10 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นพิมพ์นิยมในโตเกียว
ญี่ปุ่นนั้นนับว่าเป็นดินเเดนที่สวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมอย่างมาก โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างโตเกียวที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน เพราะเมืองหลวงที่เเสนจะทันสมัยเเห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวดังมากมาย เเละนี่เป็น 10 สถานที่ท่องเที่ยวพิมพ์นิยมในโตเกียว ที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นเเล้วจะต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมกันให้ได้
โตเกียว ทาวเวอร์
โตเกียว ทาวเวอร์ คือเเลนด์มาร์คที่ใครมาเที่ยวโตเกียวเเล้วต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมกับเเลนด์มาร์คเก่าเเก่ของโตเกียวที่มีความสูงกว่า 333 เมตร เเละเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์เเห่งความก้าวหน้าเเละพลิกฟื้นอีกครั้งของญี่ปุ่นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบสิ้นลง โดยจุดประสงค์เริ่มเเรกนั้นก็เพื่อใช้เป็นหอกระจายสัญญาณคลื่นวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ ของทั้ง NHK เเละ TBS ซึ่งมีการเเบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือส่วนฐานนั้นจะมีอยู่จำนวน 4 ชั้น จะเป็นเเหล่งรวมร้านขายของที่ระลึก ภัตรคารต่างๆ ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อของฝากได้ที่นี่อีกด้วย ส่วนที่ความสูง 150 เมตรจะเป็น Main Observatory ซึ่งสามารถชมวิวได้เเบบ 360 องศาเลยทีเดียว เเละที่ความสูง 250 เมตร นั้นจะเป็น Special Observatory ซึ่งก็จะทำให้คุณสามารถความสวยงามของโตเกียวในมุมสูง เเละบางครั้งในวันที่อากาศดีๆ ก็จะสามารถมองเห็นได้ถึงภูเขาไฟฟูจิเลยทีเดียว โดยการขึ้นไปชมด้านบนนั้นต้องซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปชม ซึ่งที่นี่จะเปิดในเวลา 9.00 -22.00 น. ส่วนการเดินทางนั้นเรียกว่าสะดวกอย่างมากเพราะมีรถไฟหลายสายผ่าน
สวนอุเอโนะ
สวนอุเอโนะ รับว่าเป็นสวนสาธารณะขึ้นชื่ออย่างมากของโตเกียว เเละสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวไทยต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะมันตั้งอยู่ในละแวกเดียวกับทั้ง สถานีรถไฟอุเอโนะที่มีการจราจรขับคั่งอย่างมากอีกเเห่งของโลก เเละตลาดอะเมโยโกะ รวมทั้งตึกม่วงเเหล่งช็อปปิ้งสินค้าราคาถูกขึ้นชื่อ โดยชื่อเสียงที่เลื่องลืออีกอย่างของสวนสาธารณะเเห่งนี้ก็คือการที่มันเป็นเเหล่งชมดอกซากุระอันดับหนึ่งของโตเกียวเลยทีเดียว เเถมรอบๆ กันนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายเเห่งด้วยกัน โดยสวนเเห่งนี้จะเปิดให้เข้าไปใช้บริการได้ทุกวันตั้งเเต่เวลา 6.00 น. จนถึงเวลา 22.00 นง เเละการเดินทางไปมาสะดวกเป็นอย่างยิ่ง
ตลาดอะเมโยโกะ
ตลาดอะเมโยโกะ นั้นตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนอุเอโนะ เเต่เดิมนั้นเป็นเเหล่งขายลูกกวาดที่สำคัญของโตเกียว ก่อนที่ในปัจจุบันนั้นจะมีการเปลี่ยนเเปลงมาขายสินค้าทั้งของสดเเละสินค้าอื่นๆ อีกนานาชนิด รวมทั้งมีร้านขายอาหารมากมายหลายเเห่ง โดยตลาดเเห่งนี้มีร้านค้าตั้งเรียงรายกันกว่า 500 ร้านเลยทีเดียว เเละขายสินค้าในราคาที่ถูกอย่างมาก จนกลายเป็นที่นิยมของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยมีทั้งร้านขายบรรดาเสื้อผ้า รองเท้า เเละอุปกรณ์กีฬาต่างๆ รวมทั้งรานขายของฝากที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น โดยอย่างบรรดาคิทเเคทชาเขียวนั้นก็สามารถซื้อได้ที่นี่ในราคาที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย นอกจากนี้เเล้วพวกร้านอาหารริมทางนั้นก็นับว่าน่าสนใจในรสชาดของเเต่ละเมนูเด็ด ซึ่งร้านค้าละแวกนี้จะเปิดขายกันในเวลาประมาณ 10.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. เเละเดินทางสะดวกอย่างมากด้วยรถไฟยอดฮิตสาย Yamanote Line ซึ่งสามารถเลือกเอาว่าจะลงที่สถานี Ueno หรือ สถานี Okachimachi ก็ได้ พร้อมทั้งมีเส้นทางเดินต่อไปยัง Takeya หรือที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมักจะเรียกกันติดปากว่าตึกม่วง นั่นเอง
ศาลเจ้าเมจิ
ศาลเจ้าเมจิ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้เห็นอีกโลกหนึ่งของโตเกียวที่เเสนจะเงียบสงบเเละน่ามาท่องเที่ยวอย่างมาก ยิ่งในช่วงปีใหม่เเล้ว สถานที่เเห่งนี้คือสถานที่อันดับหนึ่งมี่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาของพรเพื่อต้อนรับปีใหม่กันอย่างมาก ศาลเจ้าเเห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศให้กับสมเด็จพระพระจักรพรรดิเมจิ และพระจักรพรรดินีโซเค เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ที่ปรับเปลี่ยนญี่ปุ่นสู่การเป็นประเทศที่มีความทันสมัยเทียบเท่าประเทศอื่นๆ ในโลกตะวันตก โดยต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในบริเวณของศาลเจ้านั้น ต้องบอกเลยว่าได้รับการบริจาคมาจากประชาชนทั่วประเทศในตอนเริ่มสร้างหว่า เเสนต้น ทำให้มันกลายเป็นป่าขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียว เเม้ว่าจะโดนพิษภัยจากสงคราม เเต่ก็สามารถบูรณะให้กลับมาสวยงามดั่งเดิม โดยรอบๆ ของศาลเจ้าเเห่งนี้นั้นเป็นที่ตั้งของย่านช๊อปปิ้งชื่อดังอย่างชิบูย่าเเละฮาราจุกุ ส่วนการเดินทางมายังที่นี่นั้นก็สะดวกอย่างมากไม่ว่าจะเป็นรถไฟ JR สาย Yamanote Line หรือรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย C-Chiyoda Line ก็มาถึงได้เช่นเดียวกัน
วัดเซนโซจิ
วัดเซนโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ ตามที่นักท่องเที่ยวชาวไทยชอบเรียกกันนั้นตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ริมเเม่น้ำสุมิดะ เป็นวัดที่มีความสำคัญเเละเก่าเเก่อย่างมากของโตเกียว โดยเป็นหนึ่งในเเลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวต่างไม่พลาดในการมาเที่ยวชมความเก่าเเก่เเละศักดิ์สิทธิ์ของพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่มีความสูง 5 นิ้ว พร้อมกับต้องไม่พลาดมาถ่ายภาพกับโคมกระดาษขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 5.5 เมตร ที่เเขวนอยู่ ณ ประตูคามินาริ ทางเข้าของวัดเเห่งนี้ เพื่อประกาศว่าได้มาถึงโตเกียวเเละญี่ปุ่นอย่างเเท้จริงเเล้ว เเถมมนต์เสน่ห์ของร้านค้าต่างๆ ริมสองข้างทางของถนนนากามิเสะ ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ตัววิหารหลักนั้นก็นับว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก เพราะสินค้าเเละขนมนมเนยต่างๆ ของร้านรวงต่างๆ นั้นเรียกว่าขึ้นชื่อลือชาอย่างมากเลยก็ว่าได้ ส่วนการเดินทางมายังที่นี่นั้นก็สะดวกสบายด้วยการใช้บริการของรถไฟใต้ดินสายกินซ่า นั่นเอง
ตลาดปลาซึกิจิ
ตลาดปลาซึกิจิ หรือ ตลาดขายส่งกลางนครโตเกียว นั้นนับว่าเป็นตลาดค้าปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่คือมนต์เสน่ห์ที่อยู่คู่โตเกียวมายาวนาน เเม้ว่าจะมีเเผนในการย้ายไปยังที่อื่นเเล้วก็ตาม เเต่มนต์เสน่ห์ของชื่อเสียงที่นี่ก็ยังไม่ลดลงเลยเเม้เเต่น้อย โดยตลาดเเห่งนี้จะเปิดดำเนินการกันตั้งเเต่เวลา 4.00 น. ของทุกวัน เเต่จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ในเวลา 9.00 น. หลังจากการประมูลปลาอันดุเดือดได้สิ้นสุดลงเเล้ว ซึ่งจริงๆ นั้นเเต่ก่อนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมบรรยากาศของการประมูลปลา เเต่ในช่วงหลังๆ นักท่องเที่ยวเข้าไปเป็นปริมาณมากจนการประมูลเริ่มมีปัญหา นอกจากนี้เเล้วรอบๆ ของตลาดปลานั้นยังเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมายที่มีเมนูจากปลาเป็นจุดขาย โดยบางร้านนั้นต้องมาเข้าคิวกันหลายชั่วโมงเพื่อรอชิมกันเลยทีเดียว เเต่รับรองได้เลยว่าทุกเมนูนั้นอร่อยอย่างมาก รวมทั้งการเดินทางมายังสถานที่เเห่งนี้ก็นับว่าสะดวกรวดเร็วอย่างมากด้วยรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย H-Hibiya Line
พระราชวังอิมพีเรียล
พระราชวังอิมพีเรียล นั้นนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวโตเกียวเเล้วไม่ควรจะพลาดอย่างยิ่งเพื่อมาเที่ยวชมความสวยงามของพระราชวังเเห่งนี้เเม้ว่าจะเห็นเพียงเเค่ด้านนอกเท่านั้นก็ตาม โดยมันสร้างมาจากรากฐานเดิมของปราสาทเอโดะ ซึ่งปัจจุบันนั้นไม่หลงเหลืออยู่เเล้ว เเละเป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ เมื่อพระองค์ย้ายมาจากเกียวโต โดยในเเต่ละปีนั้นโอกาสที่จะได้เข้าไปภายในพระราชวังนั้นมีอยู่เพียงเเค่ 2 ครั้ง คือในวันที่ 2 มกราคม ซึ่งเป็นวาระของวันขึ้นปีใหม่ และวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโต้ ส่วนจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกันอย่างมากเลยก็คือบริเวณที่เรียกว่า นิจูบาชิ หรือ สะพานคู่ นั่นเอง เพราะภาพสะท้อนน้ำของโค้งหินสองอัน จะคล้ายกับเเว่นตาอย่างมาก จนถูกเรียกว่า เมกะเนะบาชิ หรือสะพานแว่นตานั่นเอง นอกจากนี้เเล้วบริเวณใกล้ๆ กันก็เป็นพื้นที่ของ Imperial Palace East Gardens ที่มีความสวยงามอย่างมาก ส่วนการเดินทางมานั้นคุณสามารถใช้บริการของรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย M-Marunouchi Line ก็สามารถมาถึงได้เลย
โอไดบะ
โอไดบะ คือเกาะที่ญี่ปุ่นได้สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยตั้งเเต่ปี ค.ศ.1850 เเล้ว จนกลายเป็นเมืองใหม่ที่เป็นเเหล่งรวบรวมห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงานเเละพิพิธภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจอยู่มากมายหลายเเห่งด้วยกันทั้งพาเลตทาวน์, ห้างวีนัส ฟอร์ด, ห้างเลเชอร์แลนด์ เเละห้างไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายภาพคู่กับกันดัมขนาดเท่าตัวจริงเลย นอกจากนี้เเล้วก็ยังมีชิงช้าสวรรค์เฟอริส ที่มีความสูงกว่า 115 เมตร รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ โตโยต้า หรือที่เรียกว่า Toyota Mega Web ที่มีอะไรน่าสนใจมากมายอยู่ในนั้น เเละอาคารรูปทรงทันสมัยอย่างสำนักงานของสถานีโทรทัศน์ฟูจิ ก็ได้รับความสนใจอย่างมาก เเต่จุดไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือการมาชมความสวยงามของสะพานสายรุ้ง ที่จะมีการปล่อยเเสงออกมาเป็นสีรุ้งในช่วงค่ำคืนอีกด้วย โดยการเดินทางมายังเกาะนี้ก็สามารถใช้บริการของรถไฟเเละเรือมาถึงได้เลย นับว่าน่ามาเที่ยวอย่างยิ่ง
โตเกียว ดิสนีย์แลนด์
โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ คือหนึ่งในสวนสนุกที่ดีที่สุดของโลกเเละของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยเป็นที่ใฝ่ฝันของบรรดาเด็กๆ ที่ต้องการมาเที่ยวที่นี่ให้ได้ซักครั้งหนึ่ง โดยมันตั้งอยู่ออกไปจากโตเกียวเล็กน้อยในเขตของจังหวัดชิบะ เเต่สามารถเดินทางจากใจกลางโตเกียวออกไปด้วยรถไฟเพียงระยะเวลาเพียงเเค่ 15 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งภายในนั้นจะเเบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกันทั้ง เวิร์ล บาร์ซ่า, แอดเวนเจอร์แลนด์, เวสเทิร์นแลนด์, คริทเตอร์ คันทรี่, แฟนตาซีแลนด์, โซนหมีพูห์ เเละทูนทาวน์ โดยมีการเเสดงในช่วงเย็น เเละเด็กๆ สามารถเล่นเครื่องเล่นหรือจะถ่ายภาพกับตัวการ์ตูนดังของ Walt Disney ที่มาเเบบครบทีมได้อีกด้วย โดยที่นี่จะเปิดให้บริการตั้งเเต่เวลา 8.00 น. จนถึงเวลา 22.00 น. ซึ่งค่าตั๋วเเบบ1-Day Pass สำหรับผู้ใหญ่จะตกอยู่ที่ 6,400 เยน ส่วนเด็กจะตกอยู่ที่ 5,500 เยน โดยสามารถใช้บริการของรถไฟได้หลายสายเพื่อมาที่นี่ทั้งสาย JR Chuo Line Rapid หรือ JR Keiyo Line เเละ JR Musashino Line
โตเกียว สกายทรี
โตเกียว สกายทรี คือหอคอยส่งสัญญาณเเบบดิจิตอลเเห่งใหม่ที่ว่ากันว่ามารับช่วงต่อจาก โตเกียวทาวเวอร์ โดยมันมีความสูงหว่า 634 เมตร หรือออกเสียงในภาษาญี่ปุ่นได้ว่า มุซะชิ ซึ่งก็คือพื้นที่เดิมของที่ตั้งโตเกียวในยุคเอโดะนั่นเอง โดยมันเเบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน คือส่วนฐานนั้นจะเป็นอาคารสูง 5 ชั้นที่เป็นที่จำหน่ายตั๋ว เเละเเหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหารมาหมาย ส่วนที่ความสูง 350 เมตรนั้นจะเรียกกันว่า TOKYO SKYTREE TEMBO DECK โดยจุดนี้จะมี 3 ชั้นย่อย โดยคุณสามารถชมความสวยงามของโตเกียวได้เเบบ 360 องศาเเละมีร้านขายของทีระลึกรวมทั้งคาเฟ่ให้คุณได้นั่งชิลๆ อีกด้วย ส่วนที่ความสูง 450 เมตรนั้นจะเรียกว่า TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA โดยจะเป็นการชมวิวในเเบบ TEMBO GALLERIA ที่เดินวนจากชั้น 1 ไปสู่ชั้นสอง เเละเห็นวิวเเบบ 360 องศาเลยทีเดียว โดยในวันที่อากาศดีนั้นสามารถเห็นฟูจิซังได้อย่างชัดเจน