เมื่ออังกฤษออกจาก EU ผลที่ตามมาคืออะไร? เกี่ยวกับการท่องเที่ยวยังไง

ช่วงนี้คงทราบกันมาบ้างว่า สหราชอาณาจักร( หรือที่ส่วนใหญ่จะเรียกรวมๆว่าอังกฤษ )นั้นออกจาก EU แล้ว โดยวันที่ 23 มิถุนายน 2559 ประเทศอังกฤษได้มีการทำประชามติ “ Brexit ”(British Exit) หรือก็คือการโหวตว่าประชาชนต้องการแยกตัวหรือยังอยู่รวมกับสหภาพยุโรปหรือไม่ โดยมีผู้โหวตให้ออก 51.9% และขอให้อยู่ต่อ 48.1% ซึ่งจากผลที่ได้ ทำให้อังกฤษนั้นออกจาก EU หลายคนอาจสงสัยว่าออกแล้วคืออะไรแล้วมีผลกระทบอะไรบ้าง วันนี้เราจึงจะมาสรุปให้ดูกัน

สหภาพยุโรป EU

EU คืออะไร

EU(European Union)หรือ สหภาพยุโรป
หมายถึง ประเทศที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด 27 ประเทศคือ

ประเทศ ในสหภาพยุโรป

 

  1. เยอรมัน
  2. อิตาลี
  3. เอสโตเนีย
  4. มอลตา
  5. ออสเตรีย
  6. ฟินแลนด์
  7. เนเธอร์แลนด์
  8. โปรตุเกส
  9. เบลเยียม
  10. สโลวีเนีย
  11. ฝรั่งเศส
  12. สาธารณรัฐเช็ก
  13. บัลแกเรีย
  14. สเปน
  15. โปแลนด์
  16. โรมาเนีย
  17. ไซปรัส
  18. สวีเดน
  19. ไอร์แลนด์
  20. โครเอเชีย
  21. กรีซ
  22. ลักเซมเบิร์ก
  23. ลัตเวีย
  24. เดนมาร์ก
  25. ฮังการี
  26. สโลวาเกีย
  27. ลิทัวเนีย

วัตถุประสงค์ของตั้ง EU นั้น

  • เพื่อรวบรวมระบบเศรษฐกิจ และความร่วมมือในการพัฒนาสังคม
  • เพื่อยกระดับการดำรงชีวิตของประชากรขายยุโรปให้ดีขึ้น
  • เพื่อจัดตั้งสหภาพศุลกากรโดยขจัดอุปสรรคต่างๆทางการค้าระหว่างประเทศ

ทำไมอังกฤษถึงต้องการออกจากสหภาพยุโรป

สาเหตุหลักๆมาจาก ปัญหาหนี้ในยุโรป การเข้ามาทำงานของคนต่างชาติ และปัญหาผู้อพยพเข้ามาใน EU  รวมทั้งที่ อังกฤษนั้นต้องเสียค่าสมาชิกรายปีให้กับ EU ปีล่ะ สองหมื่นล้านและปัญหาผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่เข้ามายังอังกฤษ โดยเฉพาะผู้ลี้ภัยจากสงคราม ส่วนหนึ่งเข้ามาแล้วก่อปัญหาให้ประเทศ โดยประเด็นทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องที่ลูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นหลายครั้งแล้ว จนนาย เดวิด คาเมรอน ได้ให้สัญญาว่าถ้าตนได้รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี จะมีการทำมติในเรื่องนี้นั้นเอง

 ผลกระทบที่เกิดจากอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป

เศรษฐกิจ อังกฤษ

เศรษฐกิจของอังกฤษ 
หลังจากที่อังกฤษเลือกที่จะออกจากสหภาพยุโรป จะเห็นได้เลยว่าสินค้านำเข้าและสินค้าส่งออกนั้นจะลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะอังกฤษที่มีการส่งออกทางตลาดให้กับ EU นั้นถึง 44 % แต่ยังมีเวลาเจรจาด้านการค้ากับ EU อยู่เนื่องจากการถอนตัวจากอังกฤษนั้นจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ถ้าหากไม่เจรจาอังกฤษจะต้องเสียภาษีมากในการส่งสินค้าไปจำหน่ายใน EU

ค่าเงิน
อังกฤษนั้นใช้หน่วยเงินเป็น ปอนด์ ซึ่งหลังจากประกาศว่า อังกฤษออกจาก EU แล้ว ค่าเงินปอนด์ ปรับลดลงอย่างมากโดยลดลงเกือบ 10% เหลือ 1 ปอนด์ต่อ 1.3 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่จะตามมา และไม่ใช่แค่เงินปอนด์เท่านั้นเงินยูโรก็ตกลงแต่ไม่มากเท่าเงินปอนด์

ระบบการศึกษา
จาการที่อังกฤษออกจาก EU ทำให้นักศึกษาไม่ว่าจะเป็นชาวอังกฤษเองหรือนักศึกษาประเทศอื่นๆคิดว่าการออกจาก EU จะส่งผลในทางลบต่องานของตนในอนาคต  นอกจากความวิตกกังวลแล้วยังอาจสร้างปัญหาให้นักศึกษาที่ยังศึกษาอยู่ในอังกฤษด้วย โดยเฉพาะค่าเล่าเรียนที่อาจจะแพงขึ้น และการทำงานขณะเรียนคงเป็นเรื่องยากขึ้นจนถึงขั้นไม่สามารถหางานระหว่างเรียนได้

ผลกระทบกับการท่องเที่ยว

ผลกระทบที่เห็นได้ชัดเลยคือ ค่าเงินปอนด์ลดลง ทำให้คนไทยสามารถเที่ยวในประเทศอังกฤษถูกลงประมาณ 10 % เมื่อค่าเงินปอนด์ถูกลงจึงทำให้ ที่พักและอาหารการกิน ถูกลงตามไปด้วย ส่วนเรื่องวีซ่านั้นปกติแล้วการเข้าไปยังประเทศอังกฤษนั้นไม่ได้ใช้ วีซ่าเชงเก้นอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา
ส่วนผลระยาวนั้น การที่อังกฤษออกจาก EU จึงทำให้คนทำงานในอังกฤษน้อยลง การซื้อของเข้าประเทศจาก EU สูงขึ้น(ภาษีสำหรับประเทศนอกEU)
จึงทำให้ อาหารการกินแพงขึ้นขึ้น ค่าที่พักจึงขึ้นไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาจจะมีเปลี่ยนแปลงอีกก็ได้เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน

ถ้าใครอยากจะไปเที่ยวอังกฤษ แนะนำให้ไปช่วงนี้เลยเพราะค่าเงินปอนด์ที่ถูกลงทำให้ลดค่าใช้จ่าย ที่กิน ที่พัก ได้เยอะขึ้นครับ

Klook.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า