สามารถพบเห็นได้ง่าย นอกจากนี้ในบริเวณอุทยานฯ ยังมีอ่างเก็บน้ำอีก 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำสามหลั่น, อ่างเก็บน้ำรวก และอ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล ที่ทางอุทยานฯ เปิดให้สามารถกางเต็นท์นอนได้นะคะ สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย หรือใครไม่อยากค้างคืนมานั่งปิคนิกเอาบรรยากาศเฉย ๆ ก็แฮปปี้แล้ว แต่หากอยากมาแค่น้ำตกแนะนำช่วงฤดูฝน เท่านั้นนะคะ

ชาวไทย

  • เด็ก ราคา 10 บาท / คน (อายุ 3 – 14 ปี)
  • ผู้ใหญ่ ราคา 20 บาท / คน (อายุ 15 ปี ขึ้นไป)
    ** เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี , ผู้สูงอายุ, ผู้พิการ, นักบวชหรือพระ เข้าฟรี

ชาวต่างชาติ

  • เด็ก ราคา 50 บาท / คน
  • ผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท / คน
  • รถจักรยาน ฟรี
  • รถจักรยานยนต์ ราคา 20 บาท / คัน
  • รถยนต์ 4 ล้อ ราคา 30 บาท / คัน
ทางเข้าน้ำตกสามหลั่น, อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น โดย Chaianan Chaiyes

น้ำตกสามหลั่นและอ่างเก็บน้ำ, อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น โดย Shutterstock.com
ที่นั่งชมวิวริมอ่างเก็บน้ำ, อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น โดย Sittichai Sasena

ภาพมุมไกลของอาคารร้าน โดย ร้านอาหาร Cafe Laura Bar & Restaurant สาขา2 หนองแค สระบุรี 

Cafe Laura Bar And Restaurant (ลอร่า) คาเฟ่สไตล์ยุโรป เรียบง่ายแต่หรูหรา ตื่นตาแต่ก็เป็นกันเอง โดดเด่นด้วยเมนูสุดหลากหลายที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวหลากรูปแบบ อาทิ อาหารยุโรป, อาหารไทย, บาร์กาแฟ, ขนมหวาน, ค็อกเทล และไวน์ ท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ยามเย็นนั่งฟังดนตรีสดฟิน ๆ สบาย ๆ ปัตยกรรมแสนสวยท่ามกลางธรรมชาติแสนสงบที่เหมาะกับการมานั่งทานอะไรอร่อย ๆ มากเลยค่ะ ด้านในมีที่นั่งในเลือกมากมายทั้งโซนนั่งจิบชากาแฟแบบเรือนกระจก และโซนอาหารตรงบริเวณอาคารกลมคล้ายคอลอสเซียมแบบย่อส่วนมาแล้ว สามารถเลือกนั่งได้ตามใจชอบทั้งด้านล่าง-ด้านบนเลยน้า โดยตัวร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาเขาสามหลั่นเท่าไหร่นัก แวะเที่ยวน้ำตกเสร็จแล้ว พาครอบครัวแวะมานั่งทานของกินอร่อย ๆ ที่นี่ก่อนค่อยกลับ บอกเลยว่าคอมพลีทเป็นวันดี ๆ อีกหนึ่งวันในการเที่ยวแน่นอน

ภาพบบรยากาศรวมของร้าน โดย ร้านอาหาร Cafe Laura Bar & Restaurant สาขา2 หนองแค สระบุรี 

ลานพระพุทธรูปหินลาวา, วัดถ้ำกระบอก โดย Shutterstock.com

วัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก เรื่องการรักษาคนไข้ที่ติดยาเสพติด วัดถ้ำกระบอก วัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2500 โดยหลวงพ่อใหญ่, พระอาจารย์จำรูญ และพระอาจารย์เจริญ ปานจันทร์ บนที่ดินที่ชาวบ้านถวายให้สร้างวัด เดิมพระอาจารย์เคยเป็นตำรวจจับยาเสพติดมาก่อนที่จะมาบวชเป็นพระ จึงมุ่งมั่นและตั้งใจมากที่ให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคม พระอาจารย์ถือเป็นนักสังคมสงเคราะห์รายแรก ๆ ของไทยเลย โดยวิถีที่ใช้ คือ ให้กินยาสมุนไพร, อบตัวด้วยสมุนไพร เพื่อลดความเครียดและขับพิษออกจากร่างกาย ในระยะเวลา 15 วัน ไม่น่าเชื่อว่าสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้ถึง 90 % เลยทีเดียว เชื่อกันว่าตั้งแต่อดีตมามีผู้ที่ได้รับการรักษาจากวัดนี้จนหายดีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 56,000 คน นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปหินลาวา ขนาดใหญ่อีกมากมายในอิริยาบทต่าง ๆ องค์พระพุทธรูปมีลักษณะเป็นสีดำล้วนทั้งองค์ ทำจากแร่หินภูเขาที่เอามาหลอมให้ละลายออกมาคล้ายลาวาที่แข็งตัวและหล่อเป็นองค์พระพุทธรูปลักษณะต่าง ๆ ตั้งรายล้อมรอบอนุสรณ์เล็กสีดำ ที่ด้านหลังถูกโอบด้วยภูเขาอีกทีนึง สวยสด งดงาม แปลกตามาก จนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดให้เป็น 1 ใน 25 Unseen Thailand ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่มาสระบุรีแล้ว ไม่ควรพลาดเลยนะคะ

พระพุทธรูปหินลาวาและด้านหน้าอุโบสถ, วัดถ้ำกระบอก โดย Shutterstock.com
ด้านในอุโบสถ, วัดถ้ำกระบอก โดย Apisit UPC dotnet
หน้ามูลนิธิ, วัดถ้ำกระบอก โดย Chanyaphorn Ploy

บริเวณริมอ่างเก็บน้ำ, เจ็ดคตโป่งก้อนเส้า โดย Shutterstock

มาแล้ว ๆ ที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแบบสุด ฟีลเหมือนขึ้นเหนือไปไกลแต่อยู่ใกล้แค่นี้เอง กับ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคตโป่งก้อนเส้า ผืนป่านับ 10,000 ไร่ ที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ถูกแยกออกมาให้อยู่ในความดูแลของสำนักบริหารการอนุรักษ์ที่ 1 จังหวัดสระบุรี ภายในแบ่งแยกสัดส่วนอย่างชัดเจน สถานที่ท่องเที่ยว, ร้านค้า, ลานกางเต็นท์, บ้านพัก, ห้องน้ำ และศูนย์ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของผืนป่าขนาดกว้างนี้ คือ “น้ำตกเจ็ดคต” กับ “จุดชมวิวมอเครือ” นั่นเอง ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสวยงามของธรรมชาติเป็นอย่างมาก ประกอบไปด้วยอ่างเก็บน้ำ, ผืนหญ้า, ผืนป่าขนาดใหญ่ และภูเขาเขียวขจี ช่างถูกใจสายแคมป์ สายธรรมชาติยิ่งนัก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมานอนกางเต็นท์ท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ แบบนี้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในช่วงฤดูฝนที่นี่ยังมี เห็ดแชมเปญ เป็นไฮไลต์ที่สวยงามแปลกตา ให้ได้ชื่นชมอีกด้วยนะคะ ถือว่ามีกิจกรรมให้ทำมากมาย มาแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ

เจ็ดคตโป่งก้อนเส้า โดย KKRIDER KwarimE
น้ำตกเจ็ดคต, เจ็ดคตโป่งก้อนเส้า โดย Shutterstock.com
จุดชมวิวมอเครือ, เจ็ดคตโป่งก้อนเส้า โดย Nicha Mt
เห็ดแชมเปญ, เจ็ดคตโป่งก้อนเส้า โดย Shutterstock.com

บริเวณพื้นที่วัด, วัดแก่งคอย โดย Puey Ounjai

อีกหนึ่งวัดที่มีความน่าสนใจมาก ๆ ในสระบุรี กับ วัดแก่งคอย ริมแม่น้ำป่าสัก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2330 เดิมชื่อว่า วัดแร้งคอย เนื่องจากต้นไม้และป่าลกร้างในบริเวณถูกถาง ตัดออกจนหมด เหลือไว้เพียงต้นยางใหญ่ริมแม่น้ำเพียงไม่กี่ต้น ต้นไม้ที่เหลืออยู่จึงกลายเป็นที่อยู่อาศัยของแร้งจำนวนมาก ที่หาอาหารกินยากจนจิกตีกันตกมาตาย ให้ชาวบ้านในบริเวณได้เห็นกันเป็นประจำ ต่อมามีบ้านเรือนถูกสร้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเจ้าอาวาสและชาวบ้านจึงเห็นตรงกันว่า ควรเปลี่ยนชื่อวัดให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้าน จึงได้เปลี่ยนมาใช้ว่า แก่งคอย ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน บริเวณวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระธาตุอินแขวนองค์จำลอง ประดิษฐานอยู่หลังอุโบสถ, ถ้ำนาคา ท้ายวัด สร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ ทำจากหินแกรนิต ภายในประดิษฐานพญานาค และ พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช พร้อมประดับตกแต่งถ้ำด้วยแสงสีสันราวกับมนต์สะกดจนกลายเป็นสถานที่โด่งดังของวัด, อนุสาวรีย์ผู้ประสบภัยทางอากาศ เพื่อระลึกถึงทหารญี่ปุ่นและชาวบ้านที่โดนระเบิดเสียชีวิตในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดพิธีรำลึกทุกวันที่ 2 เมษายน ในทุก ๆ ปี, พระธาตุเจดีย์ศรีป่าสัก องค์สีขาว ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นต้น

พระธาตุอินแขวนองค์จำลองบนปากทางเข้าถ้ำ, วัดแก่งคอย โดย Newtana_th Only you
พญานาคในถ้ำ, วัดแก่งคอย โดย Shutterstock.com
ปู่นาคราช , วัดแก่งคอย โดย Pen Cil
อนุสาวรีย์ผู้ประสบภัยทางอากาศ, วัดแก่งคอย โดย Supat Promdee (มิน)

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีป่าสัก, วัดแก่งคอย โดย manoch Phakphian

ทุ่งทานตะวันคุณสุรัตน์ โดย Tanakorn Tham

ถ้าพูดถึงการทำการเกษตรในจังหวัดนี้ ทุกคนต้องนึกถึงทุ่งทานตะวันก่อนเป็นอับดับแรกแน่ ๆ จังหวัดสระบุรี มี 13 อำเภอ ก็คือปลูกไปแล้ว 6 อำเภอ ครึ่งต่อครึ่งกันเลยทีเดียว จนเป็นทุ่งที่อยู่คู่กับจังหวัดนี้ไปแล้ว แน่นอนว่า มีทุ่งทานตะวันมากมายให้ได้เลือกชม ถ้าจะต้องให้เลือกสักทุ่งหนึ่ง ขอลเลือกเป็น ทุ่งทานตะวันคุณสุรัตน์ เพราะเป็นทุ่งที่อยู่มานานคนส่วนใหญ่ก็รู้จักกันดี โดดเด่นด้วยดอกทานตะวันสีเหลืองอร่ามทั่วบริเวณ พร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ตามจุดต่าง ๆ มีของขายเล็กน้อยไว้ให้ซื้อกลับไปเป็นของฝาก ช่วงที่แนะนำที่สุด คือ กลางเดือนพฤศจิกายน – มกราคม จะเป็นช่วงที่ดอกทานตะวันบานสะพรั่งและสวยงามที่สุด มาช่วงเช้าก่อนเที่ยงได้ยิ่งดีเพราะแสงจะสวยมาก ๆ ถ่ายยังไงรูปก็ปัง นอกจากจะได้ดื่มด่ำวิวทิวทัศน์ที่ดีแบบนี้แล้ว ถ้าอยากมาเที่ยวทุ่งทานตะวันใกล้กรุงเทพละก็ขอให้นึกถึงที่นี่เป็นที่แรกเลยนะ

💰  ราคา :

  • ค่าเข้า 20 บาท / คน
ทุ่งทานตะวันคุณสุรัตน์ โดย Piya Nimityongskul
ทุ่งทานตะวันคุณสุรัตน์ โดย Roch
ทุ่งทานตะวันคุณสุรัตน์ โดย Parichat Deeudom

เจดีย์ 500 ยอด , วัดป่าสว่างบุญ โดย Shutterstock.com

 วัดป่าสว่างบุญ หรือนิยมเรียกกันว่า วัดเจดีย์ 500 ยอด เป็นวัดราษฎ์บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ที่สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน ในปี พ.ศ. 2528 เนื่องจากเนื้อที่ติดกับเชิงเขาทำให้ บริเวณวัดอากาศเย็นสบาย เงียบสงบ ผู้คนจึงนิยมเข้ามาปฏิบัติธรรมที่วัดเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งในปี 2548 เหล่าผู้ศรัทธาทั้งหลายร่วมกันสมทบทุนสร้างเจดีย์ขึ้นมา โดยมีเจดีย์พระประธาน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตร อยู่ตรงกลางยอดชั้นบนสุด แล้วสร้างเจดีย์เล็กล้อมรอบฐานเป็นลักษณะวงกลม รวม 9 ชั้น องค์เจดีย์เคลือบสีทองอร่าม ทั้งหมด 500 องค์ และประทานชื่อว่า “พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ” หลังจากสร้างเจดีย์เสร็จ ในปี พ.ศ. 2550 หลวงพ่อได้ไปอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากประเทศอินเดีย เนปาล และศรีลังกา มาประดิษฐานไว้ในเจดีย์เล็กรวมกว่าหมื่นองค์ ส่วนเจดีย์ประธานองค์ใหญ่ตรงกลาง ภายในประดิษฐานเจดีย์องค์เล็กไว้อีกที ประดับด้วยกระจกทับทิมและด้านบนเพดานมีการจัดแสดง ภาพเจดีย์สำคัญต่าง ๆ ที่ประดิษฐานอยู่ทั่วประเทศไทย นอกจากนั้นยังได้สร้าง พระพุทธรูปหินปางปรินิพพาน ที่ทำจากหินก้อนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ถือเป็นวัดที่ผู้คนต่างนิยมเข้าไปกราบสักการะและชื่นชมความสวยงามของเจดีย์กันเป็นอย่างมาก หากได้มาแถวนี้แล้ว ห้ามพลาด ที่จะแวะชมวัดนี้เลยนะคะ

วัดป่าสว่างบุญ โดย Shutterstock.com
พระพุทธรูปหินปางปรินิพพาน, วัดป่าสว่างบุญ โดย NorthGear 50

มุมยอดฮิต, หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ โดย Tp tp

พอได้ยินว่า หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ หลายคนคงจะงง ๆ ว่า คือที่ไหน แต่มักรู้จักกันดีเมื่อบอกว่า บริเวณ ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ฝั่งจังหวัดสระบุรี ลานสนามหญ้ากว้างเขียวขจี ตัดกับแม่น้ำ และเส้นขอบฟ้า เป็นวิวที่สวยงามมาก อากาศร่มรื่น ลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา เนื่องจากที่นี่เป็นลานกว้างโล่ง ๆ ช่วงตอนกลางวันแดดอาจจะแรงสักหน่อย แนะนำมาช่วงหลัง 4 โมงเย็น หรือ ช่วงเช้าก่อน 9 โมง จะเป็นช่วงที่ชาวบ้านพาน้องวัว, แพะ, แกะ ที่เลี้ยงไว้เดินออกหากินพอดี เราสามารถเข้าไปขอถ่ายรูปได้เลยนะคะ เขาจะมีบริการซื้ออาหารให้น้องทานด้วย ผักกำละ 20 บาทเอง ยิ่งถ้าน้องตัวเล็ก สามารถอุ้มได้ด้วยนะ ได้ฟีลต่างประเทศสุด ๆ เลยล่ะ บรรยากาศก็ดีมาก ๆ จนนักท่องเที่ยวนิยามชื่อสถานที่นี้ว่า “นิวซีแลนด์เมืองไทย” และเรียกกันต่อ ๆ มา ที่นี่สามารถขับรถเข้ามาจอดกางเต็นท์นอน หรือจะนั่งปูเสื่อปิคนิกบนสนามหญ้าก็ทำได้หมดเลย แต่สิ่งอำนวยความสะดวก มีแค่ห้องน้ำที่หน่วยเพียง 1 ห้อง เท่านั้นนะ ไม่แนะนำให้มาช่วงน่าฝนนะคะ เพราะน้ำจะท่วมขึ้นมาบนสนามหญ้าไม่มีที่ให้เรานั่งนะ อีกอย่างที่นำเสนอเลย คือ ที่นี่พระอาทิตย์ตกสวยมาก สวยแบบตาแตกไปเลยแม่

โต๊ะไว้นั่งแคมปิ้ง, หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ โดย เอ โต้
ลานสนามหญ้าใกล้ ๆ หน่วยฯ , หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ โดย Panupol Harntrikanont
เหล่าเจ้าแพะน้อย, หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ โดย Ponsak A. 
นักท่องเที่ยวให้อาหารแพะ, หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ โดย Good Time
พระอาทิตย์ตก, หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ โดย PAWATPHAWIN NIMMUANG

ป้ายบงบอกสถานที่ โดย สวนพฤกษศาสตร์พุแค

สวนพฤษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย อีกหนึ่งสถานที่ที่บรรยากาศดีสุด ๆ ในภาคกลาง กับ สวนพฤษศาสตร์พุแค ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพระพุทธบาท-พุแค เนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ ภายใต้การดูแลของกรมป่าไม้ เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว, สถานศึกษา, ที่พักผ่อน และศูนย์วิจัย ด้วยทัศนียภาพที่ร่มเย็น เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี เดิมชาวบ้านแถวนี้จึงเรียกสถานที่นี้ว่า “สวนสวรรค์” ว่ากันว่าสมัยก่อนมีดอกไม้ป่ามากมายโตอยู่แค่ในบริเวณ ส่งกลิ่นหอมฟุ่งกระจายไปทั่วพื้นที่ ราวกับสวนที่หลุดมิติมาจากโลกนิยาย ด้านในแบ่งโซนเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน มีพรรณไม้ทั่วไทยและต่างประเทศมากมาย เจริญเติบโตอยู่ ทั้งพรรณไม้มีค่า, หายาก, ใกล้สูญพันธุ์ ที่นี่ก็มีให้ได้ชมอย่างหลากหลาย เรียกว่าแหล่งรวมพรรณไม้ทั่วประเทศไทยถูกนำมาปลูกไว้ที่นี่หมดแล้วก็ยังได้ และมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่ระยะทางเพียง 1,500 เมตร แต่สามารถพบพรรณไม้ได้เยอะมากถึง 4,000 ชนิด อีกทั้งในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีตลาดขายของพื้นเมืองเล็ก ๆ ที่ขนของกิน ของใช้โบราณมากมายมาให้เราได้ชอป อีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการมาพักผ่อน หย่อนใจ สูดอากาศชดชื่น ๆ หรือ จะมาออกกำลังกาย เดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน ก็เหมาะสุด ๆ

ริมบึงและสวนหิน, สวนพฤกษศาสตร์พุแค โดย Shutterstock
เวทีไว้จัดกิจกรรม, สวนพฤกษศาสตร์พุแค โดย FozziL Seasons

ตลาดเล็ก ๆ ด้านใน, สวนพฤกษศาสตร์พุแค โดย FozziL Seasons

มุมถ่ายรูป, ตลาดหัวปลี โดย Anan Nawakitbumrung

ตลาดหัวปลี ตั้งอยู่ในศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์ ตลาดเชิงเกษตรสไตล์บ้าน ๆ บนเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ เดิมบริเวณนี้เป็นเพียงสวนปลูกกล้วยไม้ ตลาดเกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านช่วยกันสร้างขึ้นมาด้วยกัน การขายของในตลาดจึงไม่มีการเก็บค่าที่ใด ๆ พ่อค้าแม่ค้าอยู่ร่วมกันเหมือนครอบครัว จึงเป็นตลาดที่มีแต่ความสุขและรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยว พอเข้ามาภายในบรรยากาศก็ร่มรื่น เย็นสบาย บริเวณตลาดถูกโอบล้อมไปด้วยซุ้มไผ่และต้นไม้ใหญ่ ให้ความรู้สึกดีสุด ๆ ที่นั่งทานอาหารมีมากมาย จุดถ่ายรูปก็หลายจุด จัดมุมตกแต่งไว้เพียบ ของซื้อของขายก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งของกิน, ของใช้, ขนมไทย, ของแฮนเมด และผักปลอดสารพิษ ความน่ารักอีกอย่าง คือ ที่นี่เขาไม่ใช้พลาสติกเลย ภาชนะที่ใช้ใส่อาหารจะเป็นของจากธรรมชาติทั้งหมดเลยนะ เช่น ใบตองหรือกาบหมาก เป็นต้น อีกทั้งด้านในสุดของตลาดยังมีบึงนาบัวให้เราได้นั่งชื่นชมธรรมชาติอีกด้วยนะ ใครกำลังมองหาสถานที่ชิลล์ ๆ เดินเล่น หาของกินเพลิน ๆ ในวันหยุดแนะนำเลยค่ะ

เรือนสมุนไพร, ตลาดหัวปลี โดย Anan Nawakitbumrung

ร้านกาแฟสดและกาละแมโบราณ, ตลาดหัวปลี โดย สุรัตน์ ศรีถมยา

ร้านขนมไทย, ตลาดหัวปลี โดย Insee C

หน้าโซนขายของกิน, ตลาดหัวปลี โดย ประไพพิศ ศรีมาวงษ์


ดอกเบญจมาศหลากสี, สวนดอกเบญจมาศบิ๊กเต้ โดย Shutterstock.com

สวนดอกไม้ใกล้กรุงเทพฯ ที่ทุกคนต่างก็ชื่นชอบ ที่จะแต่งตัวสวย ๆ มาถ่ายรูป กับ สวนดอกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดในสระบุรี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ สวนดอกเบญจมาศบิ๊กเต้ เดิมที่นี่ปลูกดอกเบญจมาศเพื่อจำหน่ายอยู่แล้ว พึ่งจะมาเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ในสวนจึงมีดอกเบญจมาศกว่า 30 พันธุ์ หลากสีสัน และดอกไม้นานาชนิด ที่ปลูกไว้หลายแปลง ภายในโรงเรือนสีขาวท่ามกลางหุบเขา บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ด้วยทำเลที่ดีนี้ ทำให้มีอากาศที่เย็นสบาย นักท่องเที่ยวจึงสามารถเข้ามาชมความสวยของดอกไม้ กันได้ตลอดทั้งปี ถ้าใครเดินทางมาเหนื่อย ๆ สามารถแวะคาเฟ่ ตรงบริเวณทางเข้าด้านหน้า ก่อนได้นะคะ ภายในจะมีทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่คอยให้บริการ แวะดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ทานเค้กอร่อย ๆ เพื่อจะได้มีแรงไปตะลุยถ่ายภาพในสวนได้ครบทุกมุม นอกจากจะเข้ามาชม มาเก็บภาพสวย ๆ แล้ว ที่นี่ยังสามารถซื้อดอกไม้ภายในสวน กลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วยนะคะ

💰  ราคา :

  • ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ราคา 30 บาท / คน
สวนดอกเบญจมาศบิ๊กเต้ โดย Shutterstock.com
สวนดอกเบญจมาศบิ๊กเต้ โดย k prompitak
สวนดอกเบญจมาศบิ๊กเต้ โดย สวนเบญจมาศบิ๊กเต้
คาเฟ่หน้าทางเข้า, สวนดอกเบญจมาศบิ๊กเต้  โดย GS Robert

อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก โดย Shutterstock.com

ใครที่เบื่อวิวตึกแล้ว แนะนำให้ขับรถมาชมวิวภูเขากลางอ่างเก็บน้ำสวย ๆ กันค่ะ  อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค โครงการที่ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของคนในอำเภอวังม่วง เป็นอ่างเก็บน้ำที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาเล็ก ๆ มากมาย มีถนนเลียบยาว 6 กิโลเมตร ตัดผ่านรอบสันอ่าง เกิดเป็นวิวธรรมชาติที่สวยงามมาก ๆ แล้วยังสามารถมองออกไปเห็นวิวสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้อีกด้วย ที่นี่ถือได้ว่า เป็นสถานที่ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย หายเหนื่อยได้ดีเลยล่ะ  สามารถมาเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน หรือเล่นสเก็ตบอร์ด บนบริเวณถนนได้เลยค่ะ เพราะถนนเส้นนี้จะไม่ค่อยมีรถผ่าน สามารถเลือกทำกิจกรรมที่ชอบกันได้ตามใจเลย หรือ ใครจะจอดรถเปิดท้ายนั่งปิกนิก ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ก็สวยงามโรแมนติกไปอีกแบบ รับรองว่า ต้องประทับใจกับวิวตรงหน้ากันอย่างแน่นอนค่ะ

อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก โดย Shutterstock.com
ภาพถ่ายมุมสูง, อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก โดย BIGSHOW LOWLAR
พระอาทิตย์ตก, อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก โดย M Korn

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดย Shutterstock.com

น้ำตกยอดฮิตที่เมื่อพูดถึงสระบุรีแล้ว ชื่อแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึง ก็ต้องเป็น น้ำตกเจ็ดสาวน้อย แน่นอน ที่ได้ชื่อนี้เพราะเดิมน้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ใน หมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อว่า เสาน้อย และจากการสำรวจของเจ้าหน้าที่พบว่า มี  7 ชั้น จึงได้เพี้ยนมาใช้ชื่อว่า “เจ็ดสาวน้อย” ตั้งแต่นั้นมา เป็นน้ำตกที่มีต้นน้ำมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลลดหลั่นกันลงมา 7 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะมีความสูงไม่ต่างกันมาก เฉลี่ยจะอยู่ที่ 1-4 เมตร คนนิยมลงเล่นน้ำกันในบริเวณชั้นที่ 1-4 เพราะบริเวณชั้นที่ 5-7 น้ำจะแรงไม่เหมาะกับการลงเล่น ด้านบนจึงมีความสงบเป็นอย่างมากเหมาะกับการเดินชื่นชมธรรมชาติมากกว่า ทางขึ้น-ลง ค่อนข้างเรียบและเดินง่าย หมดห่วงเรื่องอันตรายได้เลย เพราะภายในบริเวณอุทยานฯ จะมีเจ้าหน้าที่คอยเดินตรวจสอบความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวสม่ำเสมอ จริง ๆ ที่นี่คนนิยมมาเล่นน้ำคลายร้อนกันตลอดทั้งปี เหมาะมากสำหรับการมาพักผ่อน เล่นน้ำเย็น ๆ รับลมสบาย ๆ

💰 ราคา :

ชาวไทย

  • เด็ก ราคา 10 บาท / คน (อายุ 3 – 14 ปี)
  • ผู้ใหญ่ ราคา 20 บาท / คน (อายุ 15 ปี ขึ้นไป)
    ** เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี , ผู้สูงอายุ, ผู้พิการ, นักบวชหรือพระ เข้าฟรี

ชาวต่างชาติ

  • เด็ก ราคา 50 บาท / คน
  • ผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท / คน

ธารน้ำตก, น้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดย Shutterstock.com
บริเวณยอดนิยมในการเล่นน้ำ, น้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดย อนุชา เปรมวุติ
อุปกรณ์ช่วยชีวิต, น้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดย Moto Camp VISA84

ริมน้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดย เพลินธาร โฮริก้า Plerntaan Ho Re Ca 

เพลินธาร โฮริก้า (Plerntaan HoReCa) คาเฟ่ติดน้ำตกเจ็ดสาวน้อยที่มาพร้อมบริการห้องพักและลานกางเต็นท์ท่ามกลางบรรยากาศฟิน ๆ ของแดนดินธรรมชาติ แวดล้อมด้วยพืชพรรณธรรมชาติ ตั้งอยู่ทางเข้าเขตฝั่งจังหวัดนครราชสีมาสุดเขตสระบุรีพอดี ห่างจากลานกางเต็นท์นับดาว ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเพียง 1 กิโลเมตร เท่านั้น บรรยากาศสงบ ร่มรื่น และเป็นกันเอง ละอองไอน้ำบวกกับความต้นไม้ป่าเขา การันตีเลยว่านั่งเอาท์ดอร์ก็เย็นสบายตลอดทั้งวัน สามารถจิบชา-กาแฟ ชิลล์ ๆ ริมธารน้ำ ฟังเสียงน้ำตกไหลเพลิน ๆ ได้แบบฟิน ๆ เลยล่ะ ทางด้านเมนูอาหารก็มีให้เลือกมากมายทั้งสไตล์ไทยและอิตาลีแบบผสมผสาน รวมถึงเครื่องดื่มและเบเกอรี่ของหวานที่หน้าตาน่ารับประทานมาก ๆ เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งร้านใกล้กรุงเทพฯ ที่ควรค่าแก่การแวะมาเยือนมากค่ะ

💰 ราคา :

  • ค่าเข้าสถานที่ ราคา 50 บาท / คน (สามารถใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารได้)

ภาพบรรยากาศโซนต่าง ๆ ของร้าน โดย เพลินธาร โฮริก้า Plerntaan Ho Re Ca 

น้ำตกดงพญาเย็น โดย JO JACK

น้ำตกดงพญาเย็น ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของศูนย์ควบคุมไฟป่า จ.สระบุรี ตั้งอยู่ห่างจาก น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เพียง 400 เมตร และมีต้นน้ำมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เหมือนกัน น้ำตกมีลักษณะเป็นหินปูนขนาดเล็ก ที่ไหลลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น ๆ มีสีเขียวใส มองเห็นตัวปลาน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก มีแหล่งน้ำให้ลงเล่น 3 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 บริเวณทางเหนือสะพานไม้ ขึ้นไป มีแอ่งน้ำ 2-3 แอ่ง โซนนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับเด็ก ๆ เพราะน้ำมีความตื้นสม่ำเสมอกัน
โซนที่ 2 บริเวณอีกฝั่งของสะพานไม้ บริเวณนี้น้ำจะมีความตื้นและลึกเป็นบางจุด หินเล็กหินน้อยเยอะ ต้องคอยระวังนิดนึง เด็ก ๆ สามารถลงเล่นได้แต่ควรมีผู้ใหญ่คอยดูแล
โซนที่ 3 บริเวณใต้น้ำตก จุดนี้น้ำจะมีความลึก เหมาะกับวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่ว่ายน้ำเป็น เด็กไม่ควรลงเล่นในบริเวณนี้ เพราะอาจเป็นอันตรายได้
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งร้านอาหารที่สั่งมานั่งกินริมแคร่ไม้ไผ่ได้, จุดเช่าชูชีพกับห่วงยาง, ชิงช้าริมน้ำตก และเชือกโหนจากต้นไม้ เป็นต้น อีกอย่าง คือ ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  จึงเหมาะมากสำหรับการมาพักผ่อนกับครอบครัว รับรอง ลูก ๆ หลาน ๆ ต้องติดใจจนอยากให้พากลับมาอีกแน่นอน

บริเวณโซนเล่นน้ำ โดย  น้ำตกดงพญาเย็น
บริเวณน้ำตื้น, น้ำตกดงพญาเย็น โดย Woranuch Siriluan

ภาพบรรยากาศในบริเวณ โดย น้ำตกชัยปิติ ลานกางเต๊นท์ เที่ยวน้ำตก ที่พัก

อีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายชิลล์ เดินทางมาง่ายอยู่ไม่ไกลกรุงเทพเท่าไหร่นัก กับ น้ำตกชัยปิติ สถานที่พักผ่อนริมธารน้ำสุดบรรยากาศดี ที่พร้อมให้บริการทั้งลานกางเต็นท์ ห้องพัก รวมถึงร้านเครื่องดื่มและร้านอาหารริมน้ำตก ที่ตั้งอยู่ระหว่างน้ำตกดงพญาเย็นและน้ำตกตายาย หนึ่งในเส้นทางของอาณาเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยและเนื่องจากเป็นสถานที่แห่งใหญ่มีเนื้อที่ป่าเขากว่า 200 ไร่ จึงเป็นสถานที่จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีอยู่บ่อยครั้ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามากันเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนคือเป็นช่วงที่เหมาะกับการมาที่นี่มากที่สุด แถมสามารถมาพักผ่อนแบบเช้า-เย็นกลับก็ได้ หรือจะเลือกนอนค้างคืนเอาฟีลก็ได้เช่นกันน้า

💰  ราคา :

  • ค่าเข้าสถานที่ 20 บาท / คน , เด็กสูงไม่เกิน 100 ซม. เข้าฟรี (ใช้บริการห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำฟรี)
  • ค่ากางเต็นท์นำมาเอง ราคา 150 บาท / คน / คืน (เด็ก 80 บาท/ คน/ คืน)
  • บริการแคร่นั่งทานอาหารริมน้ำตก ราคา 600 บาท สามารถนั่งได้ตลอดทั้งวัน

บรรยากาศรวม ๆ โดย น้ำตกชัยปิติ ลานกางเต๊นท์ เที่ยวน้ำตก ที่พัก

บรรยากาศการขับ ATV โดย สระบุรีล่องแก่งภูเกาะและเอทีวี มินิออฟโรส

แหล่งทำกิจกรรมสุดเล้าใจในสระบุรีที่เหมาะกับนักผจญภัยทั้งหลาย จะเป็นที่ไหนได้ ถ้าไม่ใช่ ภูเกาะล่องแก่ง สถานที่ขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมล่องแก่งและขับ ATV ความสนุกสนานที่มาพร้อมการผจญภัย สายลุยต้องมาลอง ถึงผจญภัยจัดเต็มแต่ก็ไม่อันตราย เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือเราในทุกกิจกรรม บอกเลยว่าตื่นตาตื่นใจตั้งแต่เริ่ม ด้วยสไลด์เดอร์เรือยางลงสู่แก่งน้ำวนตามซอกหินที่ทำให้เรือยางโลดแล่นไปอย่างเล้าใจ นี่แหละที่เป็นกิจกรรมทางน้ำสุดเล้าใจที่อยู่คู่กับคนไทยเรามาอย่างยาวนานมาเล่นเมื่อไหร่ก็สนุก ส่วนทางด้าน ATV ก็ถือเป็นกิจกรรมทางบกยอดฮิตของเมืองไทยจังหวัดไหนอยู่ติดป่าติดเขาหน่อยก็ต้องมีเป็นเส้นทางสำรวจ บอกเลยนะ ไม่ว่าคุณจะชอบทางบกหรือทางน้ำ มาที่นี่ครั้งเดียวได้สนุกทั้ง 2 กิจกรรมสนุกเล้าใจคุ้มค่าที่มาแน่นอน

💰 ราคา : ค่าทำกิจกรรม

  • ล่องแก่ง ราคา 300 บาท / คน
  • ขับ ATV ราคา 300 บาท / คน
  • เหมารวม 2 กิจกรรม ราคา 500 บาท / คน
    **สามารถติดตามโปรโมชั่นดี ๆ ได้ทางหน้าเพจเลยนะคะ

บรรยากาศรวมทั้ง 2 กิจกรรม โดย สระบุรีล่องแก่งภูเกาะและเอทีวี มินิออฟโรส

ภาพบรรยากาศธรรมชาติยามเย็น โดย Wonderland Saraburi 

Wonderland สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนันทนาการแห่งใหม่ ที่เหมาะสำหรับคนทุกรุ่นทุกวัย มีทั้งโซนสวนสัตว์ ที่มากไปด้วยสัตว์ป่า สัตว์เลี้ยงมากมายหลายชนิด, สวนสนุก ที่มีความเสียวให้เลือกหลายระดับตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ, สวนน้ำ สถานที่คลายร้อนที่พร้อมเอาใจวัยรุ่นที่อยากหลั่งอะดรีนาลีน และโซนสวนไดโนเสาร์จำลอง ที่ทำออกมาได้เหมือนจริงมาก เหมือนหลุดเข้าไปในโลกยุคหินจริง ๆ อีกทั้งยังมีโซนถ่ายรูปมากมายที่ถูกจัดตกแต่งอย่างตั้งใจแบบไม่ควรพลาดที่จะแวะแชะภาพ หากเด็ก ๆ ได้มาเห็นจะต้องตื่นตาตื่นใจกับที่นี่กันมาก ๆ แน่เลย พื้นที่กว้างใหญ่ที่สร้างสิ่งน่าสนใจไว้มากมาย บอกเลยว่า ไม่ต้องหาที่เที่ยวให้เหนื่อย ปักหมุนมาที่เดียวครบครันทุกรูปแบบเพลิดเพลินได้ทั้งครอบครัวแน่นอน

💰 ราคา :

  • เด็ก ราคา 300 บาท / คน (สูงไม่ถึง 90 ซม. เข้าฟรี)
  • ผู้ใหญ่ ราคา 500 บาท / คน

บรรยากาศรวมด้านใน โดย Wonderland Saraburi 

ความสงบร่มรื่นหน้าทางเข้าวัด โดย วัดถ้ำบาดาล

วัดที่โด่งดังมาจากความศรัทธาของชาวบ้านที่บอกต่อกันมา อีกหนึ่งวัดที่ไม่ควรพลาด วัดถ้ำบาดาล หรือ วัดที่มีท้าวเวชสุวรรณร่างมนุษย์องค์แรกของโลก ประดิษฐานอยู่ภายใน ถ้ำมรกตอธิบดีเวชสุวรรณ เมื่อก่อนต้องนั่งรถของทางวัดเข้าไปในป่ากว่า 1 กิโลเมตร และเดินเท้าต่ออีก 1 กิโลเมตร ทางเดินมีโคลนหรือหลุมเลอะเทอะบ้าง แม้ทางเข้าถ้ำอาจจะดูลำบากสักนิด แต่สายมูเขาไม่ย่อท้อกันเลยนะ คนเยอะตลอด ในถ้ำคืออากาศเย็น ร่มรื่นมาก และบริเวณท้าวเวชสุวรรณองค์ใหญ่มีความสวยงามมาก ปัจจุบัน องค์ท้าวเวชสุวรรณทั้งร่างยักษ์และร่างมนุษย์ ถูกนำออกมาจากถ้ำแล้วประดิษฐานไว้ตรงบริเวณวัดแล้วนะคะ เพื่อให้ง่ายต่อการกราบไหว้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีคนจำนวนมากที่เดินเท้าแล้วลื่นล้มจนน่าเป็นห่วง มีความเชื่อกันว่ามากราบแล้ว ชีวิตจะเจริญก้าวหน้า ร่ำรวยเงินทอง ขอสิ่งใดก็จะเป็นไปตามที่หวัง ถ้ามีโอกาสแนะนำมาก ๆ เลยค่ะว่า ควรแวะมากราบไหว้รับความเป็นศิริมงคลที่นี่สักครั้ง

ที่ประดิษฐานใหม่, วัดถ้ำบาดาล โดย ฟอร์ดป้ายแดง by supตุ้ย
ศาลาท้าวเวชสุวรรณร่างมนุษย์ที่ประดิษฐานใหม่, วัดถ้ำบาดาล โดย คลีโอพัตรา กับสฟิงซ์ผู้ภักดี
จุดเริ่มต้นทางเดินเท้าเข้าถ้ำ, วัดถ้ำบาดาล โดย ณัฐพงศ์ แป้นสกุล
ที่ประดิษฐานเดิมของท้าวเวชสุวรรณร่างยักษ์ โดย วัดถ้ำบาดาล

บรรยากาศนั่งรถรางชมฟาร์ม, ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค โดย ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค

ปิดท้ายด้วยฟาร์มที่อยู่คู่กับประเทศเรามาอย่างนมนาน อย่าง ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ฟาร์มเชิงเกษตรที่เป็นเสมือนศูนย์การเรียนรู้ภาคปฏิบัติท่ามกลางธรรมชาติที่อบอุ่นของเด็กไทย ที่นี่เหมาะมากสำหรับครอบครัวและสถานศึกษาต่าง ๆ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ที่สนใจ ก็สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ เพราะนอกจากจะมีกิจกรรมนั่งรถรางชมฟาร์มแล้ว ภายในยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย ให้เราได้สัมผัสด้วยตัวเองอีกด้วย อาทิ เช่น การขับ ATV, การขี่ม้า, การรีดนมวัว หรือกิจกรรมตามรอยศาสตร์พระราชา เป็นต้น รับรองว่า มาแล้วได้ทั้งความรู้และความสนุกสนานกลับไปอย่างแน่นอน
โดยกิจกรรมนั่งรถรางเข้าชมรอบฟาร์ม ปกติจะเปิดให้บริการทุกวัน วันละ 6 รอบ ได้แก่
รอบเช้า เวลา 9.00 น./ 10.00 น. และ 11.00 น.
รอบบ่าย เวลา 13.00 น./ 14.00 น. และ 15.00 น. (ใช้เวลา 1 ชม. 30 น. ต่อรอบ)
มีกิจกรรมให้ร่วมสนุก 6 กิจกรรม
1.ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ สาธิตการทำปุ๋ยนมสด
2.รีดนมแม่โค (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
3. ป้อนนมลูกโค (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
4. ชมวีดีทัศน์ประวัติฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค
5.ให้อาหารปลา (ขวดละ 10 บาท)
6. ชมการแสดงคาวบอย

  • เด็ก ราคา 100 บาท (ส่วนสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าชมฟรี)
  • นักศึกษา ราคา 120 บาท
  • ผู้ใหญ่ ราคา 150 บาท
  • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ราคา 75 บาท

เช่าเหมารถกลอ์ฟชมฟาร์มพร้อมทำกิจกรรม

  • ราคา 1,500 บาท/คัน (นั่งได้ 6 คน, ให้เวลา 2 ชม.)

ขับรถ ATV ชมฟาร์ม

  • ราคา 480 บาท/ทริป (นั่งได้ 2 คน, ให้เวลา 45 นาที)

บริการขี่ม้า

  • ท่านละ 50 บาท/รอบ

กิจกรรมตามรอยศาสตร์พระราชา (จองล่วงหน้าเท่านั้น)

  • ราคา 25 บาท/คน/ฐาน (รับขั้นต่ำ 10 คน/รอบ)
โชว์ขี่ม้า, ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค โดย ครูปอ วิชาณี

ขับ ATV และขับรถกอล์ฟชมฟาร์ม โดย ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค
กิจกรรมตามรอยศาสตร์พระราชา โดย ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค
กิจกรรมรีดนมวัว, ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค โดย ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค

วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ โดย Rachel Ko

วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ หรือ หรือ ถ้ำเขาน้ำพุ โบราณสถานภายใต้การคุ้มครองของกรมศิลปากร เป็นวัดสวยของสายวิปัสสนาธรรมที่ซ่อนตตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา สถานปฏิบัติธรรมอันแสนเงียบสงบและร่มรื่นมาก โดดเด่นด้วยถ้ำหินมากมายทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่ด้านในเต็มไปด้วยหินงอก, หินย้อย และร่องรอยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ให้เราได้ศึกษา มีชื่อเรียกเฉพาะแต่ละถ้ำ อาทิ ถ้ำพระธรรมทัศน์, ถ้ำลุมพินีสวนหิน, ถ้ำสงัดเจดีย์ และถ้ำที่โดดเด่นที่สุด อย่าง ถ้ำพระโพธิสัตว์ มีภาพแกะสลักนูนต่ำพระโพธิสัตว์ปางประทับบาทที่รายล้อมไปด้วยเหล่าเทพเทวดา อีกทั้งยังมีองค์เทพต่าง ๆ อีกมากมายที่ประดิษฐานอยู่ด้านใน ได้แก่ พระนารายณ์, พระอิศวร, เทพเจ้าฮินดู เป็นต้น ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่แห่งความงามที่น่าค้นหาและน่าแวะมากราบไหว้สักการะมาก ๆ

บรรยากาศรอบ ๆ โดย วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย สระบุรี 
วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ โดย Krichcha Teetarakun
วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ โดย Freedom Mind
ภาพแกะสลักที่ผนัง โดย วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย สระบุรี 

มุมที่นั่งข้างร้าน, 9th September Eat Drink Tree โดย Waszabii II

คาเฟ่สไตล์คลาสสิค ใต้ต้นจามจุรีใหญ่ ตั้งอยู่ในตัวเมืองสระบุรี ไม่ห่างจากถนนเส้นหลักอย่างมิตรภาพมากนัก เข้าซอยมาเพียงเล็กน้อย 9th September Eat Drink Tree จึงเป็นคาเฟ่ที่เหล่านักขับทางไกลพากันแวะพักเหนื่อยที่นี่มากมาย ทั้งสายเหยียบและสายบิด ร้านออกแนวเท่ ๆ มีสไตล์ที่เฉพาะตัว ใช้สีโทนเอิร์ธเป็นหลักตัวอาคารเป็นกึ่งไม้กึ่งอิฐปูนสีน้ำตาล ผสมผสานกลมกลืนกับสีเขียวเข้มอ่อนของต้นไม้รอบ ๆ ร้าน เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งใช้เป็นไม้และหวาย มีที่นั่งให้เลือกทั้ง Indoor และ Outdoor มีมุมหนังสือให้หยิบอ่านได้ฟรีด้วยนะ ตอนกลางวันก็ไม่ร้อนจนเกินไปเพราะมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมและล้อมรอบไปด้วยต้นไม้หลายขนาดทั่วร้าน บรรยากาศจึงร่มรื่นมาก เหมาะกับการนั่งพักให้หายเหนื่อยสุด ๆ ทางด้านอาหารก็มีให้ลือกมากมายทั้งอาหารคาว, อาหารหวาน และเครื่องดื่ม เมนูซิกเนเจอร์ที่ไม่ลองไม่ได้ คือ กาแฟสดของทางร้าน รีวิวกันหนาแน่นเลยว่า กาแฟอร่อยมาก มุมถ่ายรูปก็มีให้เลือกหลากหลายมุม ตามมาแล้วรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

ที่นั่งและมุมอ่านหนังสือ, 9th September Eat Drink Tree โดย Waszabii II
มุมเคาน์เตอร์, 9th September Eat Drink Tree โดย ปัฐน์ศรัณย์ จันทุมมี
มุมที่นั่งด้านในและด้านนอก, 9th September Eat Drink Tree โดย TK How
ฝั่ง Drive Thru, 9th September Eat Drink Tree โดย HS- TOY

มุมนั่งพักผ่อน, ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล โดย My Chuang D.D.

ตลาดน้ำโบราณ ที่แสดงความเป็นไทยและบ่งบอกถึงวิถีชีวิตของชาวไท-ยวนได้อย่างชัดเจน ผ่านการขายของพื้นเมือง, การตกแต่ง รวมถึงการแต่งตัว 1 ใน ตลาดต้องชมของไทย มาเพลิดเพลินกับตลาดสไตล์ล้านนา ไปกับ ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล หรือ เรียกเป็นภาษากลางว่า “ตลาดท่าน้ำโบราณบ้านต้นตาล”  ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักฯ ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 100 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ให้ฟีลเหมือนตลาดในภาคเหนือของประเทศสุด ๆ ทั้งชุดพื้นเมืองที่ชาวบ้านใส่มาขายของ ทั้งของพื้นเมืองล้านนาต่าง ๆ น่ารักสไตล์คนเหนือสุด ๆ นอกจากของพื้นเมืองที่มีขายมากมายแล้ว ยังมีการสาธิตการทอผ้า, การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ และเวลา 12.00 น. จะมีการแสดงฟ้อนเล็บแบบล้านนาให้เราได้ชมด้วยนะคะ ถึงจะเปิดแค่เฉพาะวันอาทิตย์แต่ผู้คนก็แห่มากันมากมายทุกอาทิตย์เลยนะ ทั้งอิ่มท้อง ทั้งเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตชาวท้องถิ่น เหมาะกับการมาเที่ยวชม เดินเล่น พักผ่อนในวันหยุดสุด ๆ

ด้านหน้าตลาด, ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล โดย My Chuang D.D.
บรรยากาศด้านใน, ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล โดย suphansa prommasing
การแสดงฟ้อนเล็บ, ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล โดย ดาวเหนือ22 นครบาล

เป็นยังไงกันบ้างคะ ? สำหรับ ที่เที่ยวในจังหวัดสระบุรี ที่เรานำมาให้ชมกันในวันนี้ จะไปค้างคืน หรือ ไปเช้า-เย็นกลับ ก็สะดวกมาก ๆ เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ขับรถไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว เที่ยวง่าย เที่ยวสบายขนาดนี้ ไม่มาไม่ได้แล้วนะ

อ่านเพิ่มเติม :

Tags :
Klook.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences Save