เที่ยวเชียงใหม่ เยือนประตูท่าแพ เยี่ยมชม “Art in Paradise” จิตรกรรม 3 มิติแห่งแรกในเชียงใหม่
หลังจากเที่ยวม่อนแจ่มและม่อนอิงดาวผ่านไปเรียบร้อยแล้วพวกเราได้เดินทางก็ยังจุดหมายที่สอง ประตูท่าแพ บริเวณนี้มีนักท่องเที่ยวมาเก็บภาพบรรกาศความสวยงาม มาท่องเที่ยวซื้อของมากมาย มาลองดูตามรูปกันเลยดีกว่าว่าจะสวยมากน้อยแค่ไหน
รถแดงที่พบเห็นบ่อยภายในเมืองเชียงใหม่
จุดถ่ายรูปยอดฮิตเมื่อมาถึงประตูท่าแพ บริเวณนี้นักท่องเที่ยวมากมายชอบมาถ่ายรูป
บรรยากาศรอบๆประตูท่าแพ บริเวณนี้รถวิ่งค่อนข้างหนาตา บริเวณนี้ช่วงเย็นของวันอาทิตย์จะเป็นถนนคนเดินซึ่งมีร้านค้าตั้งขายของมากมาย ซึ่งถนนคนเดินท่าแพนี้จะเริ่มที่ประตูท่าแพไปจนถึงไปพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์
ฝูงนกพิราบบริเวณประตูท่าแพเป็นอีกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชอบมาเก็บภาพกัน บริเวณยังมีขายอาหารนกพิราบ(อาหารเม็ด)ให้นักท่องเที่ยวได้ให้อาหารนกพิราบอีกด้วย
ประตูท่าแพ ดจุดนี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกที่หนึ่งและเพราะนักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูปกันมากและเป็นทางผ่านไปยังอีกฝั่งถนนอีกด้วยทำให้อาจจะต้องเสียเวลารอสักพักกว่าจะได้ถ่ายรูปกับประตูท่าแพ
หลังจากได้ถ่ายรูปบริเวณประตูท่าแพเสร็จเรียบร้อยแล้ว จุดหมายถัดไปคือไปสาการะพระพุทธรูปที่ วัดอินทขีลสะดือเมือง และไปเยี่ยมชมอนุเสาวรีย์สามกษัตริย์
วัดอินทขีลสะดือเมือง จะอยู่บริเวณในตัวเมืองเชียงใหม่ ถนนคอนข้างเล็กอาจจะหาที่จอดรถค่อนลำบาก
โบสถ์ภายในวัดอินทขีลสะดือเมือง
พระพุทธรูปภายในโบสถ์วัดอินทขีลสะดือเมือง
พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวัดอินทขีลสะดือเมือง
ประวัติความเป็นมาของพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์
และด้วยบริเวณนี้ตอนเย็นจะเป็นถนนคนเดินจึงทำให้อยู่ได้ไม่นานต้องย้ายรถออกจากบริเวณนี้ จุดหมายถัดไปจึงเป็นการหาพัก โดยที่พักในรอบนี้ต้องการที่พักแบบแบ็คแพ็คเพื่อเก็บประสบการณ์และเปลี่ยนบรรยากาศในการท่องเที่ยว ซึ่งได้ที่พักแบบแบ็คแพ็คบริเวณในเมือง เป็นที่พักแบบเตียง 2 ชั้นมีการเปิดปิดแอร์เป็นเวลาและเนื่องจากฝนตกค่อนข้างแรง ถนนคนเดินที่หมายถัดไปจึงเป็นอันต้องยกเลิก
ที่พักแบบแบ็คแพ็ค เป็นเตียง 2 ชั้น 1 ห้องจะมีเตียงทั้งหมด 6 เตียงมีการเปิดแอร์เป็นเวลาและห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวม
หลังจากได้พักผ่อนมาแล้วหนึ่งคืนฝนก็ยังไม่มีแววจะหยุดตกเลย เป้าหมายถัดไปจึงเป็น Art in Paradise หรือ พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะในยามฝนตกจริงๆ การเดินทางจากตัวเมืองไป Art in Paradise ใช้เวลาไม่นานมาก ค่าเข้าเยี่ยมชมคนล่ะ 200 บาท ภายในอาคาร Art in Paradise ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มีรูปภาพวาด 3 มิติจำนวนมาก แต่จะสวยงามสมจริงมากน้อยแค่ไหนลองไปดูกันเลย
รูปภาพ 3 มิติของวาฬที่เหมือนออกมาจากกำแพง
รูปภาพ 3 มิติของยีราฟที่เหมือนออกมาจากรูปภาพ
รูปภาพ 3 มิติของคนที่เหมือนออกมาจากกำแพงปราสาทที่แตกผัง
รูปภาพ 3 มิติของพระพุทธรูปที่เหมือนมีทางเข้าไปข้างในได้แต่ที่จริงเป็นเพีงภาพวาด
รูปภาพ 3 มิติของแอปเปิล
รูปภาพ 3 มิติเหมือนแมวรอเหยื่อออกมาจากรู
ทางเข้าเยี่มชมภายในที่ผนังเป็นรูป3มิติ
รูปภาพ 3 มิติที่เหมือนมีหลุมที่พื้น
รูปภาพ 3 มิติที่เหมือนมีประตูด้านล่างซากปรักหักพังโดยมียามคล้ายเทพอานูบิส 2 คนเฝ้าทางเข้าไว้
รูปภาพ 3 มิติที่เหมือนมีเมืองอยู่ภายในกำแพงที่แตก
รูปภาพ 3 มิติที่เราสามารถไปนั่งบนรูปเครื่องบินกระดาษก็จะเหมือนเรานั่งลอยอยู่บนท้องฟ้าในเมืองได้
รูปภาพ 3 มิติที่เป็นดวงตาไดโนเสาร์มองมาผ่านกำแพงที่แตก
หลังจากได้เยี่ยมชมความสวยงามและเก็บภาพบรรยากาศเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับ ซึ่งขากลับได้ใช้บริการสายการบินไลออนแอร์ในเดินทางกลับดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ
เครื่องบินสายการบิน ไลอ้อนแอร์ เป็นเครื่องบินที่เราใช้บริการในขากลับดอนเมืองและเป็นการเดินทางสุดท้ายของทริปนี้
สำหรับทริปเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืนก็หมดลงแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างครับ น่าไปเที่ยวกันไหมครับ สำหรับทริปนี้เราประทับใจมากแต่ติดนิดเดียวที่ฝนตกแทบทั้ววันทำให้ที่เที่ยวถูกจำกัด สำหรับเพื่อนๆที่อยากมาเที่ยวเชียงใหม่แนะนำควรมาเที่ยวช่วงหน้าหนาว บรรยากาศจะเย็นสบายมาก และควรหลีกเลี่ยงหน้าฝนครับ เพราะคุณอาจะเที่ยวได้ไม่เต็มที่และถ้าหน้าหนาวนี้ยังไม่มีแพลนจะไปไหนก็ลองมาแวะมาเที่ยวที่นี่ได้