พลาดไม่ได้ 10 สิ่งที่ต้องทำ เมื่อมาเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น 2022
เมื่อนึกถึงประเทศญี่ปุ่น อันดับต้น ๆ เลยที่เรานึกถึงนั่นก็คือ “ภูเขาไฟฟูจิ” ต้องขอเล่าก่อนนิดนึงค่ะว่า ภูเขาไฟฟูจิเนี่ย เป็นภูเขาที่มีขนาดสูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเลย และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกว่าสักครั้งหนึ่งที่มาประเทศญี่ปุ่นต้องไปถ่ายรูปกับเจ้าภูเขาไฟฟูจิซังให้ได้ แลนด์มาร์คภูเขาไฟฟูจิ อยู่ห่างจากเมืองโตเกียวประมาณ 100 กิโลเมตร เลยเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวชอบจัดให้อยู่ในแพลนการเดินทางแบบวันเดย์ทริปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย โดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวนิยมมาเก็บภาพบรรยากาศวิวธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งท้องฟ้าสีฟ้าละมุนสวยตัดกับหิมะสีขาวที่บริเวณด้านบนเทือกเขาฟูจิซัง วิวสวยงามระดับพรีเมียมที่ทุกคนต้องไปเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง แล้วเพื่อน ๆ ทราบกันมั้ยคะว่าถ้านอกจากแค่มาถ่ายรูปร่วมเฟรมกับภูเขาไฟฟูจิแล้ว แถวนั้นเขามีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่ง Check In Chill ได้ไปอัปเดตที่เที่ยวมาใหม่ล่าสุด 2021 นี้เลย แล้วจะมีที่ไหนกันบ้างหรือว่าสิ่งที่ห้ามพลาดมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันในคอนเทนต์นี้เลย “พลาดไม่ได้ 10 สิ่งที่ต้องทำ เมื่อมาเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น 2022”
ฤดูปืนภูเขาไฟฟูจิ
เปิดมากิจกรรมแรกกันเลย ที่มาภูเขาไฟฟูจิแห่งประเทศญี่ปุ่นทั้งที ต้องลองมานี่เลยค่ะ เตรียมขาให้แข็งแกร่งแล้วเดินตามกันมาเลย ฤดูกาลปีนเขาไฟฟูจิจะจัดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ นั่นก็คือประมาณเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี กิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมไปพิชิตยอดเข้ามาแล้วมากกว่าพันคน หากใครสนใจอยากเป็นหนึ่งในนักพิชิตยอดเขา อย่าลืมศึกษาเส้นทาง และฟิตร่างกายในพร้อมกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่ใช้เวลาในการเดินทางไม่มากไม่น้อย เพียง 4-8 ชั่วโมงเท่านั้นเอง สิ่งของที่ต้องนำติดตัวไปด้วยได้แก่ รองเท้าปีนเขา, หมวก, แผนที่เดินเขา, น้ำดื่มและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ แล้วแต่สะดวก แต่อยากแอบบอกว่าถ้าพกไปเยอะเกิน จะแอบหนักแล้วเดินไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไหร่ หรือรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สามารถเข้าไปสืบจากเว็บไซต์นี้กันได้เลยค่ะ http://www.fujisan-climb.jp/
สถานี Fuji Subaru Line 5th
ถึงเป็นจุดแวะพักทั้งรถทั้งคนเลยก็ว่าได้ค่ะกับสถานที่แห่งนี้ Fuji Subaru Line 5th Station (富士スバルライン五合目) บริเวณนี้เป็นส่วนของทางเข้าที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดคือบริเวณ “เส้นทางโยชิดะ” (Yoshida trail) นั่นเองค่ะ ขออธิบายเพิ่มเติมอีกหน่อยค่ะว่า เหมือนเป็นจุดรวมพลของนักท่องเที่ยวที่จะนัดเจอกันก็ให้มายังจุดนี้ อารมณ์ประมาณพื้นที่กว้างโล่ง เจอกันง่ายและยังเป็นจุดพักรถของรถบัสบางสายที่มีเส้นทางเดินรถไกลอย่าง โตเกียว-ภูเขาไปฟูจิ ด้วย นอกจะเป็นจุดนัดพบเพื่อนเตรียมตัวไปชมความงามของภูเขาไปฟูจิแล้ว ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง, ร้านอาหารและแหล่งพักจัดกระเป๋าก่อนทีทุกคนจะออกเดินทางเพื่อไปชมความงามของภูเขาไปฟูจิกัน
ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า
Lake Kawaguchi
มาต่อกันที่สิ่งที่ไม่ควรพลาดสำคัญอีกหนึ่งอย่างเมื่อว่าภูเขาไฟฟูจิกันคะ นี่คือแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติคือทะเลสาปทั้ง 5 ที่อยู่ล้อมรอบฟูจิซังบริเวณตีนเขานั่นเอง คนไทยอาจจะเรียกว่าทะเลสาปทั้งห้า หรือภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า Fuji Goko ประกอบด้วยทะเลสาบโมโตซุ, ทะเลสาบไซ, ทะเลสาบโชจิ, ทะเลสาบคาวางูจิและ ทะเลสาบยามานากะ เป็นจุดหมายปลายทางที่ฮอตฮิตจากนั่งท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกที่เมืองมายังภูเขาไฟฟูจิแล้ว ต้องลองมาเดินชมวิวธรรมชาติที่สวยงามตลอดทั้งปี นอกจากนี้ใครมาแล้วห้ามพลาด ปืนเขา, ตั้งแคมป์, ตกปลา,พายเรือและกิจกรรมอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ถ้าถามว่าในทะเลสาปทั้งห้า ทะเลสาปไหนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุด งั้นต้องขอตอบเป็นว่า เป็นทะเลสาบคาวางูจิ ทั้งวิวสวยระดับพรีเมียมและเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าที่มาจอดที่ สถานีคาวางูจิ แล้วมาเที่ยวชมทะเลสาบแห่งนี้ได้เลยค่ะ
Lake Motosu
Lake Shoji
Lake Sai
Lake Yamanaka
นั่งกระเช้าคาจิคาจิ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่เลย ต้องไปลอง “นั่งกระเช้าคาจิคาจิ” ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบคาวางูจิและจะลอยข้ามผ่านถึงบนยอดเขาของภูเขาเทนโจ จากจุดสูงสุดที่กระเช้าพาเราไป เพื่อน ๆ จะสามารถมองเห็นวิวบรรยากาศรอบ ๆ ของภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวางูจิ พร้อมต้นไม้หน้าทึบ สีเขียวหนาแน่นสบายตา หากใครไปแล้วอย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันเยอะ ๆ นะคะแผนที่ : http://bit.ly/2PQr8US
สวนสาธารณะยามานากาโกะ ฮานาโนะมิยาโกะ
หากใครเป็นสายดอกไม้ต้องชอบที่นี่แน่ ๆ เลยค่ะ สวนสาธารณะยามานากาโกะ ฮานาโนะมิยาโกะ สวนดอกไม้นานาพรรณที่มีดอกไม้ไว้ให้เพื่อน ๆ แวะไปชมความงามและเก็บภาพความประทับใจได้อย่างเต็มเมม สวนดอกไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ทะเลสาบยามานากาโกะ ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดจากทั้งบรรดาทั้งห้าทะเลสาบ หากเพื่อน ๆ เดินเข้าไปจะมองเห็นสวนดอกไม้แบบสุดสายตาเลยแต่ของแบบนี้ไม่สามารถเห็นได้ตลอดทั้งปีนะคะ ซึ่งฤดูกาลที่เราจะเห็นสีสันสวยของดอกไม้แบบในรูปจะมีเพียงช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น หากใครไปในช่วงเวลาดังกล่าวอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกันได้นะคะ ภายในสวนมีทั้งดอกทานตะวัน, ดอกทิวลิป, ดอกคอสโมและอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ
หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai
Oshino Hakkai (忍野八海) หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันก็คือ “หมู่บ้านน้ำใส” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ผู้คนนิยมกันมานะคะ ด้วยทิวทัศน์ที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิและยังอยู่ใกล้กับทะเลสาบทั้งห้าอีกด้วย ภายในนี้จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่น ที่ดูน่าหลงไหลหวนให้นึกกลับไปสมัยญี่ปุ่นโบราณพร้อมทั้งยังมีบึงน้ำในเเจ๋วจนสามารถมองเห็นตัวปลาที่แหวกว่ายภายในบึง ทำให้ผู้คนที่มายังที่แห่งนี้รู้สึกผ่อนคลายในการมาดูความงามแบบหาที่ไหนไม่ได้ ภายในหมู่บ้านน้ำใสมีบึงน้ำทั้งหมดถึง 8 บึงด้วยกัน ที่เห็นน้ำใส ดูสีฟ้าสวยขนาดนี้เป็นเพราะว่าเป็นน้ำที่ได้มาจากการละลายตัวของน้ำแข็งจากภูเขาไปฟูจินั่นเองค่ะ
ฟูจิคิวไฮแลนด์
ผู้ใหญ่ก็เล่นได้ เด็กก็เล่นดี กับ “สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์” สวนสนุกขึ้นชื่ออีกแห่งของประเทศญี่ปุ่นเลย ไฮไลท์ของที่นี่คือรถไฟเหาะที่มีดีกรีความหวาดเสียวติดท๊อประดับโลก สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟฟูจิทำให้เมื่อมองวิวลงมาจากรถไฟเหาะ บอกเลยว่าครั้งนี้ใครเล่นรถไฟเหาะแบบหลับตาคือพลาดมาก ๆ สวนสนุกที่นี่ไม่ได้มีแค่รถไฟเหาะนะคะ เครื่องเล่นอื่น ๆ แบบคุณน้องคุณหนูก็มาเล่นได้ค่ะ สนุกกันได้ทั้งครอบครัว หากใครมาฟูเขาไปภูจิแล้ว อย่าลืมลองมาเที่ยวที่สวนสนุกแห่งนี้ดูนะคะ สนุกสุดเหวี่ยงได้ทั้งครอบครัวเลยค่ะ
ทะเลสาบทานูกิ
ทะเลสาบทานูกิ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่อยู่ใกล้ภูเขาไปฟูจิเลยค่ะ ซึ่งจะอยู่ทางด้านตะวันตกของตัวฟูจิซัง ตรงจุดนี้ชาวญี่ปุ่นเขาจะทราบกันดีว่านอกจากจะมานั่งชมวิวแล้ว ยังมีที่พัก, จุดตั้งแคมป์และกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ ไว้ให้ทุกคนมาแวะพักกายพักใจ หลังจากเร่งรีบมาทั้งวันแล้ว นอนพักหลับซักงีบท่ามกลางธรรมชาติ วิวระดับพรีเมียม
ศาลเจ้าฟูจิโยชิดะเซนเกน
อีกหนึ่งจุดชมวิวที่เขาว่ากันว่า มองจากมุมนี้ไปจะเห็นวิวของภูเขาไปฟูจิสวยมาก ๆ เลยค่ะ “ศาลเจ้าฟูจิโยชิดะเซนเกน” ศาลเจ้าแห่งนี้จะตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวางูจิ นอกจากความสวยงามของศาลเจ้าแล้ว ยังมีธรรมชาติที่ล้อมรอบสถานที่แห่งนี้ไว้ เต็มที่กับชื่นชมธรรมชาติแถมอิ่มบุณไปด้วย ต้องมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้เลยค่ะ
ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave)
สุดท้ายเรามาอยู่กันที่ ถ้ำน้ำแข็งNarusawa หรือชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ (鳴沢氷穴) เป็นที่เกิดตามธรรมชาติซึ่งมีความยาวตลอดทางเดิน 153 เมต รตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่รู้จักอย่างป่าที่อุดมสมบูรณ์อย่าง Aokigahara Forest ถ้าหากมาท่องเที่ยวที่ภูเขาไฟฟูจิแล้วก็ต้องมาสถานที่นี้ด้วย ใครมีไม่ถือว่าพลาด! เพื่อไปชมความงามของธรรมชาติที่หลบซ้อนมาอยู่ในถ้ำนี้นี่เอง ตลอดทางเดินที่เป็นเส้นทางจัดไว้ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้มาเดินชม หินน้อยใหญ่และไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งก็คือ แท่งน้ำแข็งที่อยู่ในถ้ำแห่งนี้ พร้อมแสงสีฟ้าเมื่อส่องไปยังแท่งน้ำแข็งทั้งก้อนเล็กและใหญ่ ใครไปอย่าลืบไปเก็บภาพมากันเยอะ ๆ นะคะ ของดีเจแปนที่เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ พิกัดแผนที่ : http://bit.ly/2DKotop
ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับ “พลาดไม่ได้ 10 สิ่งที่ต้องทำ เมื่อมาเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น 2022” ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนกัน แล้วอย่าลืมมาอัพเดทที่เว็บไซต์เราบ่อย ๆ ที่เช็คอินชิลล์ แหล่งรวมที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ทุกที่ทั่วโลก เราคัดมาให้แล้ว หรืออีกหนึ่งช่องทางการติดต่อผ่านทาง Facebook : ที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ทุกที่ทั่วโลก – เช็คอินชิลล์ แล้วเจอกันคอนเทนต์หน้าค่ะ -3-