10 เทศกาลน่าไป เมื่อไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ในเดือนมกราคม 2025
เดือนมกราคม ในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งเดือนที่มีอากาศหนาวมากที่สุด ใครจะไปท่องเที่ยวควรเตรียมเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปให้พร้อม ควรเช็คสภาพอากาศในเมืองที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวด้วย จะได้ไม่มีผิดพลาดเนอะ มกราคม เป็นเดือนแรกของปี ผู้คนมักนิยมไปขอพรตามศาลเจ้าต่าง ๆ เพื่อขอให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิต ตามลานสกีต่างๆ เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย รวมถึงเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม หากไปท่องเที่ยวในช่วงเดือนนี้ อย่าลืมเพิ่มเทศกาล ลงไปในแพลนด้วยนะ เดี๋ยวเสียเที่ยว ไปสัมผัสวัฒนธรรมของบ้านเค้า จะได้ไปถึงญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เช็คอินชิลล์ จะพาไปคุณไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคมกัน ว่าจะมีเทศกาลอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
เฉลิมฉลองปีใหม่ที่ศาลเจ้าอิตสึกูชิมะ (ฮิโรชิม่า)
ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะช่วงฤดูหนาว, ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ โดย Shutterstock.com
ในวันแรกของปี ชาวญี่ปุ่นมักจะเดินทางไปไหว้พระขอพรตามศาลเจ้าต่าง ๆ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวให้มีแต่ความโชคดีตลอดทั้งปี หากใครที่ไปเที่ยวจังหวัดฮิโรชิม่าในช่วงเดือนมกราคมนี้ แนะนำให้ไปศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) บนเกาะมิยาจิมะ ที่ว่ากันว่าเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ มีน้องกวางเดินเล่น ให้บรรยากาศย้อนยุค ตื่นตาตื่นใจไปกับเสาโอโทริยักษ์สีแดงชาด สูงถึง 16 เมตร ซึ่งเป็นมรดกโลกที่โดดเด่นอยู่กลางทะเลและด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงามนี้ ทำให้กลายเป็นจุดฮอตสปอทสำคัญที่ใครมาต้องถ่ายรูป ไม่งั้นถือว่าพลาดมาก แถมยังได้รับการจัดให้เป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ที่งดงามที่สดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ยิ่งช่วงน้ำขึ้นจะดูเหมือนว่าเสาโอโทริลอยน้ำอยู่ ส่วนช่วงน้ำลงจะสามารถลงเดินไปยังเสาโอโทริได้เลย โดยศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าที่คุ้มครองผู้คนจากภัยพิบัติทางทะเลและสงคราม ในช่วงวันที่ 1-3 และวันที่ 5 มกราคม จะมีการแสดงรำพื้นบ้านและการแสดงดนตรี มาเที่ยวเดือนนี้บอกเลยว่าฟีลดีมาก เพราะเดือนมกราคมเป็นช่วงฤดูหนาว จะมีหิมะโปรยปรายลงมา บวกกับวิวทิวทัศน์คือเป็นภาพที่สะกดสายตามาก นอกจากศาลเจ้าแล้ว บนเกาะยังมีวัดไดโชอิน (Daishoin Temple) ภายในมีเจดีย์สีแดงโกจูโนโตะ และสามารถขึ้นกระเช้าเพื่อไปยังจุดชมวิวบนภูเขามิเซนได้ จะเห็นวิวท้องทะเลและเมืองฮิโรชิม่าแบบกว้างไกล, อควาเรียมมิยาจิมะ (Miyajima Public Aquarium) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็ก ให้คุณได้เดินชมและเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำ และสวนโมมิจิดานิ (Momijidani Garden) ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ลำธาร ปลาคาร์ป ต้นไม้ และมีสะพานแดงให้ถ่ายรูป เกาะมิยาจิมะไปเที่ยวได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือจะไปนอนค้างบนเกาะก็ได้เช่นกัน มีโรงแรมบริการหลายแห่งเลยล่ะ
⛩️ ชื่อเทศกาล : Itsukushima Shrine 2025
📅 วันจัดงาน : ตลอดเดือนมกราคม 2025
🌎 เว็บไซต์ : miyajima.or.jp/english
🗺 สถานที่ : ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine), เกาะมิยาจิมะ (Miyajima Island) จังหวัดฮิโรชิม่า
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Hiroshima Station ขึ้นรถไฟ JR San-yo Line มุ่งหน้า Ono-Ura ลงสถานี Miyajimaguchi Station แล้วเดินไปยังท่าเรือ JR West Miyajima Ferry แล้วขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะมิยาจิมะ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นเดินเท้าไปยังศาลเจ้าอีกประมาณ 10 นาที *เรือเฟอร์รี่ออกตลอดทั้งวัน (ยกเว้นสภาพอากาศไม่ดี) ไม่ต้องจองล่วงหน้า เที่ยวเดียว 300 เยน, ไป-กลับ 500 เยน ถ้ามี JR West Pass ขึ้นฟรีเพียงโชว์พาส
ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ โดย Shutterstock.com
เดินช็อปปิ้งของเซล (โตเกียว)
ห้าแยกชิบูย่า, ย่านชิบูย่า โดย Yellow Cat / Shutterstock.com
สายช็อปปิ้งมาทางนี้เลย ตั้งแต่วันที่ 1-2 มกราคมเป็นต้นไป ตามร้านค้าและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ จะมีกิจกรรมลดราคา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่โดดเด่นในเมืองใหญ่ ๆ ผู้คนจะมาต่อแถวเพื่อซื้อสินค้าในราคาต่ำกว่าราคาจริง โดยร้านค้าต่าง ๆ จะทำถุงฟุกุบุคุโระ (Fukubukuro) หรือถุงโชคดีวางจำหน่ายในช่วงปีใหม่ ใครที่ชอบลุ้นบอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าภายในถุงจะมีสินค้าอะไรบ้าง ต้องมาเปิดลุ้นเอาเอง ให้อารมณ์เปิดกล่องสุ่ม แนวคิดของฟุกุบุคุโระมาจากห้างสรรพสินค้า Ginza Matsuya ในช่วงปลายยุคเมจิ เพื่อระบายสินค้าส่วนเกินและสินค้าที่ไม่ต้องการจากปีที่แล้ว เนื่องจากคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าไม่ควรเริ่มต้นปีด้วยการใช้สินค้าที่ไม่ต้องการจากปีที่แล้ว ควรเริ่มต้นปีด้วยสินค้าผลิตใหม่ เร้านค้าจะนำสินค้าที่ไม่ต้องการมาใส่ในถุง ซึ่งจะแยกเป็นหมวดต่าง ๆ อาทิ กระเป๋าสตางค์, รองเท้า, เสื้อผ้า, น้ำหอม, ของใช้ต่าง ๆ รวมไปถึงของเล่น และฟิคเกอร์โมเดล ส่วนของชิ้นใหญ่อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าที่จับต้องไม่ได้ จะใช้เป็นบัตรกำนัลแทน สำหรับสินค้าในถุงฟุกุบุคุโระจะลดราคาเยอะมาก อาจมากถึง 70% ทำให้เราได้สินค้าในราคาดี ซึ่งคุ้มค่ามาก แต่แค่เราไม่รู้ว่าจะได้อะไรเท่านั้นเอง แหล่งช็อปปิ้งใหญ่ ๆ ในกรุงโตเกียวที่เราอยากแนะนำก็คือ ย่านกินซ่า (Ginza) สินค้าหรูหรา, ย่านชิบุย่า (Shibuya) สินค้าเหมาะกับกลุ่มวัยรุ่น, ย่านฮาราจุกุ (Harajuku) มีสินค้าทั่วไปเหมาะกับทุกวัย และย่านอะโอยะมะ (Aoyama) สินค้าหรู หากไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงปีใหม่ อย่าลืมไปช็อปปิ้งตามย่านการค้าต่าง ๆ กันด้วยนะ คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
⛩️ ชื่อเทศกาล : Shopping for discounted items
📅 วันจัดงาน : วันที่ 1 มกราคม 2025 เป็นต้นไป
🗺 สถานที่ : ย่านกินซ่า (Ginza), ย่านชิบุย่า (Shibuya), ย่านฮาราจุกุ (Harajuku), ย่านอะโอยะมะ (Aoyama), กรุงโตเกียว
🚆 การเดินทาง :
- ย่านกินซ่า (Ginza) – Tokyo Metro Ginza Line, Hibiya Line, Marunouchi Line ลงสถานี Ginza Station หรือ Tokyo Metro Asakusa Line ลงสถานี Higashi-ginza Station , JR Yamanote Line ลงสถานี Yurakucho Station
- ย่านชิบุย่า (Shibuya) – Tokyo Metro Ginza Line, Fukutoshin Line, Hanzomon Line หรือ JR Yamanote Line ทั้งหมดลงสถานี Shibuya Station
- ย่านฮาราจุกุ (Harajuku) – JR Yamanote Line ลงสถานี Harajuku Station หรือ Tokyo Metro Chiyoda Line, Fukutoshin Line ลงสถานี Meiji-jingumae ‘Harajuku’ Station
- ย่านอะโอยะมะและโอโมเตะซันโด (Aoyama & Omotesando) – Tokyo Metro Ginza Line, Chiyoda Line, Hanzomon Line ลงสถานี Omotesando Station
ถุงฟุกุบุคุโระ โดย tipwam / Shutterstock.com
ย่านฮาราจูกุ โดย Jose Miguel Sanchez / Shutterstock.com
บรรยากาศบนถนนทาเคชิตะ, ย่านฮาราจูกุ โดย ItzaVU / Shutterstock.com
ย่านกินซ่า โดย Malcolm Fairman / Shutterstock.com
คึกคักไปด้วยผู้คน, ย่านชิบูย่า โดย KarlosWest / Shutterstock.com
เที่ยวชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (กิฟุ)
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ โดย Shutterstock.com
ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ อีกหนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่ในหุบเขาห่างไกล บริเวณเชิงเขาฮาคุซัง ทางตอนเหนือของจังหวัดกิฟุ จริง ๆ แล้วสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาลเลย แต่มาช่วงหน้าหนาวจะฟีลดีมาก หิมะสีขาวโพลนจะปกคลุมไปทั่วหมู่บ้าน ทุ่งนา และภูเขา จนเกิดเป็นความงดงามสะกดสายตาดุจภาพวาด โดยหมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกจากยูเนสโก เมื่อเข้ามาแล้วเหมือนอยู่คนละโลก ต้องไปชมด้วยตาเนื้อ โดดเด่นด้วยบ้านสไตล์กัสโช-ซุคุริ (Gassho-zukuri) ที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ไม้ทุกแผ่นจะสอดเข้าล็อกอย่างประณีต โครงสร้างแข็งแรงมาก เป็นบ้านโบราณอายุ 200-300 กว่าปี อยู่มาตั้งแต่ราว ๆ ปี ค.ศ.1800 โดยเฉพาะบ้านสามหลังที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งกัสโช-ซึคุริ มินคะเอ็น ซึ่งจะมีบ้านบางหลังที่เปิดให้เข้าชมภายใน คือ บ้านวาดะ (Wada House), บ้านคันดะ (Kanda House),และบ้านนางาเสะ (Nagase House) แต่ละสถานที่จะอยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน สามารถเดินเที่ยวชมได้แบบยาว ๆ เลย อย่าลืมขึ้นจุดชมวิวปราสาทโอกิมาจิ จะมองเห็นหมู่บ้านชิราคาวะโกะแบบมุมกว้าง สวยลืม อีกทั้งช่วงเดือนมกราคมไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีงาน Shirakawago Light Up เทศกาลแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวะโกะ ในปี 2025 จัดขึ้นวันที่ 13, 19, 26 มกราคม และวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025 เปิดไฟเวลา 17.30 – 19.30 น. บอกเลยว่าโรแมนติกมาก ยิ่งมีหิมะโปรยปรายลงมา นิพพานแน่นอน ต้องไปดูสักครั้งในชีวิต ใครอยากมาเที่ยวที่นี่ แนะนำจองล่วงหน้านาน ๆ หน่อยนะคะ ทั้งรอบรถและที่พัก หรือจะซื้อทัวร์ก็ได้ เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก
⛩️ ชื่อเทศกาล : Shirakawa-go Travel
📅 วันจัดงาน : ตลอดเดือนมกราคม 2025
🌎 เว็บไซต์ : vill.shirakawa.lg.jp/en
🗺 สถานที่ : หมู่บ้านชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go), เขตโอโนะ จังหวัดกิฟุ
🚆 การเดินทาง : ไปได้หลายวิธีและจากหลายจังหวัด ขึ้นอยู่กับแพลนเที่ยวของแต่ละคน วิธีที่เร็วที่สุด คือ เริ่มจากไทย นั่งเครื่องบินลงสนามบินนาโกย่า ชูบุเซ็นแทรร์ (Nagoya Chubu Centrair Airport) นั่งรถไฟ Meitetsu-Limited Express ลงสถานี Meitetsu Nagoya Station แล้วเดินไปยัง Meitetsu Bus Center ขึ้น Gifu Bus สายนาโกย่า-ชิราคาวาโกะ ลง Shirakawago Bus Terminal ก็ถึงแล้ว เดินเที่ยวได้เลย ใช้เวลาเดินทางราว ๆ 3.5 ชั่วโมง
หมู่บ้านชิราคาวะโกะ โดย DiegoMariottini / Shutterstock.com
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ โดย Shutterstock.com
ฤดูกาลแห่งสกี
ลานสกีในพื้นที่เอจิโกะ ยูซาวะ, เอจิโกะ ยูซาวะ โดย Shutterstock.com
ฤดูหนาวแบบนี้ หนึ่งในกีฬาที่ต้องสัมผัสสักครั้งก็คงจะต้องเป็นการเล่นสกี ช่วงเดือนมกราคมถือเป็นช่วงสำหรับฤดูกาลสกีเลย เนื่องด้วยเป็นเดือนที่มีหิมะตกติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้หิมะแห้งและนุ่มฟู เมื่อได้เจออากาศหนาว ๆ กับหิมะสีขาวทั้งที ไม่เล่นสกีนี่บอกเลยว่าพลาด โดยสกีรีสอร์ทที่เด่น ๆ ก็จะมีในฮอกไกโด, นะงะโนะ, และนีงาตะ ใครที่ไปฮอกไกโดอยู่แล้วก็ไปสกีรีสอร์ทในฮอกไกไดได้เลย ฮอกไกโดเข้าขึ้นชื่ออยู่แล้ว เดี๋ยวแปะพิกัดสกีรีสอร์ทฮอกไกโดไว้ให้ด้านล่างนะคะ ส่วนใครมาโตเกียว แต่อยากไปสกีรีสอร์ทสวย ๆ แนะนำให้ไปที่นะงะโนะและนีงะตะ เพราะเดินทางจากโตเกียวด้วยชินคันเซ็นและรถบัสได้เลย
สำหรับสกีรีสอร์ทในจังหวัดนะงะโนะต้องที่ เมียวโกะ สุงิโนฮาระ สกี รีสอร์ท (Myoko Suginohara Ski Resort) เป็นสกีรีสอร์ทที่มีทางวิ่งสกียาวที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยล่ะ ยาวด้วยกัน 8.5 กิโลเมตร มีเส้นทางสกีทั้งหมด 17 เส้นทาง สามารถเล่นได้ทุกระดับความสามารถ และมีกระเช้าลิฟต์ถึง 5 ตัว อีกทั้งตลอดฤดูกาลสกี ทางรีสอร์ทจะมีบริการเล่นสกีฟรีสำหรับเด็ก ๆ จึงเหมาะกับครอบครัวมาก ๆ ซึ่งที่นี่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสประสบการณ์การเล่นสกีแบบญี่ปุ่น เล่นสกีผ่านป่าสนซีดาร์ พร้อมชมทัศนียภาพอันงดงาม แถมมองเห็นทะเลสาบโนจิริและภูเขาไฟฟูจิในวันที่อากาศแจ่มใสอีกด้วย ส่วนในจังหวัดนีงาตะนั้น สกีรีสอร์ทชื่อดังต้องแถบ เอจิโกะ ยูซาวะ เมืองหิมะที่มีชื่อเสียง มีลานสกี 12 แห่ง สามารถดึงดูดนักเล่นสกีได้มากกว่า 2 ล้านคนในแต่ละวัน เด่น ๆ เลย นาเอบะ สกี รีสอร์ท (Naeba Ski Resort), คากูระ สโนว์ รีสอร์ท (Kagura Snow Resorts), คันดะสึ สโนว์ รีสอร์ท (Kandatsu Snow Resort), อิวะฮาระ สกี รีสอร์ท (Iwappara Ski Resort) และยูซาวะ นากะซาโต สโนว์ รีสอร์ท (Yuzawa Nakazato Snow Resort) ซึ่งแต่ละแห่งจะมีเส้นทางสกีแตกต่างกันไป นอกจากจะมีชื่อเสียงในเรื่องของลานสกีแล้ว ที่เอจิโกะ ยูซาวะ ยังขึ้นชื่อในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อนเป็นอย่างมาก มีบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งหลายพันบ่อ บางบ่อเก่าแก่มากมีอายุมากถึง 800 ปี เล่นสกีเสร็จแล้วมาแช่ออนเซ็นต่อ ช่วยผ่อนคลายร่างกายจากความเหนื่อยล้าได้ดีทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม : 5 สกีรีสอร์ท ฮอกไกโด 2024-2025 ประเทศญี่ปุ่น สวรรค์สำหรับนักสกี และสโนว์บอร์ด
⛩️ ชื่อเทศกาล : Ski Resort
📅 วันจัดงาน : ตลอดเดือนมกราคม 2025
🌎 เว็บไซต์ : princehotels.com/en/ski/myoko_kogen
🗺 สถานที่ : เมียวโกะ สุงิโนฮาระ สกี รีสอร์ท (Myoko Suginohara Ski Resort), เมืองเมียวโกะ จังหวัดนีงะตะ , เอจิโกะ ยูซาวะ (Echigo Yuzawa),เมืองยูซาวะ (Yuzawa) จังหวัดนะงะโนะ
🚆 การเดินทาง :
- เมียวโกะ สุงิโนฮาระ สกี รีสอร์ท (Myoko Suginohara Ski Resort) – เริ่มต้นจากสถานี Tokyo Station ขึ้นรถไฟ Hokuriku Shinkansen ลงสถานี Nagano Station ใช้เวลา 1.5 ชั่วโมง เปลี่ยนสายรถไฟ Shinano Railway Kita-Shinano Line มุ่งหน้า Myokokogen ลงสถานี Myokokogen Station ใช้เวลา 45 นาที แล้วต่อบัสสาย Suginosawa Line ประมาณ 30 นาทีถึง ซึ่งบัสจะวิ่งช่วงหน้าหนาวเท่านั้น
- เอจิโกะ ยูซาวะ (Echigo Yuzawa) – เริ่มต้นจากสถานี Tokyo Station ขึ้นรถไฟ Joetsu Shinkansen ลงสถานี Echigo Yuzawa Station ใช้เวลาเดินทาง 1.5 ชั่วโมง
กอนโดล่า, ยูซาวะ โคเง็น สกี รีสอร์ท โดย Jujumin Chu / Shutterstock.com
เล่นสกีพร้อมชมวิวเขื่อนคัสสะ (Kassa Dam), คากูระ สโนว์ รีสอร์ท โดย Shutterstock.com
เก้าอี้ลิฟต์ โดย Shutterstock.com
ภูเขาเมียวโกะในฤดูหนาว โดย Shutterstock.com
เทศกาลไฟโนซาวะออนเซ็น (นางะโนะ)
เทศกาลไฟ โนซาวะ ออนเซ็น เป็น 1 ใน 3 เทศกาลไฟที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ถนนสายเก่าระหว่างแม่น้ำและหมู่บ้านบนภูเขาในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นจุดที่มีพระเจ้า เป็นที่รู้จักกันในนาม โดโซจิน เป็นเทพของถนนและพรมแดน โดยรูปปั้นมักจะประดิษฐานตามขอบชายหมู่บ้าน ท่านเป็นเทพเจ้าที่ดีของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในเทศกาลชาวบ้านจะต้องสร้างศาลเจ้าสำหรับเทศกาลไฟโนซาวะ โดยต้นไม้จะถูกตัดในเดือนตุลาคม และถูกนำลงมาจากภูเขา ผ่านหมู่บ้านในวันที่ 13 มกราคม ก่อนที่จะถูกทำให้เป็นศาลไม้ หลังจากเสร็จแล้ว วันที่ 14 มกราคม นักบวชจากศาลเจ้าโคซุเกะ จะทำพิธีมอบศาลให้กับโดโซจิน สำหรับไฮไลท์ในวันที่ 15 มกราคม นั้น คือ การต่อสู้ด้วยไฟ ซึ่งจบลงด้วยการจุดไฟที่ศาลไม้ ให้แก่เทพโดโซจิน ด้วยคบเพลิง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าชม เทศกาลนี้ ถือสมบัติทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ แรกเริ่มจัดขึ้นเพื่อขอให้การเก็บเกี่ยว สุขภาพ และโชคลาภที่ดี หลังๆ เริ่มขอเพื่อฤดูกาลสกีที่ดี เพราะโนซาวะออนเซ็น เป็นหมู่บ้านที่สวยงาม เชิงเขาเคนาชิ ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำพุร้อนและสกีรีสอร์ท การจุดไฟจะเริ่มในเวลา 19.00 น. เสร็จพิธี เวลาประมาณ 22.00 น. เทศกาลไฟโนซาวะ จัดขึ้นโดยผู้ชายอายุ 42 และ 25 ปี (ในญี่ปุ่น ถือเป็นอายุที่โชคร้าย) เพื่อเฉลิมฉลองการเกิดของลูกคนแรกในครอบครัว เพื่อกำจัดวิญญาณชั่วร้าย และสวดภาวนาเพื่อแต่งงานอย่างมีความสุข
⛩️ ชื่อเทศกาล : Nozawa Onsen Fire Festival 2025
📅 วันจัดงาน : วันที่ 15 มกราคม 2025
🌎 เว็บไซต์ : nozawa-onsen.com/nozawa-fire-festival
🗺 สถานที่ : จุดจัดเทศกาลไฟ หมู่บ้านโนซาวะออนเซ็น (Dosojin Fire Festival Venue Nozawa Onsen), เขตชิโมตะคาอิ จังหวัดนางะโนะ
🚆 การเดินทาง : จากสถานี Tokyo ขึ้น Hokuriku Shinkansen ลงสถานี Iiyama (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที) แล้วต่อด้วยรถบัสสายโนซาวะออนเซ็น 25 นาที หรือหากมาเที่ยวช่วงฤดูการเล่นสกี เดือนธันวาคม-มีนาคม จะมีรถ Shuttle Bus ไปยังโนซาวะออนเซ็นเลย (ขึ้นได้ที่สนามบินฮาเนะดะหรือสนามบินนาริตะ) ค่าโดยสาร Shuttle Bus ราคาประมาณ 10,900 – 11,900 เยน/เที่ยว (แล้วแต่ช่วงเดือน)
เทศกาลไฟ โนซาวะ ออนเซ็น โดย Shutterstock.com
ตลาดนัดเซตะกายะ โบโรอิจิ (โตเกียว)
ตลาดนัดเซตะกายะ โบโรอิจิ โดย Lewis Tse / Shutterstock.com
ตลาดนัดเซตะกายะ โบโรอิจิ จัดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1578 ในปัจจุบันได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่า เป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ของโตเกียว คำว่า โบโร ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า เศษผ้า สมัยก่อนเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเศษผ้าและสิ่งทอ เดิมทีเป็นตลาดเสรีในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ซึ่งอนุญาตให้ค้าขายแบบปลอดภาษี เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ จัดขึ้น 6 ครั้งต่อเดือน ตลาดจึงเป็นจุดนัดพบสำคัญของพ่อค้าในสมัยเอโดะ ในปัจจุบันตลาดจัดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น คือ ช่วงกลางเดือนมกราคม และเดือนธันวาคม ในตลาดจะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ประมาณ 700 ร้านค้า จำหน่ายสินค้าหลากหลาย ตั้แต่ของใช้ประจำวัน ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ของเล่น ต้นไม้ เสื้อผ้ามือสอง และของเก่า จำนวนมาก อีกทั้งคุณจะได้สัมผัสกับสตรีทฟู้ดมากมาย พบกับแผงขายอาหารต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลิน เดินได้ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น เปิดเวลา 09.00 – 18.00 น. ที่สำคัญห้ามลืมทาน Daikan Mochi โมจิที่เป็นเอกลักษณ์ของตลาด
⛩️ ชื่อเทศกาล : Setagaya Boro-ichi (Flea Market)
📅 วันจัดงาน : วันที่ 15-16 มกราคม 2024
🌎 เว็บไซต์ : tokyo-cci.or.jp/setagaya/boroich
🗺 สถานที่ : บริเวณถนนโบโรอิจิ (Boro-ichi Street), แขวงเซตางายะ กรุงโตเกียว
🚆 การเดินทาง : Tokyu Setagaya Line ลงสถานี Setagaya หรือ Kamimachi
ตลาดนัดเซตะกายะ โบโรอิจิ โดย Shutterstock.com
ตลาดตุ๊กตาดารุมะ (โตเกียว)
ตุ๊กตาดารุมะ โดย Shutterstock.com
ตุ๊กตาดารุมะ ตุ๊กตาที่เราคุ้นหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี เพราะเวลาเห็นแล้วจะนึกถึงประเทศญี่ปุ่น มีลำตัวสีแดง ดวงตากลมโต มีต้นแบบมาจากภาพวาดของพระโพธิธรรม ลักษณะอ้วนกลม ไม่มีแขนและขา บนหน้ามีคิ้วและหนวด บริเวณคางจะมีคำอวยพรเขียนเอาไว้ ซึ่งตุ๊กตาดารุมะแต่ละสีจะมีความหมายแตกต่างกันไป โดยคิ้วจะเปรียบเสมือนนกกระเรียน ส่วนหนวดเคราหมายถึงกระดองเต่า ในความหมายของนกกระเรียนและเต่าคือ การมีชีวิตที่ยืนยาว เป็นตัวแทนแห่งความโชคดี แล้วทำไมส่วนใหญ่ตุ๊กตาดารุมะถึงมีสีแดง เพราะในสมัยก่อน พระโพธิสวมจีวรสีแดง นั่นจึงเป็นต้นแบบทำให้ตุ๊กตาดารุมะมีลำตัวสีแดง นอกจากนี้คนญี่ปุ่นยังเชื่อว่าสีแดง เป็นสีที่สามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายและโรคภัยต่าง ๆ ได้ ผู้คนเลยนิยมให้ตุ๊กตาดารุมะเป็นของขวัญแก่เด็ก ๆ เพื่อจะทำให้เด็ก ๆ แข็งแรงและปลอดภัย หากอยากเป็นเจ้าของตุ๊กตาดารุมะ ในเดือนมกราคมจะมีการจัดตลาดดารุมะขึ้นที่โตเกียวในพื้นที่เลยล่ะ ทั้งเมืองฮามุระ บริเวณลานจอดรถแถว Hamura City Hall จัดต้นเดือนมกราคม, เมืองโอเมะ บริเวณถนนคิว-โอเมะไคโด (Kyu-Ome Kaido) จัดทุกวันที่ 12 มกราคมของทุกปี และเมืองฮิโนะ วัดทาคาฮะตะฟุโดซน จัดปลายเดือนมกราคม ซึ่งการขอพรคือการวาดตาดำข้างขวาก่อนแล้วอธิษฐาน เมื่อสมปรารถนาแล้วให้วาดตาดำข้างซ้าย จากนั้นนำขึ้นหึ้ง โดยหันหน้าไปทางทิศใต้ เมื่อครบ 1 ปี ให้นำไปส่งคืนที่ศาลเจ้า หรือนำไปเผาในเทศกาลที่จัดขึ้นโดยเฉพาะ
⛩️ ชื่อเทศกาล : Daruma Market in Tokyo 2025
📅 วันจัดงาน :
- Vitality Market, Daruma Market เมืองฮารุมะ วันที่ 4-5 มกราคม 2025
- Ome Daruma Market วันที่ 12 มกราคม 2025
- Daruma-ichi เมืองฮิโนะ วันที่ 28 มกราคม 2025
🗺 สถานที่ : บริเวณลานจอดรถแถวฮามุระซิตี้ฮอลล์ (Hamura City Hall) เมืองฮารุมะ, บริเวณถนนคิว-โอเมะไคโด (Kyu-Ome Kaido) เมืองโอเมะ, วัดทาคาฮะตะฟุโดซน (Takahata Fudoson Temple) เมืองฮิโนะ, กรุงโตเกียว
🚆 การเดินทาง :
- บริเวณลานจอดรถแถวฮามุระซิตี้ฮอลล์ (Hamura City Hall) – เริ่มต้นจากสถานี Tokyo Station ขึ้นรถไฟ JR Chuo Line Ome Special Rapid ลงสถานี Hamura Station แล้วต่อบัสที่ป้าย Hamura Eki Higashiguchi สาย Hamura East Course มุ่งหน้า Freshland Nishitama Bound แค่ 3 ป้าย ราคา 100 เยน ลงสถานี Hamura Shiyakusho (Hamura City Hall)
- ถนนคิว-โอเมะไคโด (Kyu-Ome Kaido) – เริ่มต้นจากสถานี Shinjuku Station ขึ้นรถไฟ JR Chuo Line Ome Special Rapid Ome ลงสถานี Ome Station แล้วเดินตรงมาที่บริเวณสี่แยกใหญ่ก็ถึงแล้ว
- วัดทาคาฮะตะฟุโดซน (Takahata Fudoson Temple) – เริ่มต้นจากสถานี Shinjuku Station ขึ้นรถไฟ Keio Line Limited Express Takaosanguchi ลงสถานี Takahatafudo Station แล้วเดินอีก 5 นาทีถึง
ตุ๊กตาดารุมะ โดย Shutterstock.com
ตลาดตุ๊กตาดารุมะ เมืองโอเมะ, ตลาดตุ๊กตาดารุมะ โดย gotokyo.org
ตุ๊กตาดารุมะ โดย munichawla / Shutterstock.com
เทศกาลประดับไฟ เมืองโกเบ 2025 (เฮียวโงะ)
เทศกาลประดับไฟ เมืองโกเบ โดย Sean Pavone / Shutterstock.com
เทศกาลประดับไฟ เมืองโกเบ เป็นเทศกาลประจำปี ณ เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ เกิดทุกเดือนธันวาคม ตั้งแต่ปี ค.ศ.1995 จนถึงปัจจุบัน โดยปี 2025 จะเป็นวันครบรอบ 31 ปี แผ่นดินไหวฮันชิน-อาวาจิ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวร้ายแรงที่สุดในรอบ 72 ปี ขนาด 6.8 ริกเตอร์ ลึกลงไปใต้ผิวโลก 16 กิโลเมตร จุดเหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่บริเวณเกาะอาวาจิ ที่อยู่ห่างจากเมืองโกเบเพียง 20 กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 6,434 คน ในจำนวนนี้ประมาณ 4,600 คน มาจากโกเบ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุด บ้านเรือนเสียหายพังทลายกว่า 2 แสนหลัง โครงสร้างทางด่วนสายฮันชินพังล้มลงมากว่า 1 กิโลเมตร และปั้นจั่นของท่าเรือเสียหายเป็นร้อย มูลค่าความเสียหายทั้งหมดราว ๆ 10 ล้านล้านเยน เมื่อเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ฮันชินในวันที่ 17 มกราคม 1995 ทำให้ผู้ประสบภัยต้องอยู่ในความมืดมิด ขาดไฟฟ้า น้ำประปา แก๊ส และน้ำสะอาดเพื่อดื่ม ก่อให้เกิดความคิดในการจัดแสดงไฟ เพื่อทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง การฟื้นฟู และการซ่อมแซม แม้ว่างานนี้ควรจัดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ความนิยมและความต้องการของประชาชน จึงทำให้กลายเป็นงานประจำปีไปโดยปริยาย
สำหรับเทศกาลนี้ หลอดไฟในงาน รัฐบาลอิตาลี เป็นผู้บริจาค และทำการติดตั้งให้ ผลิตโดย Valerio Festi และ Hirokazu Imaoka เป็นไฟมากกว่า 200,000 ดวง ที่ถูกเพนท์ด้วยมือ หลอดไฟใช้แสงสว่างจากไฟฟ้าที่ผลิตจากชีวมวล เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยงานจะจัดขึ้น 10 วัน และเปิดไฟในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเวลา 21.30 น. ถนนสายหลักจะทำการปิดการจราจร บริเวณถนนหน้า Former Kobe Foreign Settlement ไปจนถึงสวนฮิกาชิ ยูเอ็นจิ [Kobe East Park (Higashi Yūenchi)] เพื่อให้คนสามารถเดินชม และเพลิดเพลินไปกับแสงไฟอันสวยงาม ในแต่ล่ะปีมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากกว่า 4 ล้านคน
⛩️ ชื่อเทศกาล : Kobe Luminarie 2025
📅 วันจัดงาน : วันที่ 24 มกราคม – วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025
🌎 เว็บไซต์ : kobe-luminarie.jp
🗺 สถานที่ : บริเวณสวนฮิกาชิ ยูเอ็นจิ (Higashi Yuenchi Park), อาคารเก่าเมืองโกเบ (Former Foreign Settlement) และสวนเมอริเกน (Meriken Park) เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ
🚆 การเดินทาง : หากมาจากสถานี Osaka ขึ้น JR Kobe Line ลงสถานี Motomachi, Kobe Subway Kaigan Line ลงสถานี Kyukyoryuchi-Daimarumae
เทศกาลประดับไฟ เมืองโกเบ โดย Jphoto4956 / Shutterstock.com
เทศกาลประดับไฟ เมืองโกเบ โดย Shutterstock.com
เทศกาลประดับไฟ เมืองโกเบ โดย nosonjai / Shutterstock.com
เทศกาลประดับไฟ เมืองโกเบ โดย Sean Pavone / Shutterstock.com
เทศกาลประดับไฟ เมืองโกเบ โดย Sann von Mai / Shutterstock.com
เทศกาลอินทรีย์และระบบนิเวศ ฤดูหนาว (โตเกียว)
เทศกาลอินทรีย์และระบบนิเวศ โดย earth-garden.jp
เทศกาลอินทรีย์และระบบนิเวศ ฤดูหนาว เป็นเทศกาลที่จะทำให้คุณตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยหวังว่าคุณจะเข้าใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม แนะนำไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ผ่านการช็อปปิ้ง กิจกรรมพูดคุย และการแสดงของศิลปิน คุณสามารถช็อปปิ้งสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทุกชนิด งานฝีมือ และเสื้อผ้า เพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีสด ผลงานศิลปะ ความบันเทิงหลากหลาย มีแผงขายอาหารออร์แกนิค และอาหารจากธรรมชาติ มีเบียร์ให้จิบ ให้คุณได้ลิ้มลอง และสัมผัสรสชาติที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา อีกทั้งยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปต่างๆ ที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ โดยจัดขึ้นปีละ 4 ครั้ง คือ ในช่วงฤดูหนาว (มกราคม), ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน), ช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคม) และช่วงฤดูใบไม้ร่วง (รอคอนเฟิร์มเดือน) งานจัดเวลา 10.00 – 16.00 น.
⛩️ ชื่อเทศกาล : Earth Garden Winter 2025
📅 วันจัดงาน : กลางเดือนมกราคม 2025 *รอคอนเฟิร์มวัน*
🌎 เว็บไซต์ : earth-garden.jp
🗺 สถานที่ : บริเวณต้นเซลโคว่า สวนโยโยงิ (Yoyogi Park Zelkova), ย่านฮาราจูกุ เขตชิบูย่า กรุงโตเกียว
🚆 การเดินทาง : JR Yamanote Line ลงสถานี Harajuku, Tokyo Metro Chiyoda Line ลงสถานี Yoyogi-kōen, Odakyu Odawara Line ลงสถานี Yoyogi-Hachiman
เทศกาลอินทรีย์และระบบนิเวศ โดย earth-garden.jp
ไดโกคุ มัตสึริ (โตเกียว)
เทศกาลไดโกคุ มัตสึรึ เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นปีละครั้ง มีพิธีอาบน้ำเย็นจัด (สำหรับหนุ่ม-สาว ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป) เพื่อทนต่ออุณหภูมิต่ำ โดยหวังว่าจะสามาระถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออก แล้วนำพาความบริสุทธิ์ และความโชคดีเข้ามา หากได้ยินเสียงว่า ซามุอิ ซามุอิ ตะโกนออกมาล่ะก็ มันแปลว่า มันหนาว มันเย็น ร่างกายพวกเขาเปลือยเปล่า ยืนอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็น เพื่อรออาบน้ำ อีกทั้งยังมีนักเต้นชินโต แต่งตัวเป็นเทพไดโกคุ เพื่อทักทายผู้คน เขย่าค้อนตะลุมพุกเหนือหัวของผู้ร่วมงาน เทพไดโกคุ ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการแต่งงาน ได้รับการนับถือในฐานะเทพแห่งการจัดการที่ดินของชาติ, เทพแห่งความสามัคคี ชีวิตสมรส และการแต่งงาน ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ กล่าวกันว่า เป็นเทพเจ้าที่ปกป้องโลก เพื่อป้องกันผีเข้ามา สำหรับศาลเจ้าคันดะ เมียวจิน เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ อายุมากกว่า 1,270 ปี ที่คนญี่ปุ่น นิยมมากราบไหว้ สักการะ ขอพรปีใหม่ นอกจากเทพไดโกคุแล้ว ยังมีเทพอีก 2 ท่าน ท่านแรก คือ อีบิซุ (Ebisu) เทพแห่งความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจ , สุขภาพ และความโชคดี และท่านที่สอง มาซากะโดะ (Masakado) เทพแห่งการกำจัดผี
⛩️ ชื่อเทศกาล : Daikoku Matsuri 2025
📅 วันจัดงาน : วันที่ 13 – 14 มกราคม 2025
🌎 เว็บไซต์ : kandamyoujin.or.jp
🗺 สถานที่ : ศาลเจ้าคันดะ เมียวจิน (Kanda Myojin Shrine), แขวงชิโยดะ กรุงโตเกียว
🚆 การเดินทาง : JR Sobu Line/Chuo Line ลงสถานี Ochanomizu ใช้ทางออก Hijiribashi แล้วเดินเท้าอีก 500 เมตร, Tokyo Metro Marunouchi Line ลงสถานี Ochanomizu ใช้ทางออก 1 เดินเท้าอีก 500 เมตร, Tokyo Metro Chiyoda Line ลงสถานี Shin-ochanomizu ใช้ทางออก 2 เดินเท้าอีก 500 เมตร
เทศกาลไดโกคุ มัตสึรึ โดย Sandip Savasadia / Shutterstock.com
ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว บ้านเมือง อาหาร และวัฒนธรรม มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ หากได้ไปเที่ยวแล้วหนึ่งครั้ง รับรองว่าจะติดใจ อยากไปอีก โดยไม่มีเบื่อเลยล่ะ
สามารถกดติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ : CheckInChil คอยติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก กับเช็คอินชิลล์กันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า 💗