เยือนถิ่น “นาสุ/ชิโอบาระ” ชมความงามของอุทยานแห่งชาตินิกโก้ แช่ออนเซ็นสัมผัสกับธรรมชาติ
นาสุ/ชิโอบาระ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาตินิกโก้ อยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดโทะชิงิ ของภูมิภาคคันโต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในภูมิภาคที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการมาเที่ยวชมกันอย่างมาก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ มากมายหลายแห่งด้วยกัน โดยเฉพาะในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ บ่อน้ำพุร้อนที่มีความงดงามและสำคัญอีกแห่งของญี่ปุ่น
Nasu Onsen’s public baths
สถานที่แรกของ เมืองนาสุ ที่ทาง CheckInChill ของเรามานำเสนอก็คือ Nasu Onsen’s public baths (นาสุออนเซน) เป็นออนเซนที่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กที่เเวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่มีความสวยงามมากมายอย่างเมืองนาสุ ในกุนมะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเเหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติมากมายเเละมีห้องอาบน้ำสาธารณะซึ่งเป็นเเหล่งออนเซนมากมายหลายเเห่งด้วยกัน โดยเเต่ละเเห่งนั้นก็มีความสวยงามเเละให้บรรยากาศที่น่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง โดยใน นาสุออนเซน นั้นมีเเหล่งสำหรับการมาเเช่ออนเซนหลายเเห่งด้วยกันที่เปิดให้นักท่องเที่ยวซึ่งไม่ได้มาพักที่เรียวกังได้มีโอกาสมาสัมผัสกับน้ำเเร่คุณภาพสูงของกุนมะ
อย่างที่ ชิคาโนะยุ นั้นก็เป็นห้องอาบน้ำเเบบดั้งเดิมที่มีความสวยงาม เเละมีการเเบ่งห้องชาย-หญิง โดยห้องทั้งหมดนั้นจะเป็นไม้ โดยน้ำเเร่ที่ได้มานั้นจะเป็นสีน้ำนมเพราะมีส่วนผสมของกำมะถัน โดยมีอุณหภูมิประมาณ 41-48 องศาเซลเซียส โดยที่นี่เปิดบริการทุกวันในเวลา 8.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. เสียค่าบริการ 400 เยนในวันธรรมดา เเละ 500 เยนในวันเสาร์เเละอาทิตย์
ส่วนทางด้านของ เรียวกังโอมารุออนเซน นั้นมีสระน้ำกลางเเจ้งขนาดใหญ่ที่ได้น้ำพุร้อนมาจากภูเขา โดยเป็นสระรวมทั้งชายเเละหญิง ที่สามารห่มผ้าขนหนูเข้าไปได้ ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับวิธีการออนเซนเเบบญี่ปุ่น โดยที่มีนับว่าเป็นเรียวกังคุณภาพสูง โดยเปิดให้บริการทุกวันในเวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น. เสียค่าบริการคนละ 1,000 เยน เเต่หากพักที่เรียวกังจะเสียค่าบริการคืนละ 16,000 เยนรวมอาหารสองมื้อเเละใช้บริการออนเซนฟรี
แผนที่ Nasu Onsen
การเดินทางมายัง นาสุออนเซน นั้นให้ใช้บริการของรถบัสสายที่ผ่าน Kuroiso Station จาก Nasu-Shiobara Station โดยไปลงที่ Nasu Onsen ได้เลย นับว่าสะดวกเเละรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
The Murder Stone
สถานที่ต่อมาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับ นาสุออนเซน ก็คือ The Murder Stone นั้นมีชื่ออีกเรียกอย่างว่า หินฆาตกรรม โดยตั้งอยู่ในหุบเขาใกล้กับเส้นทางในการเดินป่าเเละศาลเจ้านาสุออนเซน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญบนเส้นทางท่องเที่ยวในจังหวัดโทจิกิ เป็นอย่างยิ่ง เเละในเเต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามเเละเเปลกประหลาดของหินก้อนนี้เป็นจำนวนมาก
โดยตามตำนานเเล้วกล่าวกันว่า หินอาถรรพ์เซชโชเซะกิแห่งนาสุ นั้นมีต้นกำเนิดมาจากจิ้งจอกเก้าหางที่เดินทางมาจากประเทศจีนเเละอินเดียมายังญี่ปุ่น เเละปิศาจตนนี้ได้เเปลงกายมาเป็นหญิงสาวที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เเละพยายามหว่านเสน่ห์ใส่จักรพรรดิของญี่ปุ่น เเต่กลับถูกจับได้เสียก่อน ทำให้โดยประหารชีวิต เเล้วร่างของปีศาจตนนั้นก็ได้กลายมาเป็นหนก้อนนี้นั่นเอง โดยชื่อว่าหากใครมาสัมผัสก็จะพบเเต่เรื่องราวที่เลวร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว เพราะบริเวณนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย เเม้เเต่นกที่มาเกาะบนหินก้อนนี้ก็เสียชีวิต ส่วนสาเหตุในเชิงวิทยาศาสตร์นั้นก็เพราะว่าบริเวณนี้เต็มไปด้วยแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์และแก๊สอื่นๆ ที่เป็นพิษ พวยพุ่งออกมาตลอดเวลา เเละมีกลิ่นกำมะถันที่รุนแรง
โดยบริเวณของ The Murder Stone นั้นจะมีทางเดินเเละรั้วไม้กั้นเอาไว้ พร้อมกับป้ายไม้ขนาดใหญ่ที่เริ่มมีสีดำเพราะโดนแก๊สรมควันอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เเล้วหินบริเวณดังกล่าวก็มีสีดำอีกด้วย เเละมีการนำเอาประติมากรรมที่เป็นรูปพระมาตั้งเรียงรายเอาไว้อีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากของนาสุ
แผนที่ The Murder Stone
ส่วนการเดินทางมายัง หินอาถรรพ์เซชโชเซะกิแห่งนาสุ นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสมาลงที่ป้ายหน้าสถานี Kuroiso Station ส่วนในช่วงของเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน รถบัสจะมาสุดสายถึงสถานีกระเช้าอย่าง Nasu Ropeway Station ส่วนใน เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม นั้น รถบัสจะมาถึง Nasu Yumoto
Hachiman Tsutsuji Gunraku
อีกสถานที่ต่อมาของ นาสุชิโอบาระ นั้นก็คือ Hachiman Tsutsuji Gunraku เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมากของเมืองนาสุ เพราะเป็นเเหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกเเห่งที่มีความน่าสนใจเเละสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวมาอย่างมากมายเเล้ว เเละได้รับความนิยมจากบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการเดินสำรวจธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง และในแต่ละปีนั้นจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว แม้จะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างขาติมากนัก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นแล้วที่นี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลย
ลักษณะของ ฮาจิมังสึสึจิกุนราคุ นั้นจะเป็นทุ่งขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งเเละเต็มไปด้วยพืชพันธุ์มากมายหลายชนิดด้วยกัน พร้อมกับพุ่งดอกไม้ที่พร้อมจะผลิบานออกดอกบานสะพรั่งสวยงามเป็นอย่างยิ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้เเล้วในช่วงของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั้นที่นี่ก็มีความสวยงามเเละได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในการมาเที่ยวชมความสวยงามกันเป็นจำนวนมากเลยก็ว่าได้
โดยจุดเด่นของ Hachiman Tsutsuji Gunraku นอกจากธรรมชาติที่มีความเเปลกตาเเละสวยงามเเล้ว ที่นี่ก็ยังมีทางเดินยาวกว่า 3 กิโลเมตร ที่เป็นกระดานไม้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเเละให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาเดินชมธรรมชาติที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากของที่นี่ผ่านเส้นทางนี้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ป่านเขตกลางทุ่งหน้าที่มีลักษณะเป็นหนองน้ำอีกด้วยนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งของนาสุชิโอบาระ
แผนที่ Hachiman Tsutsuji Gunraku
ส่วนทางด้านของการเดินทางมายัง ฮาจิมังสึสึจิกุนราคุ นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสมาลงที่ป้ายหน้าสถานี Kuroiso Station ส่วนในช่วงของเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน รถบัสจะมาสุดสายถึงสถานีกระเช้าอย่าง Nasu Ropeway Station ส่วนใน เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม นั้น รถบัสจะมาถึง Nasu Yumoto
Tsutsuji Suspension Bridge
มาถึงอีกหนึ่งสถานที่ สำหรับ Tsutsuji Suspension Bridge นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของ นาสุชิโอบาระ ที่ใครไปใครมาก็ต้องเเวะเวียนมาเที่ยวที่สถานที่เเห่งนี้ เพราะมีความเเปลกตาสวยงามเเละเป็นอีกหนึ่งในจุดชมวิวที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับเมืองเล็กๆ ที่เเวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่มีความสวยงามอย่างที่นี่
สำหรับ สะพานแขวนสึสึจิ นั้นตั้งอยู่เหนือหุบเขา เเละมีความยาวกว่า 130 เมตร เเละมีความกว้างอยู่ที่ 38 เมตร นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสะพานเเขวนที่อยู่ในจุดที่มีความสูงเป็นอย่างยิ่ง เเละมีวิวทิวทัศน์เเถมด้วยบรรยากาศที่สวยงามเเละน่ามาสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง ในการชมความสวยงามของภูเขานาสุดาเกะ ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว เเละในช่วงของฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีนั้น บริเวณสะพานเเห่งนี้ก็เป็นจุดที่สามารถมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างชัดเจน เเละได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีอีกเเห่งของญี่ปุ่น เพราะภาพเบื้องหน้านั้นจะมีเเต่ความสวยงามของใบไม้สีส้ม สีเหลือง สีเเดง ทั้งภูเขานาสุดาเกะเลยทีเดียว
ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนั้นจะมีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมในการมาชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์จาก Tsutsuji Suspension Bridge กันเป็นจำนวนมาก เเถมที่สะพานเเห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบนเส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัดโทชิงิ อีกด้วย โดยสะพานเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวันตั้งเเต่เวลา 6.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. ส่วนวันที่อากาศเเปรปรวนนั้นต้องระมัดระวังกันเป็นอย่างดีในการมาชมความสวยงามที่นี่
แผนที่ Tsutsuji Suspension Bridge
ส่วนใครที่สนใจจะมาชมความสวยงามของ สะพานแขวนสึสึจิ นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสมาลงที่ป้ายหน้าสถานี Kuroiso Station ส่วนในช่วงของเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน รถบัสจะมาสุดสายถึงสถานีกระเช้าอย่าง Nasu Ropeway Station ส่วนใน เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม นั้น รถบัสจะมาถึง Nasu Yumoto
Heisei No Mori
มาต่อกันที่สถานที่ต่อไปอย่าง Heisei No Mori นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของ นาสุชิโอบาระ ที่มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง เเละเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเเห่งใหม่ที่เพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเเละผู้ที่หลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติเข้าชมเมื่อปี ค.ศ.2011 ที่ป่านมานี่เอง จึงนับได้ว่าเป็นเเหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่สำคัญของภูมิภาคคันโตเลยก็ว่าได้
เเต่เดิมนั้น ป่าเฮเซโนโมริ เป็นส่วนหนึ่งของ นาสุอิมพีเรียลวิลล่า ก่อนที่จะมีการเเยกออกมาเเละเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาชมความสวยงามเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีเส้นทางที่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินมาสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอย่างมากเลยทีเดียว โดยสองข้างทางนั้นจะมีเเต่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง โดยเส้นทางเดินนั้นก็จะป่านจุดสำคัญๆ มากมาย โดยที่มีปลายทางอยู่ที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสวน ซึ่งเป็นจุดที่จะมีกระท่อมตั้งอยู่ พร้อมกันนี้ก็มีดาดฟ้าสำหรับชมวิวความสวยงามของทิวทัศน์ป่าเขาลำเนาไพรที่มีความสวยงาม เเละน้ำตกที่เป็นภาพที่งดงามอย่างมากอีกด้วย
การเข้าชมความสวยงามของ Heisei No Mori นั้นจะมีไกด์นำทางในการเดินเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติ โดยน่าสนใจว่าป่าเเห่งนี้สามารถมาเที่ยวชมได้ในทุกฤดูกาล ซึ่งจะมีบรรยากาศที่เเตกต่างกันออกไป เเละสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมากเลยทีเดียว โดยที่นี่เปิดให้เข้ามาเที่ยวชมฟรีทุกวัน ในเวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 17.00 น. ส่วนในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมจะเปิดให้เข้าชมในเวลา 9.30 น. จนถึงเวลา 16.30 น. โดยปิดทุกๆ วันพุธในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
แผนที่ Heisei No Mori
สำหรับการเดินทางมาชมความสวยงามของ ป่าเฮเซโนโมริ นั้นสามารถใช้บริการของเเท็กซี่จาก Nasu IC ประมาณ 35 นาทีก็จะถึงเเล้ว หรือจากหน้าสถานี Nasushiobara Station ก็เรียกใช้บริการของเเท็กซี่ โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงเเล้ว นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเที่ยวอีกแห่ง
Nasu Ropeway Station
มาถึงที่เที่ยวยอดนิยมอย่าง สถานีกระเช้านาสุ Nasu Ropeway Station ซึ่งสถานที่เเห่งนี้จะเป็นจุดที่เชื่อมต่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมความสวยงามของภูเขานาสุดาเกะได้อย่างชัดเจน จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ระยะทางของ สถานีกระเช้านาสุ นั้นมีความยาวถึง 800 เมตร โดยจะพานักท่องเที่ยวขึ้นสู่จุดสูงสุดบนภูเขานาสุดาเกะ ซึ่งระกว่าการโดยสารนั้นจะทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามของธรรมชาติที่เเวดล้อมอยู่อย่างมากมาย ทำให้มีเเต่ความประทับใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่นาสุชิโอบาระ เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางเดือนตุลาคมนั้น ซึ่งจะเป็นฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกไม้ออกกอกสวยงามเเละสามารถมองเห็นได้จากมุมสูงจากที่นี่นั่นเอง นอกจากนี้เเล้วในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในการมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี
การเดินทางจาก Nasu Ropeway Station โดยใช้บริการกระเช้าไฟฟ้าที่มีความทันสมัยอีกเเห่งของญี่ปุ่น จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30-45 นาที เเล้วเเต่สภาวะอากาศ โดยระหว่างสองข้างทางนั้นนักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่มีความสวยงาม โดยที่นี่จะเปิดให้บริการเเก่นักท่องเที่ยวทุกวันในเวลา 8.30 น. จนถึงเวลา 16.30 น. โดยจะปิดบริการทุกวันที่ 1 ธันวาคม ถึง 19 มีนาคม ของทุกปี เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเเปรปรวนเเละไม่เหมาะกับการใช้งาน โดยเสียค่าบริการเเบบเที่ยวเดียวที่ 670 เยน ส่วนเเบบไป-กลับ นั้นอยู่ที่ 1,130 เยน
แผนที่ Nasu Ropeway Station
ส่วนการเดินทางมาใช้บริการของ สถานีกระเช้านาสุ นั้นสามารถใช้บริการของรถบัส Toya Kotsu Bus โดยให้คุณมาลงที่ป้าย Sandogoya Onsen Bus Stop จากนั้นก็เดินต่อไปอีกเพียงเล็กน้อยก็จะถึงสถานีเเห่งนี้เเล้ว โดยจะมีป้ายบอกอย่างชัดเจนไม่ต้องกลัวหลงเเต่อย่างใด นับว่าเป็นอีกสถานที่สำคัญที่พลาดไม่ได้เลยหากมาเที่ยวเมืองนาสุ
Emperor’s Memorial Park
มาถึงในส่วนของเมืองชิโอบาระ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Emperor’s Memorial Park นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะที่นี่นอกจากเป็นสถานที่ซึ่งมีความเก่าเเก่เเล้วยังมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อีกด้วย เพราะเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของจักรพรรดิในสมัยโชวะ เเละยังคงหลงเหลืออยู่มาจนถึงทุกวันนี้ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชันยอดของที่เมืองเเห่งนี้เลยก็ว่าได้
สวนอนุสรณ์จักรพรรดิ นั้นเพิ่งจะเปิดให้ประชาชนเเละนักท่องเที่ยวเข้าชมได้เมื่อปี ค.ศ.1981 ซึ่งภายในส่วนเเห่งนี้มีอาคารเก่าเเก่ตั้งอยู่หลายหลัง เเละเป็นอดีตที่ประทับของจักรพรรดิในสมัยโชวะ ซึ่งอาคารเเต่ละหลังนั้นมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายมาจากยุคเมจิ เเละมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยสร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1926 เเละได้รับการบูรณะเป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน ส่วนทางด้านของบรรยากาศภายในสวนนั้นก็มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความน่าสนใจของพิพิธภัณฑ์ใน Emperor’s Memorial Park ที่มีการจัดเเสดงของเฟอร์นิเจอร์เก่าเเก่โบราณมากมายหลายชิ้นที่เป็นทั้งในสไตล์ตะวันตกเเละสไตล์ญี่ปุ่น รวมไปถึงเครื่องใช้ต่างๆ อีกมากมายหลายชิ้นด้วยกัน ทั้งสิ่งของในครัวเรือน นับว่าน่ามาชมเป็นอย่างยิ่ง โดยสวนเเห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเเละผู้สนใจเข้ามาเที่ยวชมได้ทุกวันตั้งเเต่เวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 17.00 น. โดยจะหยุดทุกวันพุธ เเละในช่วงวันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคมของทุกปี โดยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 200 เยน นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเล็กๆ เเห่งนี้ที่น่ามาเที่ยวชม
แผนที่ Emperor’s Memorial Park
การเดินทางมายัง สวนอนุสรณ์จักรพรรดิ สามารถใช้บริการของรถบัส JR buses สาย Nishi-Nasuno Station ไปยัง Shiobara Onsen โดยใช้เวลาในการเดินทาง 65 นาทีเเละเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 1,170 เยน เเล้วก็เดินข้ามสะพานแขวนนานาสึอิวะ มาอีกสุดด้านหนึ่งก็จะถึงเเล้ว หรือจะลองเช่ารถยนต์เเล้วขับมาเที่ยวก็ได้ โดยสามารถเช่าได้ที่หน้าสถานี Nasu-Shiobara Station นับว่ามีหลายทางเลือกในการเดินทางมายังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้
Shiobara Onsen’s public baths
สำหรับ Shiobara Onsen’s public baths ในเมืองชิโอบาระ นั้นนับว่าเป็นสถานที่ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมความสวยงามในเมืองเเห่งนี้ได้อย่างมากมายเลยทีเดียว เเละเป็นอีกหนึ่งในของดีของดังของ นาสุชิโอบาระ ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของน้ำพุร้อน เเละที่นี่นอกจากบรรดาเรียวกังที่มีอยู่อย่างมากมายเเล้วก็ยังมีห้องอาบน้ำสาธารณะที่เปิดให้บริการเเก่นักท่องเที่ยวในเวลากลางวันอีกด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในมนต์เสน่ห์ของการมาเที่ยวเมืองเเห่งนี้ เเล้วจะได้ลองสัมผัสกับออนเซนอีกด้วย
สำหรับ ห้องอาบน้ำสาธารณะ ชิโอบาระออนเซน ที่มีชื่อเสียงนั้นมีอยู่หลายเเห่งด้วยกันอย่างที่ ฟุโดโนะยุ ออนเซน นั้นจะมีสระน้ำรวมที่ตั้งอยู่กลางป่า โดยมีขุดที่ตั้งไม่ไกลจากริมเเม่น้ำมากนัก ทำให้มีบรรยากาศที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละน้ำพุของที่นี่จะมีสีเป็นสีน้ำตาลสนิม เเถมยังสามารถสวมชุดว่ายน้ำลงไปออนเซนได้อีกด้วย นับว่าเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยเปิดให้บริการทุกวันในเวลา 6.30 น. จนถึงเวลา 21.00 นง โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 200 เยน
ส่วนอีกเเห่งนั้นก็คือที่ อิวะโนะยุ ออนเซน โดยจะเป็นสระน้ำรวมที่ตั้งอยู่ติดกับเเม่น้ำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับที่ ฟุโดโนะยุ ออนเซน เเต่ที่นี่ห้ามสวมชุดว่ายน้ำลงเด็ดขาด โดยเปิดบริการทุกวันในเวลา 6.30 น. จนถึงเวลา 21.00 น. โดยเสียค่าบริการ 200 เยน
นอกจากนี้เเล้วใน Shiobara Onsen’s public baths ยังมีอีกจุดที่น่าสนใจก็คือในส่วนของ ยุปโปะโนะซาโต้ ออนเซน ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลน เเละเป็นการให้บริการสปาเท้าที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาใช้บริการกันอย่างมาก โดยมีอยู่สองบ่อด้วยกัน โดยเเต่ละบ่อนั้นมีความยาว 30 เมตร โดยมีม้านั่งยาว ทำให้บรรยากาศดีเป็นอย่างมาก เเละพื้นที่รอบๆ นั้นก็จะโรยไปด้วยก้อนหินสำหรับนวดเท้าขณะเดินอีกด้วย โดยจุดนี้จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งเเต่เวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. โดยเสียค่าบริการคนละ 200 เยน
แผนที่ Shiobara Onsen’s public baths
ส่วนการเดินทางมายัง ห้องอาบน้ำสาธารณะชิโอบาระออนเซนสามารถใช้บริการของรถบัส JR buses สาย Nishi-Nasuno Station ไปยัง Shiobara Onsen โดยใช้เวลาในการเดินทาง 65 นาทีเเละเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 1,170 เยน เเล้วก็เดินข้ามสะพานแขวนนานาสึอิวะ มาอีกสุดด้านหนึ่งก็จะถึงเเล้ว หรือจะลองเช่ารถยนต์เเล้วขับมาเที่ยวก็ได้ โดยสามารถเช่าได้ที่หน้าสถานี Nasu-Shiobara Station นับว่ามีหลายทางเลือกในการเดินทางมายังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้
Waterfalls and Suspension Bridges of Shiobara
อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของเมืองชิโอบาระ อย่าง Waterfalls and Suspension Bridges of Shiobara ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติอยู่มากมายหลาย เเละสำหรับทั้งในส่วนของน้ำตก เเละสะพานเเขวนของเมืองเเห่งนี้ก็มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้กันเป็นจำนวนมาก
น้ำตกและสะพานแขวนเเห่งเมืองชิโอบาระ นั้นมีความน่าสนใจโดยเราจะมาเเนะนำในส่วนของน้ำตกกันก่อนอย่างที่ น้ำตกริวกะ นั้นก็มีความสูงกว่า 60 เมตรเลยทีเดียว เเละมีสายน้ำที่ไหลลงสู่เบื้องล่างนั้นมีความยาอยู่ที่ 130 เมตร โดยว่ากันว่ามีลักษณะคล้ายกับมังกรบิน โดยต้องเดินเข้าไปในป่าจากถนนหลักโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีถึงจะถึงตัวน้ำตกเเห่งนี้
มาถึงของอีกสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง สะพานแขวนโมมิจิดานิ ที่เป็นสะพานเเขวนที่มีขนาดใหญ่เเละสูงที่สุดในเมืองชิโอบาระ โดยตั้งอยู่ติดกับเขื่อนชิโอบาระเหนือทะเลสาบเทียม โดยมีระยะทางทั้งสิ้น 320 เมตร โดยที่ปลายสุดของสะพานอีกฝั่งนั้นจะเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนอย่างมาก โดยจะเปิดให้ข้ามทุกวันในเวลา 8.00 นง จนถึงเวลา 18.00 น. เเละเสียค่าข่มคนละ 300 เยนอีกด้วย
ในขณะที่สะพานแขวนนานาสึอิวะ นั้นเป็นสะพานที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำกลางของเมืองชิโอบาระ โดยมีความยาวกว่า 87 เมตร โดยสะพานเเห่งนี้ก็เป็นเส้นทางที่จะไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวชิโอบาระอีกด้วย
สำหรับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมืองชิโอบาระ หรือที่เรียกว่า Shiobara Visitor Center นั้นเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนเมืองชิโอบาระ ต้องไม่พลาดเเวะเวียนมาหาข้อมูลก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามเเห่งนี้ โดยมันตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองชิโอบาระมากนัก เเละอยู่อีกฝากของสะพานแขวนนานาสึอิวะ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเเห่งของเมืองเเห่งนี้ จุึงทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเเวะเวียนมาใช้บริการในเเต่ละวันเป็นจำนวนมาก
แผนที่ Waterfalls and Suspension Bridges of Shiobara
การเดินทางมายัง น้ำตกและสะพานแขวนเเห่งเมืองชิโอบาระ สามารถใช้บริการของรถบัส JR buses สาย Nishi-Nasuno Station ไปยัง Shiobara Onsen โดยใช้เวลาในการเดินทาง 65 นาทีเเละเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 1,170 เยน
สำหรับ ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว “เมืองนาสุ/ชิโอบาระ” ของประเทศญี่ปุ่น ที่ทาง CheckInChill มานำเสนอ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มีที่สถานที่ใดน่าสนใจและถูกใจกันบ้างครับ? และในครั้งถัดไปเราจะมีเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวใดมาแนะนำ ก็อย่าลืมกดแชร์กดติดตาม ไม่พลาดทุกเรื่องที่เกี่ยวกับที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก อย่างแน่นอน” >> ติดตามเราบน Facebook <<