“ชิเรโทโกะ” ชมความงามทะเลสาบทั้งห้า ล่องเรือผ่านธารน้ำแข็ง สัมผัสธรรมชาติเกาะฮอกไกโด
Shiretoko เป็นคาบสมุทรที่มีความสวยงาม โดยมีความหลากหลายทางธรรมชาติ เเละมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนเป็นที่เลื่องลือของฮอกไกโดเป็นอย่างยิ่ง โดยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยมีจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ มากมายบริเวณเเห่งนี้เเละมีกิจกรรมในการมาท่องเที่ยวมากมายอีกด้วย ว่าแต่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวใดบ้างที่ทาง CheckInChill จะหยิบยกมานำเสนอ สามารถติดตามข้อมูลได้จากด้านล่างเลยครับ
การมาท่องเที่ยวใน คาบสมุทรชิเรโทโกะ นั้นมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกันเเละหนึ่งในนั้นก็คือในเรื่องของการล่องเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ตามแนวชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรชิเรโทโคะ โดยเรือนำเที่ยวทั้งหมดนั้นจะออกจากท่าเรือในเมืองอูโทโร่
โดยการล่องเรือเพื่อชมความสวยงามของ Shiretoko นั้นสามารถเลือกเส้นทางเเละเรือได้หลายเเบบด้วยกันอย่าง เรือออโรร่าขนาดใหญ่ นั้นจะมีขนาดใหญ่ เเละมีดาดฟ้าสำหรับชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ เเละมีเส้นทางล่องเรือจนถึงปลายคาบสมุทร
Shiretoko Five Lakes
Shiretoko Five Lakes นั้นเป็นทะเลสาบที่มีขนาดเล็กจำนวน 5 เเห่งด้วยกัน โดยตั้งอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน เเละเกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟอิโอะเหมือนกัน พร้อมกับมีน้ำพุจากใต้ดินไหลออกมาที่ทะเลสาบทั้ง 5 นั่นเอง โดยชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่าเหมือนกับนิ้วมือทั้ง 5 ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งหากมองจากมุมสูงเเล้วก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงตามคำกล่าวข้างต้นเป็นอย่างยิ่ง
วิวทิวทัศน์ของ ทะเลสาบทั้งห้าชิเรโทโกะ นั้นมีความสวยงามเป็นอย่างมาก เพราะจะมีภูเขาโอบล้อมเอาไว้ โดยมีผืนหญ้าที่มีความสวยงาม เป็นช่องทางในการเดินทางเข้าไปถึงทะเลสาบเหล่านี้
โดยจุดที่น่าสนใจมากที่สุดก็เห็นจะเป็นในส่วนของสะพานไม้ยกระดับที่มีความยาวกว่า 800 เมตร ซึ่งเป็นเส้นทางในการเดินเที่ยวชมความสวยงามของทะเลสาบเหล่านี้ โดยสามารถชมความงดงามของทั้งทะเลสาบ ภูเขาที่ล้อมรอบอยู่ เเละทะเลโอค็อตสค์ ได้อีกด้วย นับว่าเป็นจุดที่น่าสนใจโดยจุดเริ่มต้นของสะพานจะเชื่อมกับลานจอดรถบริเวณทะเลสาบเเห่งเเรก นับว่ามีความสวยงามเเละน่ามาเดินเล่นเป็นอย่างมาก
การเดินเที่ยวชมทั้งหมดก็จะใช้เวลาในการเดินประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเป็นอย่างน้อย เเต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเเห่งนี้ได้มีการจำกัดนักท่องเที่ยวในการเที่ยวชมอีกด้วย โดยในช่วงของเวลาเปิด-ปิดในเเต่ละช่วงเวลาเเละเส้นทางในการเดินท่องเที่ยวนั้นจะมีความเเตกต่างกันออกไปในเเต่ละฤดูกาล โดยที่สำคัญที่สุดคือในฤดูหนาวจะมีการปิดไม่ให้เข้ามาเที่ยวชมทั้งหมด
แผนที่ Shiretoko Five Lakes
ส่วนการเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของ ทะเลสาบทั้งห้าชิเรโทโกะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ JR Shiretoko Shari Station จากนั้นให้ใช้บริการของรถบัส Shhari Bus มาลงที่ป้ายหน้าลานจอดรถ โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 85 นาที เเละเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางประมาณ 2,000 เยนต่อเที่ยว โดยในช่วงเดือนเมษายนจนถึงเดือนตุลาคม จะมีรถบัสจากเมืองอูโทโร่ มาถึงที่นี่อีกด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที เเละเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางประมาณ 700 เยน
Furepe Waterfall
Furepe Waterfall เเล้วนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามเเละน่าสนใจอีกเเห่งของชิเรโทโกะ โดยเป็นน้ำตกที่มีสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาที่สูงชันเเล้วพุ่งลงไปในทะเลโอค็อตสค์ บนชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรชิเรโทโกะ โดยเป็นน้ำที่มีจุดกำเนิดมาจากใต้ดิน นับว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามเเละเเปลกเป็นอย่างยิ่ง จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
น้ำตกฟูเรเป้ เป็นสถานที่ที่ท่องเที่ยวนิยมเข้ามาชมความสวยงามของธรรมชาติ โดยเส้นทางนั้นจะป่านทุ่งหญ้าที่มีความสวยงาม เเละจะมาถึงในส่วนของจุดชมวิวน้ำตกที่จะสามรถมองเห็นหน้าผาที่มีสายน้ำของน้ำตกพุ่งตกลงไปในทะเลได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็นภาพที่สวยงามเเละสร้างความตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้เเล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถ ล่องเรือเพื่อไปเที่ยวชมความสวยงามของ Furepe Waterfall ที่มีมุมมองเที่เเตกต่างกันออกไปได้อีกด้วย นับว่าเป็นอีกกิจกรรมที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาลองสัมผัสดู โดยน้ำตกเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมในเวลา 8.00 น. จนถึงเวลา 17.40 น. ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนตุลาคม ส่วนช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนเมษายน นั้นเปิดให้เข้าชมในเวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 17.40 น. โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมเเต่อย่างใด
แผนที่ Furepe Waterfall
ทางด้านของการเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของ น้ำตกฟูเรเป้ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟเจอาร์มาลงที่สถานีรถไฟ JR Utoro เเล้วให้ใช้บริการของรถบัสประจำทาง Shari Bus จากป้ายหน้าสถานี มาลงที่ป้ายหน้าทางเข้าน้ำตก โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 70 นาที เเละเสียค่าโดยสารประมาณ 1,800 เยน โดยเปิดบริการเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายนวันละ 1 เที่ยวเท่านั้น ส่วนช่วงฤดูหนาวสามารถใช้บริการของรถบัสจากเมืองอูโทโร่ ไปลงที่ป้าย Kamuiwakkayu Falls โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสารคนละ 340 เยน
Kamuiwakkayu Falls
Kamuiwakkayu Falls นั้นน้ำตกที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เเละด้านบนของมันในอดีตเคยเป็นเเหล่งน้ำพุร้อนที่ดีที่สุในญี่ปุ่น ก่อนที่มันจะถูกปิดเพราะมีความอันตรายเป็นอย่างมาก ทำให้ในปัจจุบันนั้นสามารถชมความสวยงามของตัวน้ำตกได้อย่างเดียว เเต่ก็ยังนับว่ามีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมอยู่ดี
น้ำตกคามูอิวักกะยู นั้นมีความสูงเป็นอย่างยิ่ง เเละอุณหภูมิของน้ำจะไล่จากอุณหภูมิสูงมากๆ ที่ด้านบนของน้ำตก เเละอุณหภูมิจะค่อยๆ ลดลงตามลำดับเมื่อถึงชั้นล่าง ซึ่งในสมัยก่อนนั้นนักท่องเที่ยวสามารเดินขึ้นไปด้านบนของน้ำตกได้ โดยต้องเดินผ่านโขดหิน เเละเดินตามลำธารที่มีน้ำอุ่น เเละเริ่มร้อนขึ้น โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง โดยต้องเดินลุยน้ำเเละมีการปีนน้ำตกขนาดเล็กๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นที่มาของความอันตรายจนในที่สุดต้องมีการปิดด้านบนของน้ำตกไป
แผนที่ Kamuiwakkayu Falls
สำหรับการเดินทางมายัง น้ำตกคามูอิวักกะยู นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสประจำทาง ที่มีเส้นทางวิ่งผ่านทั้งเมือง Utoro, Shiretoko Nature Center เเละ Shiretoko Five Lakes โดยจะผ่านมาที่ป้ายหน้าทางขึ้นน้ำตกเเห่งนี้ ให้ลงที่ป้าย Kamuiwakkayu Falls โดยใช้เวลาในการเดินทางจากเมืองอูโทโร่ประมาณ 1 ชั่วโมง เสียค่าโดยสารประมาณ 1,980 เยน นอกจากนี้เเล้วมันยังตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบทั้งห้าชิเรโทโกะ เป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถเดินด้วยเท้า หรือจะใช้วิธีการปั่นจักรยานมายังน้ำตกแห่งนี้ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยหากเดินด้วยเท้าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เเต่หากปั่นจักรยานจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
Rausu
Rausu เมืองขนาดใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรชิเรโทโกะ โดยเป็นเมืองตากอากาศอีกเเห่งที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีโรงเเรมที่พักจำนวนมากมายที่มีความหลากหลายสไตล์ เเละระดับราคาจนน่ามาเข้าพักเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับมีบรรยากาศของเมืองที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาลองสัมผัสกับกลิ่นอายของเมืองชายทะเลเป็นอย่างยิ่ง
ภายใน เมืองระอูซุ นั้นเต็มไปด้วยจุดท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจทั้งในส่วนของบรรดาร้านค้าท้องถิ่นมากมาย ที่จำหน่ายสินค้าเเละผลิตภัณฑ์ทางทะเล เเละมีร้านอาหาร รวมถึงในส่วนของ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่ให้ข้อมูลต่างๆ ของเมืองเเห่งนี้ เเละมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวข้องกับเมืองนี้อีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
อีกหนึ่งในชื่อเสียงของ เมืองระอูซุ ก็คือในส่วนของบ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่บนสุดสายของถนนหมายเลข 87 ซึ่งก็มีทั้งในส่วนของ เซเซกิออนเซ็น ซึ่งมีจำนวนสระน้ำหิน 2 เเห่งด้วยกันบริเวณชายหาด
ส่วนทางด้านของ อะอิโดมาริออนเซ็น ก็เป็นสระน้ำที่ตั้งอยู่บนชายหาดมีบรรยากาศเเละวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละหากใช้เส้นทางหมายเลข 87 ไปทางเหนือของเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร ก็จะถึงปลายคาบสมุทร ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเเละในวันที่อากาศเเจ่มใสก็สามารถมองเก็นเกาะคุนาชิริได้อย่างชัดเจน โดยเป็นพื้นที่พิพาทอยู่จนถึงปัจจุบันระหว่างญี่ปุ่นเเละรัสเซีย นับว่าเป็นเมืองอีกเเห่งที่มีมนต์เสน่ห์เเละน่ามาท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
แผนที่ Kamuiwakkayu Falls
การเดินทางมายัง เมืองระอูซุ นั้นสามารถใช้เส้นทาง Shiretoko หรือจะเดินทางมาจากคูชิโร่ก็เป็นระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ส่วนใครที่สนใจจะใช้บริการของรถบัสประจำทางนั้นก็สามารถใช้บริการของรถบัส Shari Bus จากเมืองอูโทโร่ มาถึงเมืองเเห่งนี้ได้ หรือไม่ก็สามารถใช้บริการของรถบัส Akan Bus จากคูชิโร่ ได้เช่นกัน ส่วนระยะเวลาในการเดินทางนั้นจะแตกต่างกันออกไปจากจุดเริ่มต้น และในช่วงฤดูหนาวนั้นเส้นทางบางเส้นจะถูกผิดตัวลงเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
Shiretoko Pass
Shiretoko Pass เเล้วนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเส้นทางคมนาคมบนเกาะฮอกไกโดที่มีความสวยงามเเละเต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาใช้งานตลอดสองข้างทางที่ผ่านไป โดยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวในการเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของเส้นทางเเห่งนี้
โดยที่ เส้นทางชิเรโทโกะ นั้นมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 740 เมตร เป็นเส้นทางถนนที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองอูโทโร่ ทางชายฝั่งด้านทิศจะวันตก กับ เมืองทัสซึ ทางชายฝั่งทิศตะวันออกของคาบสมุทรชิเรโทโกะ ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความน่าสนใจเพราะตัดผ่านบริเวณที่มีทิวทัศงดงามเป็นอย่างมาก ทั้งในส่วนของท้องทะเลที่มีความสวยงาม เเละธรรมชาติสองข้างทางที่มีหลายจุดเหมาะเเก่การมาท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
ความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวบน Shiretoko Pass นั้นก็มีทั้งในส่วนของ ภูเขาราอูซุ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งในภูเขาที่มีความสูงมากที่สุในชิเรโทโกะเลยทีเดียว โดยมีความสุงกว่า 1,661 เมตร ก็เป็นวิวที่มีความสวยงามเเละเป็นอีกจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมักจะไม่พลาดมาเที่ยวชมกัน
แผนที่ Shiretoko Pass
เส้นทางชิเรโทโกะ นั้นมีความยาวประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นเส้นทางหลักในการเชื่อต่อระหว่างเมืองอูโทโร่ กับเมืองทัสซึ โดยสามารถใช้รถยนต์ในการเดินทางได้ เเต่เส้นทางนี้จะปิดลงในช่วงฤดูหนาวระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ส่วนการเดินทางเพื่อผ่านเส้นทางนี้ด้วยรถบัสประจำทางนั้นก็มีบริการ โดยใช้เวลาในการเดินทางระหว่างสองเมืองอยู่ที่ 50 นาที เเละมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 1,380 เยนต่อคนต่อเที่ยว นับว่าสะดวกสบายและน่ามาลองสัมผัสดูซักครั้ง
Oshinkoshin Falls
Oshinkoshin Falls นั้นเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามเเละเป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งที่ตั้งของมันนั้นจะอยู่ติดกับถนนสายหลักที่มาจากซาอะริไปยังเมืองอูโทโร่ ทำให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางมาเที่ยวชมเเละเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในชิเรโทโกะเป็นอย่างมาก
ความงดงามของ น้ำตกโอชินโคชิน นั้นมาจากกระเเสน้ำที่มีความสวยงามเเละมีความสูง เเวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละมีสีสันที่เเปลกตาออกไปตามเเต่ละฤดูกาล โดยในช่วงฤดูร้อนนั้นที่นี่จะชุ่มฉ่ำเเละเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่เเวดล้อมน้ำตกสูงสวยงามเเละกระเเสน้ำไหลตกลงกระทบกับลานหินเบื้องล่าง
บริเวณ Oshinkoshin Falls จะมีทางเดินที่ได้รับการสร้างมาเป็นอย่างดี ให้สามารถเดินเที่ยวชมความงดงามของน้ำตกได้อีกด้วย โดยจะมีจุดให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพกันหลายจุดด้วยกัน เเละยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไว้คอยบริการเเก่นักท่องเที่ยวอีกด้วยทั้งส่วนของห้องน้ำสาธารณะหรือจะเป็นร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ซึ่งน้ำตกเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชม
แผนที่ Oshinkoshin Falls
การเดินทางมายัง น้ำตกโอชินโคชิน นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสจากที่ Shari Town Center โดยให้มาลงที่ป้าย Oshinkoshin Falls ได้เลย ส่วนการเดินทางทางรถยนต์นั้นก็สามารถใช้เส้นทางหลายเลข 334 จากเมืองอูโทโร่ ลงไปทางทิศใต้ โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็จะถึงเเล้ว นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจและน่ามาเที่ยวชม
Utoro
Utoro เเล้วเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบริเวณชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรชิเรโทโกะ โดยเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ปากทางเข้าอุทยานเเห่งชาติที่สำคัญของฮอกไกโดเเละเป็นศูนย์กลางในการขนส่ง เเละเป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยวในบริเวณชายฝั่งทางทะเล โดยเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของบ่อน้ำร้อนทางธรรมชาติ ซึ่งนับว่าเป็นเเหล่งออนเซนที่มีความสำคัญเเละได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเมืองเเห่งนี้กันอย่างมาก
เมืองอูโทโร่ เป็นเมืองที่ทำให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศของการเป็นเมืองชาวประมงที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ส่วนชายฝั่งนั้นเต็มไปด้วยห้องหินขนาดใหญ่ที่มีอยู่มากมาย เเละจุดที่สวยที่สุดนั้นจะเป็นหินที่มีชื่อว่า หินโอรอนโค ซึ่งจะมีความสูงประมาณ 60 เมตรเเละตั้งอยู่ติดกับท่าเรือ ทำให้กลายเป็นอีกจุดที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการมาเที่ยวชมกันอย่างมาก
ในช่วงของเดือนต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงประมาณปลายเดือนมีนาคม จะมีการจัดเเสดงเเสงเลเซอร์ที่เป็นการจำลองเเสงเหนือบนธารน้ำเเข็งเเละมีการเปิดเพลงคลอไป สร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งจะเปิดการเเสดงเป็นประจำทุกคืนในช่วงเวลาดังกล่าว คืนละประมาณ 20 นาที โดยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 300 เยน
แผนที่ Oshinkoshin Falls
สำหรับการเดินทางมายัง เมืองอูโทโร่ นั้นสามารถใช้บริการของรถบัส Shari Bus จากป้ายหน้าสถานีรถไฟ JR Shiretoko Shari Station มาลงที่เมืองอูโทโร่ ได้เลย โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาที เสียค่าโดยสารประมาณ 1,650 เยน หรือสามารถใช้บริการรถบัส Abashiri Bus หรือรถบัส Shari Bus ก็ได้จากสนามบิน Memanbetsu Airport โดยใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง 20 นาที เสียค่าโดยสารคนละ 3,300 เยน
Abashiri Drift Ice Sightseeing & Icebreaker Ship
Abashiri Drift Ice Sightseeing & Icebreaker Ship นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวเเละกิจกรรมในการท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมที่เมืองชิเรโทโกะ ซึ่งเป็นเขตที่มีความหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้มีธารน้ำเเข็งใหญ่เล็กมากมายในทุกฤดูกาล จนทำให้จุดท่องเที่ยวเเห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเเละได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
เรือตัดน้ำเเข็งอะบาชิริ นั้นจะมีเส้นทางในการล่องเรือไปทางตอนใต้ของมหาสมุทรซึ่งมีธารน้ำเเข็งอยู่อย่างหนาเเน่น โดยมีการเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากจะสัมผัสกับบรรยากาศของความหนาวเย็นเเละความเเปลกใหม่ลงไปกับเรือเพื่อได้ดูวิธีการในการตัดน้ำเเข็งเเละเรือจะเเล่นฝ่าเข้าไปกลางเเผ่นน้ำเเข็งขนาดใหญ่เกิดเป็นภาพที่มีความสวยงามเเละหาชมได้อยากเป็นอย่างยิ่ง โดยนอกจากนี้เเล้วยังอาจจะมีโอกาสได้พบเห็นสัตว์หายากหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในความหนาวเย็นของธารน้ำเเข็งอีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่ความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
Abashiri Drift Ice Sightseeing & Icebreaker Ship นั้นเปิดให้บริการเเก่นักท่องเที่ยวเเละผู้ที่สนใจในช่วงกลางมกราคมจนถึงเดือนเมษายนเท่านั้น ส่วนช่วงเดือนที่เหลือนั้นจะเป็นการล่องเรือชมความสวยงามของคาบสมุทรชิเรโตโกะเเทน โดยจะมีการเปิดบริการเเตกต่างกันไปอย่างในช่วงเดือนมกราคม จะให้บริการในหนึ่งวันจำนวน 4 รอบ คือ 9.00 น., 11.00 น., 13.00 น. และ 15.00 น. ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์นั้น จะมีการให้บริการ 5 รอบต่อวัน คือ 9.30 น., 11.00 น., 12.30 น., 14.00 น. และ 15.30 น. ส่วนในช่วงเดือนมีนาคม จะมีการเปิดบริการ 4 รอบ คือ 9.30 น., 11.30 น., 13.30 น. และ 15.30 น. โดยทางด้านของช่วงเดือนเมษายน นั้นจะให้บริการเพียงเเค่ 2 รอบ เท่านั้น คือ 11.30 น. และ 13.30 น. โดยเสียค่าบริการอยู่ที่เรทผู้ใหญ่ 3,300 เยน ส่วนเด็กนั้นอยู่ที่ 1,650 เยนต่อคน
แผนที่ Abashiri Drift Ice Sightseeing & Icebreaker Ship
สำหรับการเดินทางมายัง เรือตัดน้ำเเข็งอะบาชิริ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟมาลงที่ สถานีรถไฟ Katsuradai Station หรือสถานีรถไฟ Abashiri Station ก็ได้ เเล้วให้เดินต่อมาจากสถานีรถไฟที่ลง ซึ่งหากลงที่ สถานีรถไฟ Katsuradai Station ก็เดินต่อมาอีกเพียงเเค่ 700 เมตรเท่านั้น เเต่หากลงที่สถานีรถไฟ Abashiri Station ก็เดินอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างกับความสวยงามทางธรรมชาติของ “ชิเรโทโกะ” จาก เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบทั้งห้าชิเรโทโกะ ล่องเรือตัดน้ำเเข็งอะบาชิริ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ อีกมากมาย และในครั้งถัดไปทาง CheckInChill ของเราจะมีเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวใดมาแนะนำ ก็อย่าลืมกดแชร์กดติดตาม ไม่พลาดทุกเรื่องที่เกี่ยวกับที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก อย่างแน่นอน” >> ติดตามเราบน Facebook <<