10 สถานที่ท่องเที่ยวเด็ดของญี่ปุ่นในเกียวโต
ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมสวยงามเเละเก่าเเก่มาอย่างยาวนาน โดยมีเมืองหลวงเก่าเเก่ออย่าง เกียวโต เป็นสัญลักษณ์เเห่งความเก่าเเก่นั้น เเละเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอย่างมากของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ โดยมันเป็นจุดหมายปลายทางของบรรดานักท่องเที่ยวที่จะมาสัมผัสกับความเก่าเเก่สวยงามของร่องรอยเเห่งประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เเละมาสัมผัสกับวัฒนธรรมที่เเสนจะงดงาม โดยในเมืองเเห่งนี้นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวเก่าเเก่มากมาย เเละนี่เป็น 10 สถานที่ท่องเที่ยวเด็ดในเกียวโต ที่ใครมาเยือนเมืองเเห่งนี้เเล้วมักจะไม่พลาดมาเที่ยวชมกัน
อาราชิยะมะ
อาราชิยะมะ นั้นเป็นย่านหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกียวโต โดยมีลักษณะของพื้นที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนเเละมีเเม่น้ำไหลผ่าน พร้อมกับต้นไม้ใหญ่มากมาย เเละบรรดาดอกไม้ โดยสถานที่เเห่งนี้ได้รับความนิยมมาตั้งเเต่สมัยเฮอันเเล้ว โดยฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวจะเยอะมากนั้นก็จะเป็นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะมาชมความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีกัน เเละจุดไฮไลท์ของย่านนี้ก็คือ สะพานโทเง็ตสึเคียว ซึ่งมีความเก่าเเก่สวยงาม โดยเป็นสะพานไม้ที่ข้ามเเม่น้ำโฮซุ โดยใกล้ๆ กันนั้นจะเป็นย่านของร้านอาหารเเละร้านค้ามากมายที่มีความน่าสนใจเเทบทั้งสิ้น โดยมีกิจกรรมเด่นคือการนั่งรถไฟสายชะกะโนะ เพื่อชมวิวความงดงามริมเเม่น้ำ สำหรับการเดินทางมายังย่านนี้นั้นก็นับว่าสะดวกอย่างมากเพียงคุณใช้บริการของรถไฟ JR ขบวน Segano จากสถานีรถไฟเกียวโตมาลงยังสถานีรถไฟ Sega Arashiyama ก็จะถึงเเล้ว
สวนป่าไผ่
สวนป่าไผ่ ในเกียวโตนั้นนับว่าเป็นจุดท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คของเมืองเเห่งนี้เลยก็ว่าได้ เเละในเเต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความสวยงามของป่าไผ่เเห่งนี้กันอย่างมาก ซึ่งยามเมื่อต้นไผ่ต้องกับลมนั้นจะเกิดเป็นเสียวูด เเละมีสีสันที่เเตกต่างกันออกไปในเเต่ละช่วงเวลาทั้ง สีเขียว สีทอง สีเหลือง นับว่าเป็นมนต์เสน่ห์ที่ตราตรึงใจผู้ที่ได้มาพบอย่างมาก โดยตลอดเส้นทางเดินนั้นคุณจะได้เห็นเสียงอาทิตย์ที่รอดผ่านลงมากเป็นเเสงระยิบระยับสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีร้านค้าอยู่มากมายทั้งสองข้าง ที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไผ่ เเละหากใครเดินไม่ไหวก็สามารถนั่งรถรากได้อีกด้วย ก็นับว่าเป็นการสัมผัสบรรยากาศเเบบเกียวโตที่น่าสนใจไปอีกเเบบ โดยที่นี่จะเปิดให้เข้าชมตลอดเวลา ซึ่งการเดินทางมานั้นคุณสามารถใช้บริการของรถไฟ JR สาย Sagano line เเล้วให้คุณมาลงที่สถานีรถไฟ Saga Arashiyama จากนั้นเดินต่อมาอีกเพียงเเค่ 10 นาทีก็จะถึงทางเข้าสู่ป่าไผ่เเล้ว
ถนนฮานามิ โคจิ
ถนนฮานามิ โคจิ นั้นตั้งอยู่ย่านกิอน ที่มีชื่อเสียงอย่างมากเเละเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับไฮไลท์ของเกียวโต ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมกันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะสามารถพบเห็นเกอิชา เเละไมโกะ ตัวเป็นๆ โดยมันเป็นย่านเก่าเเก่มาตั้งเเต่ยุคเกียวโตเป็นเมืองหลวงเเล้ว โดยอาคารที่ตั้งอยู่สองข้างทางนั้นจะเป็นบ้านไม้เก่าเเก่สไตล์เกียวโต ที่มีความสวยงามอย่างมาก โดยเเต่ละอาคารนั้นได้รับการรีโนเวทภายในให้กลายเป็นร้านอาหาร เเละร้านน้ำชา ที่ต้องบอกว่า เเต่ละร้านนั้นมีความหรูหราอย่างมาก โดยเเต่ละร้านจะมีดคมไฟสีเเดงเปิดเมื่อยามพระอาทิตย์ตกดินเเล้ว โดยจุดที่น่าสนใจคือบริเวณของ Gion Corner ซึ่งจะเป็นศูนย์แสดงศิลปะการแสดง ที่การเเสดงส่วนใหญ่จะเป็นการเเสดงที่เก่าแก่ของญี่ปุ่นทั้ง การแสดงหุ่นกระบอก เเละการร่ายรำของไมโกะ โดยคุณสามารถใช้บริการของรถบัสสาย 100 หรือจะเป็นสาย 206 ก็ได้จากสถานีเกียวโต โดย ให้ไปลงที่ป้าย Gion
วัดคินคาคุจิ
วัดคินคาคุจิ คือสุดยอดของสถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโต เเละเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว หากใครมีอายุมากกว่า 30 ปี น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะปรากฏในการ์ตูนดัง อิ๊กคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา โดยที่นี่มีชื่อหลายชื่อทั้ง วัดปราสาททอง, วัดทอง หรือพลับพลาทอง เเต่เดิมนั้นที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศของ ไซออนจิ คิซึเนะ เเต่หลังจากนั้น อาชิคางะ โยชิมิซึ ก็ซื้อต่อมาใช้เป็นที่พักของท่าน เเละได้สร้างตัวคินคาคุจิ ขึ้นมา เเต่หลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตไปเเล้ว บุตรชายของท่านก็ได้เปลี่ยนที่นี่ให้กลายเป็นวัดเซน เเต่ที่นี่เคยเพลิงไหม้เพราะพระรูปหนึ่งนามว่า ฮายาชิ โยเคน ซึ่งเสียสติเเละจัดการวางเพลิงคินคาคุจิ ด้วยเหตุผลเพียงเพื่อว่าต้องการจะรักษาความงามไว้ตลอดกาล เเต่มันก็โดนทำลายจากสงครามโอนิน ก่อนที่จะได้รับการบุรณะขึ้นใหม่ในเวลาต่อมา เเละกลับมาสวยงามอีกครั้ง ด้วยสีทองเหลืออร่าม เเละเมื่อกระทบกับผืนน้ำ เกิดเป็นภาพที่สวยงามอย่างมาก โดยด้านบนนั้นจะมีรูปปั้นนกฟีนิกซ์ สวยงามอย่างมาก โดยการเดินทางมายังที่นี่นั้นคุณสามารถใช้บริการของรถบัส Kyoto City Bus จากหน้าสถานีรถไฟ เจอาร์ เกียวโต โดยให้คุณมาลงที่ป้าย Kinkakujimachi ก็จะถึงเเล้ว
วัดคิโยมิซุเดระ
วัดคิโยมิซุเดระ หรือ วัดน้ำใส นั้นนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอย่างมาก เเละเป็นไฮไลท์อีกเเห่งของเกียวโตที่น่ามาเที่ยวชมอย่างมาก ตั้งอยู่ที่เชิงเขาโอโตวะ โดยสร้างมาตั้งเเต่สมัยเฮอัน โดยมีน้ำตกตั้งอยู่ในบริเวณของวัด เเละมีน้ำไหลลงมาจากต่อเนื่องจนกลายเป็นชื่อเรียกอีกชื่อของวัดเเห่งนี้ นอกจากนี้เเล้วยังมีจุดที่นี่ภายในวัดทั้งระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่สวยงามอย่างมาก เเละคุณสามารถมองเห็นวิวของตัวเมืองเกียวโตได้อย่างชัดเจน โดยในช่วงซากุระบานนั้น ที่นี่นับว่าเป็นอีกจุดที่น่ามาชมความงดงามของซากุระบานเป็นอย่างยิ่ง โดยมีความเชื่อกันว่าหากใครที่ได้มาดื่มน้ำจากน้ำตกในวัดเเห่งนี้นั้นจะมีความสมหวังในสิ่งที่ปารถนาทุกประการ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 300 เยน เเละสามารถเดินทางมาได้โดยใช้บริการของรถบัส Kyoto City Bus เบอร์ 100 หรือ 206 ก็ได้ โดยให้ขึ้นมาจากสถานีรถไฟเกียวโต เเล้วให้คุณมาลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือจะเป็นป้าย Kimomizu-michi ก็ได้
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินะริ
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินะริ นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คอีกเเห่งของเกียวโต จากภาพของเสาโทริอิสีเเดงที่ตั้งเรียงรายกันเป็นระยะทางมากกว่า 4 กิโลเมตร จนเป็นภาพที่จดจำของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง โดยมันเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพอินะริ โดยสร้างมาตั้งเเต่สมัยเฮอัน โดยคำบัญชาของจักรพรรดิมุราคามิ เเละเพระองค์เป็นบุคคลเเรกที่นำเสาโทริอิ มาบริจาคให้กับศาลเจ้าเเห่งนี้ ก่อนที่จะมีการบริจาคต่อๆ กันมาเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในปัจจุบันนั้นมีจำนวนมากกว่าหมื่นต้นเลยทีเดียว โดยใครที่จะบริจาคในปัจจุบันต้องเข้าคิวกันเลย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมเดินเที่ยวลอดไปตามเสาโทริอิเหล่านี้ เเละมักจะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างมาก โดยหากจะเดินเที่ยวตลอดเส้นทางน่าจะใช้เวลาในการเดินประมาณ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยคุณสามารถใช้บริการของของรถไฟสาย JR Nara ให้มาลงยังสถานีรถไฟ Inari เเล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงเเล้ว
ปราสาทนิโจ
ปราสาทนิโจ คือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเเละเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยสร้างมาตั้งเเต่ยุคเเห่งความวุ่นวายของญี่ปุ่น โดยเคยเป็นที่อาศัยของโอดะ โนบุนางะ เเละได้รับการต่อเติมโดย โตกุกาว่า อิเอยาสึ โดยใช้เป็นสถานที่ในการออกว่าราชการเมื่อยามที่ต้องมาเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิที่เกียวโต โดยตัวปราสาทนั้นสร้างมาจากไม้ล้วนๆ เเละเป็นปราสาทเเห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มีชั้นเดียว รวมทั้งมีกลไกมากมาย เเละมีลักษณะการวางผังเป็นเเบบวงเเหวน โดยได้รับการบูรณะด้วยช่างไม้ที่เชียวชาญของญี่ปุ่นเป็นเวลานานจนกลับมาสวยงามอีกครั้ง โดยนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 500 เยน เเละคุณสามารถเดินทางมายังที่นี่ด้วยการใช้บริการของรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Subway Line จากสถานีรถไฟเกียวโตเเล้วมาลงที่สถานีรถไฟ Karasuma-Oike Station เพื่อเปลี่ยนเส้นทางมาใช้บริการของรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line โดยมาลงที่สถานีรถไฟ Nijojo-mae Station ก็จะถึงเเล้ว
วัดเรียวอันจิ
วัดเรียวอันจิ นั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว จากความสวยงามของ สวนหิน ที่เป็นเหมือนเเม่เหล็กในการดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมกันอย่างมากมาย โดยมันถูกสร้างมาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 14 ในสมัยเฮอัน โดยเป็นที่พักของขุนนางเก่าก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นวัดในเวลาต่อมา โดยสวนหินนั้นเป็นการจัดในสไตล์ของคาเระซันซุย ที่มีทั้งหินเเละกรวดบนพื้นที่ 248 ตารางเมตร เเต่จุดไฮไลท์ จะเป็นบริเวณที่มีหินตั้งอยู่ 15 ก้อน โดยมันมีความพิเศษตรงที่ไม่ว่าคุณจะมองจากตรงไหนจะเห็นหินเพียงเเค่ 14 ก้อนเท่านั้น เพราะมันคือหนึ่งในปริศนาธรรมของนิกายเซน ที่ว่ากันว่าหากใครสามารถมองเห็นหินก้อนที่ 15 ก็จะบรรลุธรรมขั้นสูง นอกจากนี้เเล้วสระน้ำที่รายล้อมด้วยต้นเมเปิ้ล ก็สวยงามอย่างมากในฤดูใบ้ไม้ร่วง ซึ่งที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 8.00 นง ถึง 17.00 น. โดยเสียค่าเข้าชม 500 เยน
วัดเท็นริวจิ
วัดเท็นริวจิ นั้นเป็นอีกวัดในเกียวโตที่มีความสวยงามเเละเป็นอีกหนึ่งในวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยเเต่เดิมนั้นเป็นที่ประทับของจักรพรรดิโกะ-ไดโกะ โดยจุดเด่นของวัดเเห่งนี้อยู่ที่วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของของสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ พร้อมกับต้นเมเปิ้ลจำนวนมากมาย โดยในช่วงของฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เพราะนักท่องเที่ยวสามารถมานั่งชมความงดงามของสวนได้จากภายในห้อง โดยคุณต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 500 เยน ซึ่งสามารถเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามโดยใช้บริการของรถไฟเจอาร์ สายซะงะโนะ จากสถานีรถไฟเจอาร์ เกียวโต ให้มาลงที่สถานีรถไฟเจอาร์ ซะงะ อะระชิยะมะ เเล้วเดินต่ออีกเพียงเเค่ 10 นาทีก็จะถึงเเล้ว
วัดเบียวโดอิน
วัดเบียวโดอิน ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยตั้งอยู่ที่เมืองอุจิ ซึ่งอยู่ในเขตของเกียวโต เดิมที่เป็นที่พักของขุนนางคนสำคัญอย่างฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ ก่อนที่จะมีการยกให้เป็นวัดในเวลาต่อมา โดยมีหอธรรมอามิดะหรือหอฟีนิกซ์ ที่มีความสวยงามเเละเป็นจุดไฮไลท์ของวัดเเห่งนี้ โดยอาคารของวัดเเห่งนี้ได้รับการยอมรับกันว่าเป็นอาคารไม้ที่มีความเก่าเเก่มากที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีจุดที่น่าสนใจทั้ง ภาพวาดสีน้ำ 14 ภาพบนประตูไม้ ส่วนที่อาคารคลังสมบัติ ก็จะเป็นที่เก็บสมบัติของวัดมากมายที่ล้ำค่าอย่างมาก ส่วนการเดินทางมายังที่นี่นั้นคุณสามารถใช้บริการของรถไฟสาย JR Nara มาลงยังสถานีรถไฟ Uji ก็จะถึงเเล้ว