15 ที่เที่ยวตุรกี 2024 แลนด์มาร์คเด็ด ถ่ายรูปปัง ไม่ได้มีแค่บอลลูน
ประเทศตุรกี (Turkey) หรือมีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐตุรกี แต่ตอนนี้ทางประธานาธิบดี เรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ได้ร้องขอให้หน่วยงานระหว่างประเทศเปลี่ยนชื่อเรียกจากตุรกีเป็น ตุรเคีย (Türkiye) ซึ่งการร้องขอนี้ก็เป็นผลสำเร็จ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังเรียกกันติดปากว่าตุรกี และใช้การเขียนชื่อภาษาอังกฤษ (Turkey) กันอย่างกว้างขวางเหมือนเดิม ซึ่งประเทศตุรกีนี้เป็นเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรปและเอเชียขั้นกลางด้วยช่องแคบบอสพอรัส ใครที่มาที่นี่ก็จะได้เที่ยวทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย แบบ 2 in 1 กันไปเลย และเป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยสามารถไปเที่ยวได้ง่ายๆเพราะเป็นประเทศที่ฟรีวีซ่า สามารถอยู่ได้ 30 วัน เที่ยวกันให้จุกๆไปเลยค่ะ โดยวันนี้พวกเรา ChechInChill จะพาไปเที่ยวตุรกี ที่ไม่ได้มีดีแค่บอลลูน ยังมีสถานที่อื่นๆอีกมากมายรอให้เพื่อนๆไปเที่ยวกันอยู่นะคะ รับรองเลยว่าไปแล้วถ่ายรูปออกมาปังสุดๆไปเลยยย
อิสตันบลู (Istanbul)
อิสตันบลู โดย ShutterStock
คงไม่มีใครไม่รู้จัก อิสตันบลู (Istanblu) เป็นเมืองหลวงของทั้ง จักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิไบแซนไทน์ รวมถึง จักรวรรดิออตโตมัน มหานคร 2 ทวีปแห่งนี้หลายๆคนจะเข้าใจผิดว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี แต่จริงๆแล้วเมื่อหลวงของตุรกี คือ อังการา (Ankara) ซึ่งเมืองอิสตันบลูนี้เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในตุรกี เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของตุรกีและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,600 ปี มีสถาปัตยกรรมแบบเก่าและที่เที่ยวมากมาย โดยกิจกรรมยอดนิยมของที่นี่ ที่หลายๆคนห้ามพลาดเลยคือการล่องเรือผ่านช่องแคบแบ่งทวีป “ช่องแคบบอสฟอรัส” เป็นช่องแคบที่แยกระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย เพื่อปล่อยตัวปล่อยใจ มองซ้ายมองขวา ชมทัศนียภาพความสวยงามของบ้านเรือน และวิถีชีวิตของผู้คนในแถบนี้ ซึ่งโปรแกรมการล่องเรือมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น เรือเล็ก เรือใหญ่ เรือส่วนตัว พร้อมอาหาร สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ มาที่นี่ต้องลองสักครั้งจะได้ประสบการณ์ที่มีความสุขและพิเศษกลับไปเต็มๆเลย
📍 ชื่อสถานที่ : อิสตันบลู (Istanblu)
🔎 เว็บไซต์ : visit.istanbul
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/Yv51Wpo5xNJednaT6
ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส โดย ShutterStock
ฮิปโปโดรม (Hippodrome)
ฮิปโปโดรม โดย ShutterStock
เริ่มต้นที่แรกในอิสตันบลูด้วยที่นี่ ฮิปโปโดรม (Hippodrome) หรือจัตุรัสสุลต่านอาห์เมต อดีตเป็นสนามแข่งม้าและศูนย์กลางของเมืองในยุคไบแชนไทน์และจัดงานเฉลิมฉลองของกรุงคอนสแตนติโนเปิล ปัจจุบันหลายๆส่วนเสื่อมสภาพแทบไม่มีอะไรหลงเหลือ ยกเว้นเสาโอเบลิสก์แห่งธีโอโดเซียส (The Obelisk of Theodosius) เป็นอนุเสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในอิสตันบลูด้วยความสูง 20 เมตรนี้เป็นประติมากรรมหินแกรนิตน้ำหนักหลายร้อยตันสลักภาษาอียิปต์โบราณที่มีอายุกว่า 3,000 ปี ถัดมาบริเวณใกล้เคียงกันยังมีเสาที่ทำจากสำริดต้นเล็กๆ ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า เสาโอเบลิสก์แห่งธีโอโดเซียส คือ Tripod of Plataea หรือที่เรียกกันว่าเสางู (Serpent Column) ซึ่งเป็นเสาสำริดที่มีลักษณะเป็นงูสามตัว แต่เดิมเสานี้สูง 8 เมตรแต่ภายหลังชำรุดเสียหายปัจจุบันความสูงจึงเหลือเพียง 5 เมตรเท่านั้น และเสาคอนสแตนตินโอเบลิสค์ (Constantine Obelisk) ที่มีความสูง 32 เมตร ที่ยังไม่ทราบประวัติความเป็นมาอย่างแน่ชัด ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่แบบนี้แนะนำเลยค่ะ
📍 ชื่อสถานที่ : ฮิปโปโดรม (Hippodrome)
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🌎 การเดินทาง : รถราง (Istanbul Tram T1) ลงสถานี Sultanahmet Station และเดินต่อเข้าไปที่ฮิปโปโดรม
💰 ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/VuUrY9JxYbtcx1i66
เสาโอเบลิสก์แห่งธีโอโดเซียส โดย ShutterStock เสาคอนสแตนตินโอเบลิสค์ โดย ShutterStock
เสางู โดย ShutterStock
ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia)
ท๊อปลิสต์อันดับต้นๆของนักท่องเที่ยว ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง โบถส์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่มาเป็นเวลาพันปี เคยถูกเปลี่ยนสถานะมาหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่โบสถ์ มัสยิด พิพิธภัณฑ์ และกลับมาเป็นมัสยิดอีกครั้งในปัจจุบัน ท่ามกลางความเศร้าโศกของชาวคริสต์และความปลื้มปีติของชาวมุสลิมและเป็นข่าวโด่งดังมากในช่วงปี 2020 ที่มีความสวยงามยิ่งใหญ่อลังการตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไป ด้านในของตัวโบถส์รวมศิลปะของชาวคริสต์และอิสลามผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เป็นสถาปัตยกรรมอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
📍 ชื่อสถานที่ : ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia)
🔎 เว็บไซต์ : ayasofyacamii.gov.tr
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 9.00 – 17.00
💰 ค่าเข้าชม : เริ่มต้นที่ราคา 72 ลีราตุรกี
🌎 การเดินทาง : รถราง (Istanbul Tram T1) ลงสถานี Sultanahmet Station และเดินต่อเข้าไปที่ฮาเกียโซเฟีย
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/ykP7BBWeu7YcrUyA6
ฮาเกีย โซเฟีย โดย ShutterStock
สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) หรือ บูมอสก์ หรือ มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนครอิสตันบูล ภายในตกแต่งสีน้ำเงินมีลวดลายสวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา ที่สะท้อนถึงความเป็นอิสลามได้อย่างชัดเจน หอคอยสูง 6 ต้น โดมที่มีระเบียงล้อมกลางมัสยิด การสร้างที่นี่ คือต้องการเอาชนะหรือสร้างมัสยิดขึ้นมาให้ใหญ่กว่าวิหารเซนต์โซเฟียของศาสนาคริสต์ มีสุลต่านหลายพระองค์ต้องการสร้างมัสยิดที่มีขนาดใหญ่กว่าวิหารเซนต์โซเฟียมาแทบทุกยุคสมัยแต่ไม่มีใครทำสำเร็จ มีเพียงสุลต่านอาห์เมตที่ 1 และเมห์เมตอาอา (Mehmet) สถาปนิกผู้ออกแบบ เขาต้องการให้โลกรู้ว่าเขามีความสามารถเหนือกว่าผู้ออกแบบวิหารเซนต์โซเฟีย จึงออกแบบให้มีขนาดใหญ่และอลังการกว่าวิหารเซนต์โซเฟีย ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย
📍 ชื่อสถานที่ : สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 9.00 – 18.00
🌎 การเดินทาง : รถราง (Istanbul Tram T1) ลงสถานี Sultanahmet Station แบะเดินต่อเข้าไปที่สุเหร่าสีน้ำเงิน
💰 ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/d1qbEaRR6A3PqKzC7
สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) โดย ShutterStock
พระราชวังโทพคาปึ (Topkapi Palace)
พระราชวังโทพคาปึ (Topkapi Palace) พระราชวังสำคัญและเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองอิสตันบลูมาเป็นเวลาอันยาวนานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1985 จากองค์กรยูเนสโก้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากฮาเกีย โซเฟีย ตัวพระราชวังสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1459 โดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 เพื่อใช้เป็นที่ประทับ แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภันฑ์ที่ไว้จัดแสดงทรัพย์สินต่างๆของศาสดามูฮัมหมัด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องราชฯ อาวุธต่างๆ ด้านในตกแต่งอย่างหรูหราสวยงาม และที่พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวของช่องแคบบอสฟอรัสที่เราล่องเรือชมวิวกันไปอีกด้วย ซึ่งที่นี้จะต้องซื้อบัตรก่อนเข้าไปชม ทางเจ้าหน้าที่จะให้ Audio guide เป็นข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยวให้ผู้เข้าชมได้ฟังอีกด้วย ใครมาที่นี่แนะนำให้มาตอนช่วงเช้านะคะ เพราะตอนบ่ายจะมีผู้เข้าชมต่อแถวซื้อบัตรกันค่อนข้างแน่น เลยไม่อยากให้เสียเวลาและพลาดการชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ค่ะ
📍 ชื่อสถานที่ : พระราชวังโทพคาปึ (Topkapi Palace)
🔎 เว็บไซต์ : millisaraylar.gov.tr
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 16.00 น.
💰 ค่าเข้าชม : 500 ลีราตุรกี/คน (ราคาสำหรับพระราชวังโทพคาปีและอนุสรณ์ฮาเกียไอรีน)
🌎 การเดินทาง : รถราง (Istanbul Tram T1) ลงสถานี Sultanahmet Station และเดินต่อเข้าไปที่พระราชวังโทพคาปี
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/HxtrHz7fKTq2PJkPA
พระราชวังโทพคาปึ โดย ShutterStock
หอคอยกาลาตา (Galata Tower)
หอคอยกาลาตา (Galata Tower) แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอิสตันบลูฝั่งยุโรป สามารถเดินเท้ามาจากสะพานกาลาตาได้ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาชมวิวของเมืองอิสตันบลูแบบรอบด้าน ได้เห็นภาพรวมของเมืองแบบใหญ่ๆ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกในช่วงตอนเย็น สามารถซื้อบัตรด้านล่างได้ และมีลิฟต์ให้สำหรับคนที่ขึ้นไป ด้านบนจะมีร้านอาหารไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวรับประทานอาหารพร้อมทั้งชมวิวเมืองไปด้วย แต่ถ้าใครมีบัตร Museum Pass Istanbul แล้วก็สามารถใช้เข้าชมได้เลยไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวซื้อบัตร เพราะในช่วงเย็นแถวจะค่อนข้างยาว หลังจากที่เดินลงมาจากหอคอย โดยบริเวณรอบๆก็จะมีร้านอาหาร ร้านค้า คาเฟ่ มากมายอยู่ริม 2 ฝั่งถนน ดื่มด่ำกับบรรยากาศ Local แบบเรียบง่าย สำหรับใครที่้ไม่ได้ขึ้นไป บริเวณด้านล่างหอคอยก็ถ่ายรูปสวยไม่แพ้กัน แต่งตัวแบบจัดเต็มไปได้เลย
📍 ชื่อสถานที่ : หอคอยกาลาตา (Galata Tower)
🔎 เว็บไซต์ : muze.gov.tr
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 22.00
💰 ค่าเข้าชม : 100 ลีราตุรกี
🌎 การเดินทาง : รถราง (Istanbul Tram T1) ลงสถานี Karaköy İstasyonu Station จากนั้นเดินไป 500เมตร
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/gPup9e4GT3WCsZE26
หอคอยกาลาตา โดย ShutterStock
จุดชมวิวบนหอคอยกาลาตา โดย Hakan Gokturk
ชานัคคาเล่ (Canakkale)
ชานัคคาเล่ โดย ShutterStock
ชานัคคาเล่ (Canakkale) เมืองท่าที่สำคัญของตุรกี ตั้งอยู่ห่างจากเมืองอิสตันบลูด้วยระยะเวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง อยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลบนฝั่งของ 2 ทะเลคือ มาร์มาราและอีเจี้ยน มีความยาว 65 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 1.3 กิโลเมตร เคยเป็นที่ตั้งของกรุงทรอย ที่ปรากฎในสงครามกรุงทรอย ปัจจุบันก็ยังมีซากของกำแพงเมือง หรือ สิ่งก่อสร้างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เป็นหินหนาอยู่จึงทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เมืองนี้ก็เป็นแหล่งยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนต่างเข้ามาเพื่อชมความสวยงามของม้าไม้และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
📍 ชื่อสถานที่ : ชานัคคาเล่ (Canakkale)
🔎 เว็บไซต์ : canakkale.net.tr
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/oRpfnRBWnUZHrRww5
ชานัคคาเล่ โดย ShutterStock
ม้าโทรจัน (Trojan Horse Statue)
ม้าโทรจันจำลองที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ Troy โดย ShutterStock
ม้าโทรจัน (Trojan Horse Statue) แลนด์มาร์คสำคัญ อยู่บริเวณริมแม่น้ำของเมืองชานัคคาเล่เลียบท่าเรือ Canakkale Marina เป็นที่ตั้งของม้าโทรจันที่ทำจากไม้ ที่ชาวกรีกทำขึ้นให้เพื่อเป็นของกำนัลในการชนะสงคราม แต่แอบบรรจุทหารใส่ไว้ในม้าเพื่อไปตีเมืองทรอย ซึ่งมาไม้ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่ของจริง แต่เป็นม้าไม้ที่ทางกองถ่ายทำภาพยนตร์ของ วอเนอร์ บราเธอร์ ให้ไว้เมื่อตอนถ่ายทำเสร็จจึงยกให้เป็นสมบัติของเมืองชานัคคาเล่ แม้จะเป็นม้าที่พึ่งสร้างขึ้น ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย ถือว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด ส่วนใครที่อยากดูม้าไม้เมืองทรอยของจริง จะตั้งอยู่ที่เมืองทรอย Trojan Ruins จะต้องซื้อบัตรเพื่อเข้าชมในราคา 35 ลีราตุรกี
📍 ชื่อสถานที่ : ม้าโทรจัน (Trojan Horse Statue)
🔎 เว็บไซต์ : canakkale.net.tr
⌚ เวลาทำการ : เปิด 24 ชั่วโมง
🌎 การเดินทาง : นั่งเครื่องบินจากอิสตันบลูมายังสนามบินชานัคคาเล่ใช้เวลา 3 ชั่วโมง หรือ นั่งรถบัส
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/V723M6yVuuWVsMM69
ม้าไม้เมืองทรอย โดย ShutterStock
คูซาดาซี (Kusadasi)
คูซาดาซี (Kusadasi) เมืองชายฝั่งทะเลของตุรกี ที่มีรีสอร์ทและโรงแรมสวยอยู่เรียงรายเต็มไปหมด ชายหาดทอดยาว 2 กิโลเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกิจกรรมทางน้ำและความบันเทิง ให้อารมณ์เหมือนภูเก็ตหรือพัทยาบ้านเรานั้นเอง นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย และถ่ายรูปชมความสวยงามของซากปรักหักพังต่างๆ ที่อยู่มามากกว่า 2,000 ปี
📍 ชื่อสถานที่ : คูซาดาซี (Kusadasi)
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/T27LQzrd2ax9uxf67
คูซาดาซี โดย ShutterStock
ซากปรักหักพังของวิหารอธีนา (Priene Ruins)
Priene Ruins เป็นซากปรักหักพังของวิหารอธีนา อยู่บนชายฝั่งทะเลอีเจี้ยนห่างจากตัวเมืองไป 35 กิโลเมตร เป็นเมืองกรีกโบราณที่เป็นของอาณาจักร Lonia เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี มีชื่อเสียงในด้านยสาปัตยกรรมแบบเฮลเลนิสติก แต่เดิมสร้างขึ้นบนแนวชายฝั่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปสภาพทางภูมิศาสตร์และภูมิทัศน์เปลี่ยนไป ทำให้ต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเนื่องจากการค้าทางทะเลลดน้อยลง แต่ปัจจุบันตั้งอยู่กลางที่ราบอันอุดมสมบูรณ์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
📍 ชื่อสถานที่ : ซากปรักหักพังของวิหารอธินา (Priene Ruins)
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🌎 การเดินทาง : นั่งเครื่องบินจากอิสตันบลู 1 ชั่วโมงลงสนามบินโบดรัม จากนั้นต่อรถตู้เข้าไปที่ Priene Ruins
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/pPYU5WFGxDWwus3Q9
ซากปรักหักพังของวิหารอธินา โดย ShutterStock
เมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus)
เมืองโบราณเอเฟซุส โดย ShutterStock
เมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus) เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่ไม่ทราบหลักฐานชัดเจนว่าเกิดขึ้นในสมัยใด แต่นักประวัติศาตร์สันนิฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 เป็นเมืองที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี บรรยากาศรอบๆเมืองโบราณนี้ เป็นหินอ่อนตัดกลางใจเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างสมัย 2,000 ปีที่แล้ว มีทั้งโรงละครกลางแแจ้ง ที่รองรับผู้คนได้ถึง 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงทุกวันนี้ และยังมีห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของสถาปัตยกรรมสวยงามไม่ว่าจะเป็นห้องอาบน้ำ ห้องอบไอน้ำ ภายในประดับด้วยโมเสกและรูปปั้นต่างๆอย่างสวยงาม
📍 ชื่อสถานที่ : เมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus)
🔎 เว็บไซต์ : whc.unesco.org
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 18.30 น.
🌎 การเดินทาง : ขึ้นเครื่องบินจากอิสตันบลู 1 ชั่วโมงไปยัง อิซเมียร์ (Izmir) จากนั้นต่อรถบัสไปยังเมืองโบราณเอเฟซุส
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/yPCwKCggDwoG2M4n8
โรงละครกลางแแจ้ง โดย ShutterStock เมืองโบราณเอเฟซุส โดย ShutterStock
ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล (Pamukkale)
ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล (Pamukkale) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของตุรกีที่ไม่ควรพลาด เกิดจากตะกอนหินปูนที่ทำปฏิกิริยากับอากาศจนจับตัวแข็งกลายเป็นแอ่งและมีทางน้ำแร่ในใต้ดินใหลออกมาคล้ายน้ำตก กลายเป็นปติมากรรมฝีมือธรรมชาติที่สวยมาก และทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามอีกที่หนึ่ง นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำในช่วงหน้าร้อน แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่หน้าไปเหมือนกันจะเป็นช่วงที่น้ำล้นขึ้นแอ่งถ่ายรูปออกมาสวยสุดๆไปเลยค่ะ
📍 ชื่อสถานที่ : ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล (Pamukkale)
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 6.30 – 18.00 น.
🌎 การเดินทาง : ขึ้นเครื่องบินจากอิสตันบลู 1 ชั่วโมง ลงสนามบินเดนิซลี (Denizli) และต่อรถมายังปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล
💰 ค่าเข้าชม : 35 ลีรา (Including hot spring / Hierapolis ruins) และ 80 ลีรา (Including hot spring / Hierapolis ruins / cleopattra pool )
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/VD1rKi47w2eSREMb9
ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล โดย ShutterStock
คัปปาโดเกีย (Cappadocia)
คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมื่อพูดประเทศถึงตุรกี หรือ เมืองคัปปาโดเกีย หลายๆคนคงจะนึกถึงวิวบอลลูนถ่ายรูปสวยๆ แต่งตัวจัดเต็มสีสันฉูดฉาดสู้สีบอลลูน เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนต่างให้ความสนใจและอยากมาเปิดประสบการณ์สุดพิเศษ ขึ้นบอลลูนสักครั้งหนึ่งในชีวิตเก็บบรรยากาศในขณะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า สำหรับใครที่กลัวความสูงแต่อยากได้รูปสวยๆ ก็เช่ารถคลาสสิคเปิดประทุนชมวิวบอลลูนอย่างใกล้ชิดได้ ตรงที่ให้เช่าจะมีคนขับรถให้ ไปกับกลุ่มเพื่อนแชร์ค่าเช่ากันคุ้มมากๆ เมื่อลงจากบอลลูนแล้วพนักงานจะให้ Certificate มาด้วยว่าเราได้ขึ้นบอลลูนที่นี่แล้ว แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นบอลลูนหรือไม่ได้เช่ารถก็ไม่เป็นไร โรงแรมในระแวกนี้ก็ยังมีชั้นดาดฟ้าให้ใช้บริการขึ้นไปชมความสวยงาม ถ่ายรูปจากระเบียงที่มีแบคกราวน์เป็นบอลลูนที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าก็สวยไม่แพ้กัน ใครจะไปขึ้นบอลลูนก็เช็คสภาพอากาศกันดีๆด้วยนะคะ นอกจากบอลลูนแล้วคัปปาโดเกียก็ยังมีหินยักษ์หลายรูปทรงแปลกตา ที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติมานับล้านปี ทำให้ทั่วทั้งเมืองดูเหมือนอยู่ในเทพนิยาย
📍 ชื่อสถานที่ : คัปปาโดเกีย (Cappadocia)
🔎 เว็บไซต์ : hotairballooncappadocia.com
💰 ค่าเข้าชม : ค่าขึ้นบอลลูน 4,500 – 12,000 บาท/คน (ขึ้นอยู่กับขนาดบอลลูนและจำนวนคน)
🌎 การเดินทาง : ขึ้นเครื่องบินจากอิสตันบลู 1 ชั่วโมง ลงสนามบิน Kayseri หรือ Nivsehir แล้วต่อรถเข้าไปยัง Goreme National Park
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/8zwuDee114B4wpRT6
ร้านขายพรม Galerie Ikman
ร้านขายพรม (Galerie Ikman) นอกจากจะขายพรมแล้วที่ร้านก็ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่แบ่งพื้นที่อีกส่วนเป็นพื้นที่ถ่ายรูปกับพรมสวยๆในร้าน เป็นอีกหนึ่งที่ไฮไลท์ของคัปปาโดเกียที่ตากล้องหรือนางแบบจำเป็นต้องไม่พลาด ร้านขายพรมที่ชื่อเสียงโด่งดังสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปกันแบบไม่ขาดสาย มีการจัดสถานที่ไว้อย่างดี มีไฟสปอร์ตไลท์เหมือนกับที่ใช้ในงานถ่ายแบบแถมมีช่างภาพให้ด้วย โพสท่าสวยๆรอได้เลยค่ะได้รูปที่เวอร์วังอลังการแน่ๆ แต่ใครที่จะเข้าไปถ่ายรูปที่นี่จะต้องเสียค่าเข้าประมาณ 50 ลีรานะ หรือไปกับกลุ่มเพื่อนก็เหมารอบไปได้เลย ร้านแทบจะไม่ได้ขายพรมแล้ว แทบจะเป็นสตูดิโอถ่ายภาพอยู่แล้วว
📍 ชื่อสถานที่ : ร้านขายพรม (Galerie Ikman)
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 8.30 – 22.00 น.
🌎 การเดินทาง : อยู่บริเวณ Goreme National Park เดินมาที่ร้าน 200 เมตร
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/2FKgBTBThJqfFFRp6
ร้านขายพรม (Galerie Ikman) โดย ShutterStock
เกอเรเม่ (Goreme Historical National Park)
เกอเรเม่ (Goreme) โดย Justin Slattery
เกอเรเม่ (Goreme Historical National Park) หินรูปทรงประหลาดในเมืองคัปปาโดเกีย เกิดจาการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซานระเบิด ลาวาได้ทับถมอัดแน่นพื้นที่จนกลายเป็นชั้นดิน ชั้นหินที่แข็งตัวจับกันเป็นก้อน เมื่อเวลาผ่านไปที่แห่งนี้ถูกสายลม สายฝน กระแสน้ำ และความเย็นจากหิมะ ถล่มใส่ชั้นดินและชั้นหินเหล่านี้อย่างหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้เกิดเป็นรูแหว่ง และมีรูปร่าง รูปทรงที่แปลกตาแตกต่างกันออกไป เวลาผ่านไปมีมนุษย์เดินทางมาในที่แห่งนี้แล้วเห็นลักษณะหินเหมือนปล่องไฟ จึงเรียกกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” และเมืองเกอเรเม่นี้ยังมีเส้นทางให้เดินเท้าสวยๆ อย่าง Pegion Valley และ Rose Valley ทั้งสองทางนี้เมื่อเดินไปเรื่อยจะพบกับป่าหิน ที่มีหินหลายๆรูปร่างอยู่มากมาย ใครที่มาที่แล้วห้ามพลาดที่จะกดชัตเตอร์กับความสวยงามของธรรมชาติแห่งนี้
📍 ชื่อสถานที่ : เกอเรเม่ (Goreme)
🔎 เว็บไซต์ : portali.gov.tr
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 20.00 น.
🌎 การเดินทาง : จากร้านขายพรม (Galerie Ikman) นั่งรถต่อมาที่ Goreme Historical National Park ใช้เวลา 15 นาที
🗺 Google Map : https://goo.gl/maps/u8aCvrj1b8sxW85A6
Rose Valley โดย ShutterStock
Pegion Valley โดย Sandra Ribeiro Morales
เป็นยังไงกันบ้างคะ กล้องถ่ายรูปเมมเต็มกันหรือยัง เห็นไหมล่ะประเทศตุรกีไม่ได้มีบอลลูนอย่างเดียว ประเทศที่เต็มไปด้วยประติมากรรมทางประวัติศาสตร์มากมาย วิวทิวทัศน์อย่างกับออกมาจากนิยายและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่รอให้เพื่อนๆเข้าไปชมอยู่ ในแต่ละที่ก็ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ให้ฟีลกันไปคนละแบบ และใครที่มาที่นี่แบบคนเดียวลุยๆ กลุ่มเพื่อนสายเม้าท์ หรือ มาเอาฟีลโรแมนติกกับหวานใจก็ได้หมด ประเทศ 2 ทวีปแห่งนี้ตอบโจทย์มากๆเลย แต่แนะนำให้แต่งตัวสีฉูดฉาดให้ตัดกับท้องฟ้า สีบอลลูน บอกเลยว่าเลิศแน่ๆ ทริปหน้าเราจะพาไปที่ไหนกันต่อ รอติดตามชมกันนะคะ
อ่านเพิ่มเติม
เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี ? 10 ประเทศ น่าเที่ยว ที่ควรไปสัมผัสสักครั้ง ในปี 2024