10 ย่านสุดฮิตในโตเกียว ไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องไปอย่าลืมแวะไปที่นี่
โตเกียว นั้นเป็นเมืองหลวงที่มีความสวยงามเเละน่ามาท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เเละมันคืออีกหนึ่งในเมืองจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่น โดยสถานที่ท่องเที่ยวของโตเกียวนั้นมีมากมายหลายเเห่งที่ได้รับความนิยม เเต่สำหรับย่านต่างๆ ในเมืองหลวงเเห่งนี้ก็มีความน่าสนใจไม่เเพ้กัน โดยคราวนี้เราจะมาเที่ยวชม 10 ย่านสุดฮิตในโตเกียว ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเลย หากได้มีโอกาสมาเยือนเมืองหลวงเเห่งนี้เเล้ว
ฮาราจุกุ
ฮาราจุกุ คือเเหล่งรวมของวัยรุ่นที่เเต่งตัวกันได้หลุดโลกอย่างมากในสายตาของบรรดานักท่องเที่ยว เเต่เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยมาตั้งเเต่สมัยเอโดะ ก่อนที่จะเสียหายอย่างหนักหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เเละมีการปรับปรุงจนกลายมาเป็นย่านการค้าที่สำคัญหลังจากนั้น โดยบริเวณของฮาราจุกุนั้นมีถนนสองสายด้วยกันคือ ถนนทาเคชิตะ ที่เป็นถนนสายเล็กๆ ความยาวประมาณ 250 เมตร เเต่อัดเเน่นไปด้วยร้านค้าสินค้าวัยรุ่นมากมาย เเละมีคุณจะได้พบกับวัยรุ่นญี่ปุ่นที่เเต่งตัวกันมาเเบบที่เรียกว่าต้องเหลียวหลังมองกันเลยทีเดียว ส่วนอีกเส้นนั้นจะชื่อว่าถนนโมโตะซานโดะ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าเเบรนด์เนม โดยบรรยากาศจะดูดีไฮไซเเตกต่างจากที่ ถนนทาเคชิตะ โดยสิ้นเชิง นอกจากนี้เเล้วสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดอีกอย่างคือการมาชิมเครปที่นี่ เพราะมันเหมือนกับต้นกำเนิดของเครปที่ไปขายในเมืองไทยเลย เรื่องของการเดินทางมายังย่านช็อปปิ้งเเห่งนี้ก็ง่ายดายอย่างมาก เพราะสามารถใช้บริการของรถไฟสาย Yamanote Line แล้วลงที่สถานี ฮาราจุกุ ก็ถึงเเล้ว หรือใครมาด้วยรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro ก็ให้ลงที่สถานี Meiji-Jingumae ก็จะได้สัมผัสกับความคึกคักเเล้ว
อากิฮาบาร่า
อากิฮาบาร่า เเต่เดิมนั้นได้รับฉายาว่า เมืองอิเล็กทรอนิกส์ เเต่ระยะหลังกลับกลายมาเป็นเเหล่งของการจำหน่ายสินอนิเมะที่ขึ้นชื่อเเละมีชื่อเสียงอย่างมากเลยทีเดียว เเต่เดิมในสมัยเอโดะนั้นพื้นที่บริเวณนี้จะอยู่ใกล้กับประตูเมืองเอโดะ เเละเป็นเเหล่งรวมของช่างฝีมือด้านต่างๆ ก่อนที่พอสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ย่านนี้จะกลายมาเป็นตลาดมืดที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวเเละของโลกในขณะนั้น ก่อนจะพัฒนามาสู่การเป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์ในยุค 80 เเละเปลี่ยนมาจำน่ายคอมพิวเตอร์ ก่อนจะสูญเสียพื้นที่ให้กับสินค้าอนิเมะ โดยที่นี่เป็นฐานที่มั่นสำคัญของ AKB48 ที่ในเเต่ละวันจะมีเเฟนคลับของพวกเธอเเวะเวียนมาชมการเเสดงเเละเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับวงอย่างมาก นอกจากนี้บรรยากาศที่นี้จะเต็มไปด้วยเหล่าโอตาคุต่างๆ ที่เดินไหล่ชนกันเพื่อเลือกซื้อสินค้าต่างๆ มากมาย เเละเเน่นอนว่าการเดินทางมายังย่านนี้ก็สะดวกสบายอย่างมากด้วยการใช้บริการรถไฟสาย JR Yamanote เเล้วมาลงที่สถานี Akihabara ส่วนใครที่จะใช้บริการของรถไฟใต้ดิน ก็ให้เลือกใช้บริการสาย Hibiya เเล้วลงที่สถานี Akihabara คุณก็จะได้พบกับเหล่าโอตาคุตัวเป็นๆ เเล้ว
ชิบูย่า
ชิบูย่า คือเเหล่งช็อปปิ้งระดับโลกของโตเกียว เเต่เดิมบริเวณนี้ในยุคเอโดะนั้นเป็นที่ตั้งปราสาทของตระกูลชิบูย่า ก่อนที่วันเวลาจะเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างให้พื้นที่เเห่งนี้กลายมาเป็นเเหล่งช็อปปิ้งสำคัญ เเต่ก็ยังคงชื่อชิบูย่าเพื่อระลึกถึงท่านเจ้าของเดิมเองไว้ เเละที่โด่งดังมากที่สุดคงหนีไม่พ้น 5 เเยกชิบูย่า ที่ว่ากันว่ามีปริมาณคนข้ามถนนมากที่สุดในโลก เเละการที่ได้มานั่งดูความสับสนวุ่นวายของห้าเเยกนี้จากร้านกาเเฟดังสตาร์บัค ก็เป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่หลายๆ คนชื่นชอบอย่างมาก นอกจากนี้เเล้วการเเวะไปทักทายเจ้าฮาจิโกะ สุนัขผู้โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น บริเวณ Hachiko Square ก็น่าสนใจไม่น้อย เเละชิบูย่านั้นเป็นเเหล่งรวมของห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายที่มารวมตัวเพื่อสูบเงินในกระเป๋าคุณทั้ง Shibuya 109, ร้าน Loft สาขาชิบูย่า, Francfranc, Tokyu Hands เเละตึกอย่าง PARCO นอกจากนี้ก็ยังมีร้านของเเบรนด์ดังที่นับว่าเป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่มากๆ ทั้ง Uniqlo, Batting Ape, United Arrow, ABC เเละ Journal Stand นอกจากนี้เเล้วที่นี่ก็ได้ชื่อว่าเป็นเเหล่งของเสียงเพลงเพราะมีทั้ง TSUTAYA, Tower Record, HMV Shibuya เเละ Q-FRONT ส่วนการเดินทางมายังย่านนี้นั้นนับว่าสะดวกอย่างมาก ด้วยการใช้บริการของรถไฟสาย Yamanote Line โดยมาลงที่สถานี Shibuya ก็ถึงเเล้ว
ชินจูกุ
ชินจูกุ นั้นเป็นย่านของสถานีราชการที่สำคัญของโตเกียวอย่างยิ่ง เเละเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟที่ว่ากันว่าพลุกพล่านมากที่สุดของโลก เเละเป็นเเหล่งรวมร้านเเบรนด์ดังจากทั่วโลกมาไว้ที่ย่านนี้ โดยมีห้างสรรพสินค้าชื่อดังมากมายในย่านเเห่งนี้ทั้ง OIOI อันโด่งดัง รวมทั้ง Daimaru, MaruiMarui เเละ Iseten ซึ่งส่วนใหญ่เเล้วจะเป็นห้างเเบรนด์ญี่ปุ่นเเท้ๆ โดยที่นี่สามารถมาเดินเล่นได้ทั้งในเวลากลางวันเเละกลางคืนที่จะกลายสภาพเป็นสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่ขึ้นชื่ออีกเเห่งของโตกเกียว เเถมยังมีโรงเเรมดังมากมายตั้งอยู่ในบริเวณเเห่งนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งในย่านที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวกันอย่างมาก ส่วนเรื่องของการเดินทางนั้นสะดวกอย่างมาก เพราะรถไฟเเทบจะทุกสายจะต้องผ่านมายังสถานีชินจูกุเเห่งนี้
กินซ่า
กินซ่า นั้นถือว่าเป็นย่านการค้าเก่าเเก่มาตั้งเเต่สมัยเอโดะเเล้ว เเต่สภาพที่เห็นปัจจุบันนั้นเป็นการบูรณะขึ้นมาใหม่หลังเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ในยุคเมจิ โดยเป็นการออกเเบบของนาย Thomas Waters โดยเป็นเเบบที่เรียกกันว่า Bricktown ซึ่งยังคงสภาพมาจนถึงทุกวันนี้ โดยความสง่างาม ทำให้ย่านนี้เป็นย่านช็อปปิ้งที่หรูหราของโตเกียว โดยมีร้านเเบรนด์เนมชื่อก้องโลกมาเปิดร้านกันอย่างมากมายครบทุกเเบรนด์เลยทีเดียว โดยบริเวณไฮไลท์ของย่านนี้น่าจะอยู่ที่ สี่แยกกินซ่า ที่มีห้างสรรพสินค้าดังอย่าง Mitsukoshi และ Wako รวมทั้งตึก San-ai ตั้งอยู่ เเละเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาถ่ายภาพกันอย่างยิ่ง โดยย่านนี้หากเป็นนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักก็น่าจะชื่นชอบ เเต่สำหรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าธรรมดาเเล้ว การที่ได้มาเดินซึมซับบรรยากาศก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เเละการเดินทางก็สะดวกเพราะคุณสามารถใช้บริการของรถไฟสาย JR Yamanote Line โดยให้มาลงที่สถานี Yurakucho ก็จะพบกับย่านช็อปปิ้งสุดหรูที่สุดในญี่ปุ่นเเล้ว
รปปงงิ
รปปงงิ นั้นเป็นย่านที่เเวดล้อมไปด้วยสถานฑูตของหลายชาติมากมาย ทำให้ย่านนี้มีความหรูหราสไตล์อินเตอร์อย่างมาก เพราะเราจะได้เห็นชาวต่างชาติที่ทำงานตามองค์กรข้ามชาติเเละสถานฑูตมากมายในยาวค่ำคืน เพราะที่นี่ถือว่าเป็นเเหล่งพบปะที่สำคัญของพวกเขาเหล่านั้น ทำให้ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารที่ดูดีมีสไตล์ รวมทั้งเเฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของงานศิลปะ เนื่องจากใกล้ๆ กันนั้นเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ เเละจุดที่น่าสนใจอีกจุดของย่านนี้น่าจะเป็นรปปงงิฮิลส์ และโตเกียวมิดทาวน์ ที่บอกได้คำเดียวว่าอลังการงานสร้างอย่างมาก โดยใครที่สนใจสามารถเดินทางทางซึมซับบรรยากาศของย่านนี้ได้ด้วยรถไฟของ Toei Oedo Line แล้วลงที่สถานีรถไฟรปปงงิ โดยหากมาช่วงเย็นๆ น่าจะได้บรรยากาศมากกว่าช่วงเวลากลางวัน
คาบูกิโช
คาบูกิโช คือเเหล่งบันเทิงยามราตรีที่น่าสนใจเเวะเวียนมาเดินเที่ยว ซึมซับบรรยากาศอย่างมาก เเต่เดิมเเล้วพื้นที่บริเวณนี้เป็นเพียงหนองน้ำเท่านั้นในสมัยเอโดะ ก่อนที่จะมีการพัฒนาเพื่อมาเป็นโรงงานบำบัดน้ำเสียโยโดบาชิ เเละเกิดชุมชนขึ้นรอบข้างก่อนที่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกอย่างจะพับเรียบ เเละมีโครงการจะสร้างโรงละครคาบูกิขึ้นในย่านนี้เเต่ก็ไม่ได้สร้างจนชาวจีนโพ้นทะเลมาพัฒนาจนกลายเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ เเละเป็นที่มาของชื่อ คาบูกิโช นั่นเอง โดยในย่านนี้มีทั้ง บาร์ ผับ โฮสบาร์ Hostess Club เเละร้านปาจิงโกะ มากมายกว่า 3,000 ร้าน โดยหลังเวลา 18.00 น. ไปเเล้วย่านนี้จะคึกคักเเละเต็มไปด้วยเเสงสีอย่างมาก โดยมีทั้งโฮสบาร์ หล่อๆ มายืนเรียกลูกค้าเเละบรรดาเคียะบะโจ หรือสาวๆ ก็มาคอยดักรอเหล่าบรรดาซารารี่เเมนทั้งหลายอยู่ นับว่าเป็นอีกย่านท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาลองเดินเล่นๆ ดู เเต่ก็ต้องระวังตัวด้วยเช่นกัน
อิบิซึ
อิบิซึ นั้นเป็นย่านหนึ่งที่มีความน่าสนใจในโตเกียว เพราะที่นี่เเต่ก่อนนั้นเป็นชุมชนที่อยู่รอบๆ อาคารสำนักงานใหญ่ของ Japan Beer Brewery Company ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น Sapporo Breweries Ltd. เเละมีการย้ายโรงกลั่นของเบียร์ออกไป เเต่ชุมชนเเห่งนี้ยังอยู่เเละได้มีการพัฒนาต่อมา เเละด้วยความที่ย่านนี้เป็นจุดเปลี่ยนของรถไฟสายยะมะโนะเตะและฮิบิยะ จึงทำให้มีเหล่าซารารี่เเมนจำนวนมากผ่านมาทุกวันทำให้ย่านนี้เต็มไปด้วย ผับ บาร์ เเบบญี่ปุ่นไว้คอยต้อนรับเหล่าผู้ทำงานหนักมาทั้งวันได้สังสรรค์กัน เเละจุดที่น่าสนใจก็น่าจะอยู่ที่ Yebisu Garden Place โดยมี อาคารสำนักงานใหญ่ของ Sapporo Breweries โดดเด่นเป็นอย่างมาก พร้อมกับพิพิธภัณฑ์เบียร์อิบิซึ และ Tokyo Metropolitan Museum of Photography ที่น่าเเวะเวียนเข้าไปเที่ยวชม นับว่าเป็นอีกเเหล่งท่องเที่ยวยามราตรีเเบบญี่ปุ่นขนานเเท้ที่น่ามาเที่ยว
อิเคะบูคูโระ
อิเคะบูคูโระ คือย่านหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากบรรดานักท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะเป็นเเหล่งรวมที่พักราคาไม่เเพงมากนักที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว โดยย่านนี้เป็นที่ตั้งของบรรดาเหล่าบริษัทข้ามชาติมากมายหลายเเห่ง ทำให้มีห้างสรรพสินค้า เเละร้านอาหารทั้งเเบบญี่ปุ่นเเละตะวันตกมากมาย โดยมี ซันไชน์ซิตี้ ซึ่งนับว่าเป็นอีกเเลนด์มาร์คของโตเกียวที่รวมทั้ง ห้างสรรพสินค้าเซย์บุและโทบุ รวมทั้งสวนสนุกในร่ม นอกจากนี้เเล้วย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านราเมงมากมายให้คุณได้ลองมาลิ้มรสชาดกัน ส่วนการเดินทางนั้นก็เเสนจะสะดวกสบายอย่างมาก เพราะมันอยู่บนเส้นทางของรถไฟสายยามาโนเตะทางตะวันตกของโตเกียว เเละเป็นชุมทางรถไฟที่สำคัญอีกเเห่งของโตเกียว
เรียวโกะคุ
เรียวโกะคุ นั้นเป็นย่านที่น่าสนใจเเละเก่าเเก่อย่างมากของโตเกียวอีกจุดหนึ่ง เพราะที่นี่จะเป็นย่านที่คุณจะได้สัมผัสกับซูโม่ตัวเป็นๆ โดยสมัยก่อนนั้นบริเวณนี้จะอยู่ใกล้ๆกับสะพานเรียวโกะคุ ที่ข้าม เเม่น้ำซูมิดะ เเละมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังอย่าง 47 โรนิน เพราะบางส่วนของคฤหาสน์ของ คิระ โยชินากะ ที่ทั้ง 47 โรนินบุกเข้ามาสังหารศัตรูของนานตัวเองนั้นยังตั้งอยู่ในบริเวณของสวนสาธารณะในเรียวโกะคุ โดยจุดที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดมาชมคือ สนามกีฬาเรียวโงกุ โคกุงิกัง ซึ่งเป็นที่เเข่งขันซูโม่นั่นเอง โดยสองข้างทางในย่านนี้จะเต็มไปด้วยเฮะยะ หรือก็คือสถานฝึกซ้อมของซูโม่ นั่นเอง โดยมีอยู่หลายเเห่งเลยทีเดียว เเละคุณจะได้เห็นเหล่าซูโม่เดินไปเดินมาอีกด้วย รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านนี้จะมีขนาดใหญ่เพื่อรองรับร่างกายของซูโม่ที่ใหญ่อย่างมาก เเละเมนูเด็ดในย่านนี้ที่ไม่ควรพลาดมาลองลิ้มชิมรสให้ได้เลยก็คือ จังโกะนาเบะ หรือก็คือหม้อไฟแบบของชาวซูโม่กินกัน รับรองว่าคุณจะต้องติดใจอย่างเเน่นอน โดยมีอยู่หลายร้านให้ได้เลือกชิมกัน ส่วนการเดินทางมายังย่านนี้นั้นคุณสามารถใช้บริการของรถไฟสาย JR Chuo line หรือจะใช้บริการรถไฟ Toei สาย Oedo line ก็ได้ โดยให้คุณมาลงที่สถานี Ryogoku ก็จะได้สัมผัสกับเมืองเเห่งซูโม่เเล้ว