10 ที่เที่ยวออสเตรีย [November 2024] วิวธรรมชาติระดับมรดกโลก บรรยากาศโรแมนติก
สวัสดีเพื่อนๆนักเดินทางทุกคน สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติวิวสวยๆ อากาศดีๆ วันนี้พวกเรา ChecInChill จะพาไปพบกับประเทศที่มีทิวทัศน์สวยเหมือนในเทพนิยายและเป็นประเทศที่จัดเป็นแหล่งมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก นั้นก็คือ ประเทศออสเตรีย เป็นประเทศเล็กๆที่รายล้อมไปด้วย สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมันนี้ ฮังการี่ และเช็ก แม้จะไม่มีทะเลให้เห็นแต่ก็ยังคงความงดงามของธรรมชาติจากต้นไม้ ป่า เขา และบรรยากาศที่ร่มรื่น ถือว่าเป็นประเทศที่มีบรรยากาศที่โรแมนติกมากๆ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติ บอกได้เลยว่าได้ความประทับใจและได้ภาพสวยๆของธรรมชาติที่นี่กลับไปแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปกันเลยย
เวียนนา (Vienna)
เริ่มกันที่แรกด้วย เวียนนา (Vienna) เมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย มีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์จักรวรรดิ สถาปัตยกรรมที่สวยงาม และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา และยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของออสเตรียอีกด้วย มีประชากรมากที่สุดของประเทศกว่า 1.9 ล้านคน ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ในปี 2561 และ 2562 จากการสำรวจโดยเว็บไซต์นิตยสารดิจิทัล และในเวียนนาเองก็มีที่เที่ยวเชิงประติมากรรมมากมาย รอให้ทุกคนไปเยือน ไม่ว่าจะเป็น พระราชวังฮอฟบวร์ก มหาวิหารเซนต์สตีเฟน พระราชวังเชินบรุนน์ และที่พลาดไม่ได้กับการมาเวียนนาก็จะต้องกินไส้กรอกเวียนนา เป็นไส้กรอกที่ทำจากเนื้อวัวและเนื้อหมู ห่อหุ้มด้วยไส้แกะ ร้านไส้กรอกที่นี่สามารถหาทานได้ง่ายมากๆเหมือนกับเป็นสตรีทฟู๊ดของที่นี่เลย ใครมาแล้วห้ามพลาดไปลองชิมกันนะคะ
📍ชื่อสถานที่ : เวียนนา (Vienna)
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/3typbZwDPEHdeszm9
กราซ (Graz)
กราซ (Graz) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศออสเตรีย รองจากเมืองหลวงอย่างกรุงเวียนนา โดยอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรีย ใกล้กับพรมแดนของประเทศสโลวีเนีย ถึงจะไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับต้นๆของประเทศ แต่เป็นเมืองการค้าและเป็นเมืองมหาวิทยาลัยของออสเตรีย เพราะมีมหาวิทยาลัยถึง 6 แห่ง และเนื่องจากกราซเป็นเมืองเก่าแก่ จึงยังมีสิ่งปลูกสร้างเก่าๆหลงเหลือให้ได้เห็นอยู่ และเป็นเมืองที่อนุรักษ์สิ่งก่อสร้างเก่าแก่นี้ไว้ได้ดีมาก แม้จะผ่านช่วงสงครามโลกสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ก็ยังดูสมบูรณ์แบบ ตัวเมืองเก่าของกราซได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก ในปี 1999 และได้รับการยกให้เป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมของยุโรป (Cultural Capital of Europe) ในปี 2003 แลที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสิ่งปลูกสร้างจากโครงการสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรมสมัยใหม่ อย่าง มูรินเซล (Murinsel) ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำเมอร์เลย เป็นเกาะจำลองที่ลอยอยู่กลางน้ำ มีสะพานเชื่อมจากสองฝั่งของแม่น้ำ เป็นลานกิจกรรมเล็กๆ และมีร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม และสิ่งก่อสร้างอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ที่เรียกว่า Kunsthaus (Art Museum) ตัวอาคารเป็นรูปทรงโค้งพิสดาร สถาปนิกที่ออกแบบตึกนี้บอกว่ามันเป็น “เอเลี่ยน”
📍ชื่อสถานที่ : กราซ (Graz)
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/KBoVbW66GqqPR4Fs9
ซาลซ์บูร์ก (Salzburg)
ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) มีชื่อเสียงและโด่งดังในฐานะเป็นถิ่นกำเนิดของโมซาร์ท ชื่อเต็มก็คือ วูฟกังก์ อมาเดอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) คีตกวีเอกชื่อดังแห่งประวัติศาสตร์โลก เมืองซาลซ์บูร์กนั้นตั้งอยู่บริเวณเขาทางทิศตะวันออกของเทือกเขาแอลป์ แถมยังเป็นเมืองที่องค์กรยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ด้วยเสน่ห์ของสวนสาธารณะสไตล์บาโรกที่สวยที่สวยที่สุดในเมืองอย่าง พระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ และแม่น้ำซาลส์ซักค์ และยังเป็นเมืองสำคัญที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ “มนต์รักเพลงสวรรค์” หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Sound of Music ภาพยนต์คลาสสิคที่ต้องมีไว้ติดบ้านใช้เพลงเพื่อสื่อสารและเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต วิวธรรมชาติที่เห็นในภาพยนต์ก็มาจากที่เมืองซาลซ์บูร์ก ทั้งหมด นักท่องเที่ยวนิยมมาตามรอยภาพยนตร์กันทำให้เมืองนี้มีชื่อเสียงที่โด่งดังมากขึ้น
📍ชื่อสถานที่ : ซาลซ์บูร์ก (Salzburg)
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/Y2BpWhtPCcM5mds6A
ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)
ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เมืองเล็กๆที่ติดทะเลสาปที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรียและสวยงามติดอันดับของโลก ไม่ว่าจะไปเที่ยวเวลาไหนก็สวยทุกฤดู บรรยากาศโรแมนติก หมู่บ้านที่สวยทุกองค์ประกอบ บ้านเมืองสีสันสดใส ธรรมชาติที่งามตาราวกับหลุดไปในภาพวาด ด้วยโลเคชั่นที่มีเทือกเขาแอลป์โอบล้อม มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสายแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ โดยไฮไลท์ของ ฮัลล์สตัทท์ นี้ก็คือวิวของโบสถ์ Evangelische Pfarrkirche Hallstatt จะเป็นมุมที่มักจะได้เห็นจากโปสการ์ดหรือภาพโฆษณาของประเทศออสเตรียในที่ต่างๆ จะเป็นมุมยอดฮิตที่ใครๆมาแล้วจะต้องมาถ่ายรูปในมุมนี้ ในเมืองนี้ยังมีหมู่บ้านเล็กๆให้เราเดินชมวิถีชีวิต และเข้าไปจิบกาแฟในคาเฟ่ที่มีหลากหลายร้านมากๆ เลือกนั่งกันได้ตามใจเลย
📍ชื่อสถานที่ : ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/w1Kd2drfig93MZiS8
อินส์บรูค (Innsbruck)
อินส์บรูค (Innsbruck) เมืองหลวงของรัฐทีโรล เป็นเมืองสีพาสเทลน่ารักสไตล์สถาปัตยกรรมแบบบาโรกในออสเตรีย ที่ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์ อยู่ท่ากลางของเทือกเขาแอลป์ ถูกยกให้เป็น Capital of Alps เพราะที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นจุดพักระหว่างการเดินทางบนเทือกเขาแอลป์นั้นเอง เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่เก่าแก่ ศูนย์กลางของกีฬาฤดูหนาว และเคยเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกอยู่หลายครั้ง ในเมืองนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นปราสาทอัมบราส (Schloss Ambras) ศูนย์รวม ศูนย์รวมผลงานและผลิตภัณฑ์ Swarovski (Swarovski Crystal Worlds) และที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือแลนด์มาร์คที่บ้านเมืองเป็นสีพาสเทลเรียงรายเป็นแนวยาว ซึ่งเป็นมุมยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวเมื่อมาที่นี่แล้วจะต้องถ่ายรูปมุมนี้กลับไป
📍ชื่อสถานที่ : อินส์บรูค (Innsbruck)
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/K92BbBDyuPVb1nFW7
วาเคา วัลเล่ย์ (Wachau Valley)
วาเคา วัลเล่ย์ (Wachau Valley) เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ (Danube) มีภูมิประเทศที่สวยงามที่เกิดจากการไหลผ่านของแม่น้ำดานูบ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรีย ซึ่งห่างจากกรุงเวียนนาโดยการนั่งรถไฟแค่เพียง 1 ชั่วโมง หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลาง 4 หมู่บ้าน คือ Melk, Krems, Spitz และ Dürnstein มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ร่องรอบของโบราณคดีให้ได้เห็นกันมากมายไม่ว่าจะเป็น ปราสาท ซากปรักหักพัง อารามต่างๆซึ่งทำให้ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกในปี 2543 และเป็นสถานที่ปลูกองุ่นและที่ผลิตไวน์คุณภาพที่ดีเยี่ยม ซึ่งการเที่ยวที่วาเคา วัลเล่ย์ก็มีหลากหลายรูปแบบทั้งล่องเรือแม่น้ำดานูบ ปั่นจักรยาน ปีนเขา เก็บบรรยากาศธรรมชาติ ความสดชื่นจากสีเขียวของต้นไม้ เป็นอะไรที่มีความสุขสุดๆไปเลย
📍ชื่อสถานที่ : วาเคา วัลเล่ย์ (Wachau Valley)
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/DfsWB4MbCkMAMhgb8
ถ้ำน้ำแข็ง (Eisriesenwelt Ice Cave)
ถ้ำน้ำแข็ง (Eisriesenwelt Ice Cave) ในส่วนของชื่อ Eisriesenwelt ในภาษาอังกฤษแปลว่า World of the Ice Giants ด้วยความยาว 42 กิโลเมตรจึงทำให้ที่นี่เป็นถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในภูเขา Hochkogel ในเมือง Wefen เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศออสเตรีย โดยทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาชมความอลังการของถ้ำนี้ประมาน 2 แสนคนต่อปี ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้เป็นถ้ำน้ำแข็งหินปูนธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นโดยแม่น้ำSalzachไหลผ่านและกัดเซาะทางเดินเกือบ 100 ล้านปีก่อน เวลาผ่านไปรอยแตกและรอยแยกในหินปูนมีการพัฒนามากขึ้นเมื่อน้ำกัดเซาะหินออกไป พอเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวเมื่ออากาศภายในภูเขาอุ่นกว่าข้างนอก อากาศเย็นเลยไหลเข้าสู่ภูเขาและลดอุณภูมิของพื้นที่ด้านล่างให้ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และในฤดูใบไม้ผลิน้ำที่ละลายจากหิมะจะไหลทะลุผ่านรอยแตกและเมื่อถึงจุดต่ำสุดของถ้ำจะหยุดและเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง แม้ว่าถ้ำจะมีความยาวถึง 42 กิโลเมตร แต่แค่เพียงกิโลเมตรแรกเท่านั้นที่สามารถเข้าชมได้
📍ชื่อสถานที่ : ถ้ำน้ำแข็ง (Eisriesenwelt Ice Cave)
📞เบอร์โทรศัพท์ : +4364685248
🔎เว็บไซต์ : eisriesenwelt.at
🔗Facebook : Eisriesenwelt
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 8.30 – 15.30 น.
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/N3MLkTc4XeP77i877
อุทยานแห่งชาติ (Hohe Tauern National Park)
อุทยานแห่งชาติ (Hohe Tauern National Park) อุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุด เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดไม่เฉพาะในออสเตรียเท่านั้น แต่ยังทั่วยุโรปกลาง มีพื้นที่มากกว่า 1800 ตารางกิโลเมตรและมีภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศออสเตรียประกอบอยู่ด้วยคือ Grossglockner ตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติและการเดินป่า จะได้พบกับธรรมชาติอันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น น้ำตก Krimml Falls ธารน้ำแข็ง Pasterze และ ทะเลสาบ White Lake ซึ่งจะเป็นไฮไลท์เด่นๆของที่นี่ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า สัตว์ท้องถิ่นต่างๆของประเทศออสเตรีย เช่น เลียงผา และมาร์มอต ใครที่ชอบท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติมาที่นี่อิ่มอกอิ่มใจแน่นอน
📍ชื่อสถานที่ : อุทยานแห่งชาติ (Hohe Tauern National Park)
📞เบอร์โทรศัพท์ : +434875516110
🔎เว็บไซต์ : grossglockner.at
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 18.00
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/zdgtEPS4qrTFfFHG8
Grossglockner High Alpine Road
Grossglockner High Alpine Road ถนนสู่ยอดเขาแอลป์ที่สูงสุดและสวยที่สุดในประเทศออสเตรีย มีความสูง 3,798 เมตรจากระดับน้ำทะเลและมีความยาวเกือบ 50 กิโลเมตร ก่อนเข้าไปจะต้องผ่านด่านเข้าสู่อุทยาน Hohe Tauern National Park เพื่อชำระเงินค่าธรรมเนียมก่อน ซึ่งราคาจะไม่เท่ากันตามขนาดและประเภทของรถที่ขับเข้าไป จากนั้นขับยาวๆเพื่อดื่มด่ำและชมทัศนียภาพของธรรมชาติทั้งสองข้างทางได้เลย และจะไปสิ้นสุดที่เมือง Heiligenblut amGrossglockner เมืองชนบทเล็กๆ อยู่กับธรรมชาติชิลล์ๆท่ามกลางหุบเขาสูง ถนนแห่งนี้จะเปิดให้ใช้งานและขึ้นไปชมธรรมชาติสวยๆในด้านบนได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมหลังจากที่หิมะเริ่มละลาย และจะเปิดอีกอีกครั้งเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ถ้าใครชอบแบบ Road Trip แนะนำที่นี่เลยค่ะ
📍ชื่อสถานที่ : Grossglockner High Alpine Road
📞เบอร์โทรศัพท์ : +43 4242 55 309
🔎เว็บไซต์ : grossglockner.at
⌚เวลาทำการ : เช็คจากหน้าเว็บไซต์
🔗Facebook : Grossglockner Hochalpenstrasse
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/b7X2dRVmuGNJyrkK9
ลานน้ำพุมังกรลินท์วูร์ม (Lindworm Fountain)
ลานน้ำพุมังกรลินท์วูร์ม (Lindworm Fountain) เป็นน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองคลาเกนฟูร์ท (Klagenfurt) และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองตั้งอยู่ที่ New Square ในใจกลางเมือง ประติมากรรมนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 และอ้างถึงตำนานของเมือง เป็นรูปปั้นสิ่งมีชีวิตในตำนานซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างมังกรและงู น้ำพุนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของเมืองเท่านั้นแต่ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงตำนานโบราณอีกด้วย ซึ่งคนท้องถิ่นกล่าวว่าตำนานนี้มี 2 เวอร์ชั่น คือ ตำนานแรกกล่าวว่ามังกรอาศัยอยู่ในทะเลสาปเวอร์เทอร์ซึ่งอยู่ใกล้เมืองได้โจมตีหมู่บ้าน ทุกคนในบริเวณนั้นกลัวมากไม่มีใครกล้าปราบเจ้ามังกรนี้ได้ และมีเพียงชายกล้าหาญผู้หนึ่งเท่านั้นที่ตัดสินใจไปฆ่ามังกรตัวนี้ ตำนานที่สองกล่าวว่าสถานที่แห่งนี้แต่ก่อนเป็นหนองน้ำที่มีมังกรอาศัยอยู่ มังกรได้คุกคามพื้นที่ของหมู่บ้าน จากนั้นชาวบ้านได้ร่วมมือกันฆ่ามังกรและสร้างเมืองบนพื้นที่ของหนองน้ำนี้ ประติมากรรมแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเมืองคลาเกนฟูร์ทเป็นอย่างมาก ต่างเข้ามาแวะเวียนเพื่อถ่ายรูปและชมความสวยงามของประติมากรรมแห่งนี้
📍ชื่อสถานที่ : ลานน้ำพุมังกรลินท์วูร์ม (Lindworm Fountain)
📞เบอร์โทรศัพท์ : +434635370
⌚เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/EdPUvHGVxtH2EcEy6
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับธรรมชาติของประเทศออสเตรีย สวยแบบเต็มสิบไปเลยใช่ไหมล่ะ ถ้าใครชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยเทือกเขา มาชาร์จพลังชีวิต สูดอากาศบริสุทธิ์แบบนี้แนะนำให้มาที่ประเทศออสเตรียเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลไหนหรือฤดูไหนก็สามารถมาเที่ยวที่ประเทศออสเตรียได้ตลอดเลยค่ะ และการมาที่นี่อย่าลืมแวะมาชิมไส้กรอกเวียนนาด้วยนะ เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง เตรียมพาสปอร์ตและวีซ่าของคุณให้เรียบร้อยแล้วออกมาเที่ยวกันค่ะ บอกได้เลยว่าได้ความประทับใจกลับไปแบบไม่รู้ลืมเลยทีเดียว ครั้งหน้าเราจะไปที่ไหน รอติดตามกันนะคะ
อ่านเพิ่มเติม