15 ที่เที่ยวจอร์เจีย 2024 ทวีปเอเชียแต่ฟีลยุโรป สถาปัตยกรรมสวยแบบเต็มสิบ จุดเช็คอินโดนๆ

เป็นประเทศที่มาแรงและเป็นไวรัลมากๆอย่างประเทศจอร์เจีย ซึ่งเป็นประเทศที่โด่งดังมากในตอนนี้ตอนนี้กับสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ไวน์ราคาถูก ธรรมชาติอลังการอย่างกับหลุดมาจากภาพวาด ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะเข้าไปสัมผัสกับตา ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ต้องทำวีซ่าและแถมยังได้อยู่ยาว 365 วันเลยทีเดียว อยู่เที่ยวกันเป็นเดือนๆแบบไม่ต้องกังวลกันเลย สภาพอากาศที่หลากหลาย ทำให้ประเทศจอร์เจียมีนักท่องเที่ยววางแผนมาเที่ยวตลอดทั้งปี โดยสภาพอากาศทางตะวันตกจะอบอุ่นมากกว่าทางด้านตะวันออกเพราะติดอยู่ดับทะเลดำ และจอร์เจียยังเป็นประเทศที่ค่าครองชีพถูกมากๆ พอๆกับการอยู่ในประเทศไทยเลยและเที่ยวง่ายอีกด้วย วันนี้พวกเรา CheckinChill จะพาทุกคนไปเที่ยว 15 ที่เที่ยวจอร์เจีย 2024 ทวีปเอเชียแต่ฟีลยุโรป สถาปัตยกรรมสวยแบบเต็มสิบ จุดเช็คอินโดนๆ


วิหารศักดิ์สิทธิ์ (Holy Trinity Cathedral)

วิหารศักดิ์สิทธิ์ (Holy Trinity Cathedral) เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์โธดอกจอร์เจีย ตั้งอยู่ในทบิลิซีเมืองหลวงของจอร์เจีย ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Mtkvari และสามารถมองเห็นได้จากเกือบทุกส่วนของเมือง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1995 โครงสร้างภายนอกสร้างขึ้นโดยผสมผสานระหว่างสไตล์จอร์เจียนและไบแซนไทน์แบบดั้งเดิม ส่วนภายในตกแต่งหรูหราด้วยจิตกรรมฝาผนังโมเสกที่สวยงามและรองรับผู้เข้าชมได้ถึง 10,000 คน และหอระฆังที่มีความสูง 73 เมตร มีระฆัง 9 ใบ จะมีทีมนักตีระฆังทำให้เกิดเสียงไพเราะที่สามารถได้ยินไปทั่วทั้งเมือง ที่นี่ไม่เพียงเป็นสถานที่มีพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกด้วย

วิหารศักดิ์สิทธิ์ โดย ShutterStock

📍  ชื่อสถานที่ : วิหารศักดิ์สิทธิ์ Holy Trinity Cathedral
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +995571002942
🔎  เว็บไซต์ : tbilisilocalguide.com
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 22.00
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/2LyNqZ4DHRSPHrnF8


อนุเสาวรีย์แห่งจอร์เจีย Mother of Georgia

อนุเสาวรีย์แห่งจอร์เจีย โดย Grzegorz Majchrzak

อนุเสาวรีย์แห่งจอร์เจีย (Mother of Georgia) อนุเสาวรีย์ อลูมิเนียมยาว 20 เมตรของสตรีในชุดประจำชาติจอร์เจีย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจอร์เจีย และเป็นอนุเสาวรีย์ในเมืองหลวงของเมืองทบิลิซี โดยมือซ้ายถือชามไวน์เพื่อทักทายผู้ที่มาเยือนแบบเป็นมิตร ส่วนข้างขวาของเธอถือดาบไว้สู้กับผู้ที่เข้ามาเป็นศัตรู ซึ่งเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง การต้อนรับ และธรรมชาติที่เป็นมิตรของประเทศ ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขา Sololaki ในปี 1958 ซึ่งเป็นปีที่ทบิลิซีฉลองครบ 1,500 ปี โดยมี Elguja Amashukeli เป็นผู้ออกแบบ วิธีที่จะเดินทางขึ้นไปที่อนุเสาวรีย์แห่งนี้จะต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ซึ่งเนินเขาก็ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองทบิลิซีและนักดนตรีเปิดหมวกข้างถนนจำนวนมากแสดงเพลงไพเราะและสร้างสีสันให้บริเวณนี้ดูสนุกสนานมากขึ้น


อนุเสาวรีย์แห่งจอร์เจียจากมุมด้านล่าง โดย Mori Hiro (Hiro Boy Travel)

อนุเสาวรีย์แห่งจอร์เจียมุมด้านข้าง โดย ShutterStock

📍  ชื่อสถานที่ : อนุเสาวรีย์แห่งจอร์เจีย Mother of Georgia
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/ZwPfLEtqwiU1m5dUA


โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน (Sulphur Bath)

โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน โดย ShutterStock

โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน (Sulphur Bath) ห้องอาบน้ำกำมะถันส่วนใหญ่ของทบิลิซี ตั้งอยู่ในเขต Abanotubani ติดกับแม่น้ำและไม่ไกลจาก Old Median Abanotubani เป็นย่านที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งของทบิลิซี โดดเด่นด้วยโดมอิฐที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นเหมือนเนินดิน การออกแบบนี้ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องอาบน้ำ และช่วยระบายอากาศเพื่อให้ไอน้ำของกำมะถันออกมา ผู้คนท้องถิ่นเชื่อว่าน้ำพุร้อนกำมะถันแห่งนี้ดีต่อสุขภาพมากๆ ช่วยรักษาโรคต่างต่างๆ ตั้งแต่หัวใจไปจนถึงสะเก็ดเงิน

ทางน้ำไหล โดย ShutterStock

ห้องอาบน้ำกำมะถัน โดย Anna Makarov

📍  ชื่อสถานที่ : โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน (Sulphur Bath)
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +995322930093
🔎  เว็บไซต์ : chreli-abano.ge
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 23.00 น.
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/kGBc4NNDWJU5NCrF6


สะพานแห่งสันติภาพ (Bridge Of Peace)

สะพานแห่งสันติภาพ โดย ShutterStock

สะพานแห่งสันติภาพ (Bridge Of Peace) เป็นสะพานที่ความยาว 150 เมตรเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองเก่าและตัวเมืองใหม่ของทบิลิซี โครงสร้างหลักมาจากเหล็กและกระจกใส ที่ความสวยงามและแข็งแรงมาก ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีความสวยงามชิ้นหนึ่งของจอร์เจีย กลางคืนจะเปิดไฟได้เห็นแสงสีที่สวยงามจากสะพานนี้ เป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในเมืองทบิลิซี


สะพานสันติภาพ โดย Diaa Vlogs


สะพานแห่งสันติภาพในเวลากลางคืน โดย Nikita Murdasov

📍  ชื่อสถานที่ : สะพานแห่งสันติภาพ Bridge Of Peace
⌚  เวลาทำการ : เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/geBP2DKZYwPpPZbh9


จตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square)

จตุรัสเสรีภาพ โดย ShutterStock

จตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square) หรืออีกชื่อหนึ่ง Liberty Square เป็นวงเวียนที่มีชื่อเสียงและเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเมืองทบิลิซีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มาจอร์เจียแล้วคงต้องได้เห็นกันทุกคน บริเวณนี้รายล้อมไปด้วยที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร และที่เดินเล่นกันเพลินตามตรอกซอยของมุมถนนต่างๆ เหมือนเป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ ที่นี่เคยผ่านการเปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง และเปลี่ยนมาเป็น Freedom Square ในปัจจุบันเมื่อจอร์เจียได้รับอิสรภาพจากการเป็นส่วนหนึ่งของโซเวียต


จตุรัสเสรีภาพ โดย adel nawati


นักดนตรีเปิดหมวกที่จตุรัสเสรีภาพ โดย Sebastian Richter

📍  ชื่อสถานที่ : จตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square)
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +995593914892
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/mZJfkJTJ9ZvurWWa8


ร้านอาหาร Khinkali House


Khinkali House โดย Apparatus Tooth Things

แวะรับประทานอาหารกันที่ Khinkali House เป็นร้านอาหารจอร์เจียแบบดั้งเดิมในใจกลางเมืองทบิลิซี ให้บริการอาหารแบบดั้งเดิมที่ชวนน้ำลายสอเปิดให้อิ่มอร่อยได้ตลอดแบบ 24 ชั่วโมง มีการตกแต่งภายในที่สะดวกสบายด้วยองค์ประกอบคลาสสิก งานศิลปะบนผนังภายในร้านทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสบาย นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นจะได้เพลิดเพลินกับอาหารหลายอย่างและเมนูที่มาจอร์เจียแล้วต้องลองคือ khinkali เป็นเกี๊ยวยักษ์จอร์เจีย หน้าตาจะคล้ายๆกับเซี่ยวหลงเปา ภายในด้านในตัวเกี๊ยวส่วนใหญ่จะทำมาจากเนื้อแกะ เนื้อวัว เนื้อหมูและชีส แล้วจะมีน้ำซุปอยู่ด้านใน ซึ่งเวลาทานจะต้องใช้มือจับแทนการใช้ซ้อมและตะเกียบ เป็นอาหารพื้นเมืองของคนจอร์เจียที่สืบทอดกันมาตั้งแต่เดิม อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหน แนะนำให้ไปลองถึงที่ค่ะ


Khinkali House โดย Nigel Peres


เกี๊ยวยักษ์จอร์เจีย โดย khinkali-house-in-avlabari

📍  ชื่อสถานที่ : Khinkali House
📞 เบอร์โทรศัพท์ : 557 42 11 88
🔎  เว็บไซต์ : khinkali-house-in-avlabari
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 02.00 น.
🔗 Facebook : Khinkali House
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/bMX9bDzG57JKYjNk8


ธารน้ำแข็งชลาดีกราเซียร์ (Chalaadi Glacier)

ธารน้ำแข็งชลาดีกราเซียร์ โดย ShutterStock

ธารน้ำแข็งชลาดีกราเซียร์ (Chalaadi Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่อยู่ห่างจากเมืองเมสเทียประมาณ 15 กิโลเมตร ทางเดินโดยรอบจะปกคุลมไปด้วยป่าสนตลอดทาง โดยเส้นทางการเดินนั้นจะเป็นทางชันสลับกับทางลาด และจะมีบางช่วงที่มีความชัน ส่วนพื้นทางเดินส่วนใหญ่นั้นจะเป็นดินผสมกรวด รวมถึงบางจุดเราต้องเดินบนหินขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง มีหินก้อนเล็กใหญ่หน้าตาแปลกอยู่ตามรายทางให้วิวธรรมชาติที่สวยไปอีกแบบเป็นการเดินเท้าที่คุ้มมากๆกับวิวธารน้ำแข็งมหึมากลางภูเขาที่สวยงาม โดยหากใครไปในช่วงเดือนตุลาคมก็จะเห็นสายน้ำที่ไหลมาจากกราเซียร์ใสและเยอะกว่าในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม เพราะในช่วงเดือนมิถุนายนนั้นจะเป็นช่วงที่หิมะพึ่งละลาย ปริมาณของน้ำจะยังไม่มากและน้ำจะมีความขุ่นดำจากการชะล้างหน้าดิน

ธารน้ำแข็งชลาดีกราเซียร์ โดย ShutterStock สะพานเดินข้ามไปยังธารน้ำแข็งชลาดีกราเซียร์ โดย ShutterStockทางเดินไปยังธารน้ำแข็งชลาดีกราเซียร์ โดย Санин Андрей

📍  ชื่อสถานที่ : ธารน้ำแข็งชลาดีกราเซียร์ (Chalaadi Glacier)
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/SVm9QXcpPwE5BWSN8


ทะเลสาบคอรูลดี (Koruldi Lake)

ทะเลสาบคอรูลดี (Koruldi Lake) ทะเลสาบที่ราบสูงบนภูเขาหิมะ เป็นทะเลสาบขนาดเล็ก ที่มีอากาศสดชื่นและบริสุทธิ์ โดยเฉพาะหน้าหนาว ที่นี่จะมีความสวยและอลังการมากๆจากน้ำแข็งที่ปกคลุมรอบๆทะเลสาบ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของสายลุย ผู้ที่รักในการเดินป่าและการเทรคกิ้ง (Trekking) ซึ่งระยะเวลาการเดินขึ้นไปยังทะเลสาบจะใช้เวลาราว 7 ชั่วโมง ระยะทางไป-กลับประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนใครที่ไม่ใช่สายลุยก็จะมีวิธีขึ้นไปแบบไม่เหนื่อยมาก โดยการนั่งม้า และ การนั่งรถ ก็สามารถนั่งดูวิวสองข้างทางกันได้แบบเพลินๆ แนะนำให้ใช้บริการของ Local Guide ที่อยู่ในระแวกนั้นเพราะเขาจะชินทางมากกว่า เพราะทางค่อนข้างโหดมาก เป็นหลุมเป็นแอ่งและมีเหว บอกได้เลยว่าวิวที่จะได้เห็นคุ้มค่ากับการเดินทางขึ้นมาจริงๆค่ะ

ทะเลสาบคอรูลดี โดย ShutterStock

📍  ชื่อสถานที่ : ทะเลสาบคอรูลดี (Korudi Lake)
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/sSWh6Pq1Uqq11mTHA


หมู่บ้านกลางหุบเขา (Ushguli Village)

หมู่บ้านกลางหุบเขา (Ushguli Village) เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีประชาชนเพียง 300 คน ตั้งอยู่ในภูมิภาค Upper Svaneti บนแนวเทือกเขาคอเคซัส ในหมู่บ้านนี้จะเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ วัฒนธรรมที่สืบต่อกันมา และบรรยากาศรายล้อมไปด้วยเนินเขา ธรรมชาติรอบหมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์ จึงทำให้หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในชื่อ Upper Svaneti ทัศนียภาพของที่นี่เหมาะกับการมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละช่วงก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป หน้าร้อนก็จะเต็มไปด้วยเนินเขาสีเขียวขจีตัดกับท้องฟ้ากว้างสีสวยและดอกไม้ที่ผลิบานทั่วทุ่งหญ้า ส่วนฤดูหนาวที่นี่ค่อนข้างหนาวจัด รอบด้านจะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ตามหลังคาบ้านหรือภูเขาจะเป็นสีขาวราวกับภาพวาดเลยค่ะ และจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เย็นจับใจแน่นอน

หมู่บ้านกลางหุบเขา โดย ShutterStock

📍  ชื่อสถานที่ : หมู่บ้านกลางหุบเขา (Ushguli Village)
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/8ykcegZbkmAhEigMA


ถ้ำโพรเมธีอุส (Prometheus Cave)

ถ้ำโพรเมธีอุส (Prometheus Cave) ถ้ำโพรเมธีอุส เป็นถ้ำที่มีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติได้มีการปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และเป็นหนึ่งในถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในจอร์เจีย ก่อตัวขึ้นในเทือกเขา Sataphlia-Tskaltubo karst เขตเทศบาล Tskaltubo หมู่บ้าน Kumistavi ด้วยความยาว 1420 เมตรในถ้ำและมีโถงทั้งหมด 22 โถง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแค่ 6 โถง ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อย หินทราย น้ำตก หินถ้ำ แม่น้ำใต้ดินและทะเลสาบ ซึ่งหินในแต่ละห้องก็จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป และด้านในมีการประดับไฟที่มีสีสันสวยงามตามรูปทรงของหินต่างๆ ซึ่งถ้ำแห่งนี้สามารถเดินทางด้วยเท้าหรือนั่งเรือเข้ามาได้ เพราะด้านในมีการปรับปรุงทางน้ำทำให้เดินทางโดยเรือได้

ถ้ำโพรเมธีอุส โดย ShutterStock

📍  ชื่อสถานที่ : ถ้ำโพรเมธีอุส (Prometheus Cave)
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +995577101417
🔎  เว็บไซต์ : nationalparks.ge
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 17.00 น.
🔗 Facebook : https://www.facebook.com/nationalparksofgeorgia/
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/WaBwwSKYPWAWpE9J8


  รูปปั้นคู่รัก (Ali and Nino)


รูปปั้นคู่รัก โดย Mehmet Şerif Tunç

รูปปั้นคู่รัก (Ali and Nino) เป็นรูปปั้นชายมุสสลิมชื่อ Ali และ Nino หญิงสาวชาวคริสเตียน ซึ่งทั้งคู่ได้พรัดพรากจากกันเนื่องจากการรุกรานของโซเวียต เป็นรูปปั้นที่มีความสูง 8 เมตร ถูกออกแบบโดยศิลปินที่ชื่อว่า Tamara Kvesitadze โดยได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายชื่อดังเรื่อง Kurban สถาปัตยกรรมสุดแปลกนี้ตั้งอยู่ในเมืองบาทูมี ความพิเศษของรูปปั้นนี้สามารถเคลื่อนไหวได้ จะค่อยๆเคลื่อนที่ทีละนิดแล้วมาบรรจบกัน เหมือนว่าทั้งสองกำลังจูบกันอยู่และก็ค่อยๆเลื่อนออกจากกันไปในที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงโศกนาฎกรรมความรักของทั้งคู่ที่จะต้องจากกันไปตลอดกาล นักท่องเที่ยวให้ความสนใจในสถาปัตยกรรมนี้มากๆ และสามารถรับชมการเคลื่อนไหวของรูปปั้นนี้ได้ในเวลา 19.00 ของทุกวัน


รูปปั้นคู่รักในเวลากลางคืน โดย Aleksandre Gogiashvili


รูปปั้นคู่รัก โดย Mavic

📍  ชื่อสถานที่ : รูปปั้นคู่รัก (Ali and Nino)
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/THBf8hiv6egg1KEs7


พงศาวดารจอร์เจีย (Chronicles of Georgia)

พงศาวดารจอร์เจีย (Chronicles Of Grorgia) ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่สามารถมองลงมาทะเลสาบ Tbilisi Sea ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่สร้างขึ้นและเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่สามารถมองเห็นเมืองทบิลิซีได้อย่างชัดเจน ที่นี่เป็นอนุเสาวรีย์ที่บอกเล่าเรื่องราวของประเทศจอร์เจียตั้งแต่ที่มีการรับศาสนาคริสต์เข้ามาในประเทศเมื่อราว 1700 ปีก่อน ซึ่งเสาแต่ละต้นจะมีขนาดใหญ่มากๆ และสูงถึง 35 เมตร ความยิ่งใหญ่ของที่นี่ได้มีผู้คนขนานนามว่าเป็นสโตนเฮนจ์ของทบิลิซี ตรงนี้ก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจและเข้ามาชมความอลังการของที่นี่เป็นจำนวนมาก

พงศาวดารจอร์เจีย โดย ShutterStock

📍  ชื่อสถานที่ : พงศาวดารจอร์เจีย (Chronicles Of Grorgia)
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/CgjGoUZWFyNSB6LC8


อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument)

อนุเสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย โดย fonsanhaa

อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument) เป็นอนุเสาวรีย์สนธิสัญญา Georgyevsk เป็นจุดที่เรียกว่า Gudauri View Point ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญสำหรับการมาท่องเที่ยวในจอร์เจีย รัฐบาลสหภาพโซเวียตสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีตั้งแต่สนธิสัญญา Georgievs ได้ลงนามในปี 1783 เป็นอนุเสาวรีย์ภาพพาโนรามาตกแต่งสไตล์โมเสกที่แสดงภาพวีรบุรุษของชาวจอร์เจียและรัสเซีย ชาวนา เทพนิยาย เป็นภาพที่ทำจากกระเบื้องที่มีสีสันสดใสและสวยงามมาก ความสูงขนาด 600 เมตรพร้อมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเทือกเขาคอเคซัส และจุดนี้ยังสามารถมองเห็นหุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) ได้อีกด้วย และบริเวณรอบอนุเสาวรีย์นี้ยังเป็นศูนย์รวมของผู้ที่ชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่างการกระโดดร่ม Paragliding พร้อมชมความสวยงามของเทือกเขาและธรรมชาติรอบๆ


อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย โดย Sujith Kumar K. V.


อนุเสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย โดย Bartosz Bolewski

📍  ชื่อสถานที่ : อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument)
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +995557608676
🔎  เว็บไซต์ : kartvelitours.com
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/ae9X2yCCjVfwdaGH8


โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church)

โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) โบสถ์คริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศจอร์เจียที่อยู่กลางหุบเขาคอเคซัส สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่และอยู่บนยอดเขาที่มีความสูงถึง 2,170 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล แม้การเดินทางโดยเท้าจะค่อนข้างยากลำบากต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง หรือถ้าใช้รถต้องใช้รถแบบ 4W ขึ้นมาประมาณ 30 นาที แต่บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการขึ้นมาอย่างแน่นอน ด้วยวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาคอเคซัสที่โอบรอบโบสถ์นี้ ทำให้ทุกคนเพลิดเพลินจนลืมเหนื่อย ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดูสวยและแปลกตา ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

โบสถ์เกอเกติ โดย ShutterStock

📍  ชื่อสถานที่ : โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church)
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +995598978998
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 9.00 – 17.00 น.
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/nqNETNSydRzrQonW8


เมืองถ้ำโบราณ (Uplistsikhe)

เมืองโบราณ (Uplistsikhe) เป็นป้อมปราการของขุนนางในสมัยก่อน ตั้งอยู่ในหินผา ใช้การขุดเจาะให้กลายเป็นถ้ำ เพื่อเป็นหลุมหลบภัยและที่อยู่อาศัย โบราณสถานเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี  ซึ่งองค์กร UNESCO ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกไปแล้ว เมืองถ้ำแห่งนี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศจอร์เจียร์อีกด้วย ด้วยความสวยงามและความน่าทึ่งของความสามารถมนุษย์ยุคโบราณทำให้ที่นี่เป็นที่น่าสนใจของนักโบราณคดีและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก

เมืองโบราณ โดย ShutterStock

📍  ชื่อสถานที่ : เมืองโบราณ (Uplistsikhe)
⌚  เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 17.00 
🗺  Google Map : https://goo.gl/maps/wQSzLfex7QCjvDrr8


ไม่ว่าจะฤดูไหนก็สามารถไปเที่ยวจอร์เจียได้ตลอดทั้งปีอยู่ที่ว่านักเดินทางจะชอบแบบไหน ฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคมเที่ยวอากาศสบายๆ ฤดูร้อนอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม สำหรับใครที่กลัวหนาวมาหน้านี้ได้เลยแดดแรงได้ใจ ฤดูใบไมร่วงอยู่ในช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน เป็นช่วงที่อากาศเริ่มเย็นมีใบไม่เปลี่ยนสีให้ฟีลเหมือนนางเอกเอ็มวี และฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ จะมีหิมะตก ปกคลุมทุกพื้นที่จนขาวโพลน อุณภูมิอยู่ที่-4 – 8 องศาเตรียมอุปกรณ์กันหนาวจัดเต็ม เลือกเที่ยวอากาศแบบที่ชอบกันได้เลย โดยแต่ละที่ในจอร์เจียก็มีสถาปัตยกรรมที่สวยแบบเต็มสิบ ธรรมชาติงามตา แต่งตัวสวยๆลุคคุณหนูถ่ายรูปฟีลยุโรปลงโซเชี่ยลกันรัวๆไปเลย ได้เปิดประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศที่พิเศษแบบไม่รู้ลืมแน่ๆ ค่าครองชีพก็เท่าๆกับประเทศไทยบ้านเราอีกด้วย และนักท่องเที่ยวชาวไทยก็สามารถเที่ยวได้แบบสบายๆฟรีวีซ่า อยู่ได้ถึง 365 วันกันเลยทีเดียว แต่ถ้าใครที่ขับรถเป็นแนะนำให้เช่ารถขับกันไปเลยค่ะ หารกับเพื่อนๆคุ้มมากๆ เพราะที่จอร์เจียสามารถขับรถเที่ยวด้วยตัวเองได้ แต่ก็จะต้องมีใบขับขี่สากลกันก่อนนะคะ ก่อนไปก็จองคิวทำใบขับขี่สากลที่ขนส่งได้ขั้นตอนง่ายมากๆ สำหรับใครที่อยากไปแบบชิวๆก็เช่ารถพร้อมคนขับก็เวิร์คสุดๆเพราะ Local Guide ที่จอร์เจียชำนาญทางมากๆ ดีขนาดนี้เป็นไวรัลก็ไม่แปลกแล้ว ใครที่จะไปเที่ยว 15 ที่เที่ยวจอเจียร์ 2024 ทวีปเอเชียแต่ฟีลยุโรป สถาปัตยกรรมสวยแบบเต็มสิบ จุดเช็คอินโดนๆ ตามพวกเรากันมาได้เลยน้าา

อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี ? 10 ประเทศ น่าเที่ยว ที่ควรไปสัมผัสสักครั้ง ในปี 2024

Tags :
Klook.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า