“คุมาโมโต้” ถิ่นกำเนิดของเจ้าหมีสีดำ “คุมะมง” แก้มชมพู
การเดินทางไปท่องเที่ยวยังดินแดนที่แสนจะสวยงามแบบญี่ปุ่นนั้น นับว่ามีความน่าสนใจตรงที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจและน่าไปเที่ยวอย่างมาก โดยอย่างคิวชู ก็นับว่าเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความสวยงามและมีเมืองสำคัญๆ ในการท่องเที่ยวอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุมาโมโต้ ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอันมาก ไม่เว้นแม้แต่นักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะเมืองแห่งนี้มีธรรมชาติและความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างมากมายหลายต่อหลายจุดที่รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องประทับใจอย่างแน่นอนเมื่อมาสัมผัสกับความสวยงามของเมืองแห่งนี้
Kumamoto นั้นจะว่าไปแล้วก็มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากจากการที่เป็นถิ่นกำเนิดของเจ้าหมีสีดำ แก้มชมพูอย่าง คุมะมง ซึ่งเป็นมาสคอตประจำเมืองแห่งนี้ ที่โด่งดังเป็นพลุแตกและช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของเมืองแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวอย่างมาก โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ทิศตะวันออกของเกาะคิวชู โดยมีความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแบบหลากหลายสไตล์ที่นับว่ามีความสวยงามและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมได้อย่างมาก
สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง คุมาโมโต้ ที่สำคัญและโดดเด่นอย่างมากก็เห็นจะเป็นตัวปราสาทคุมาโมโต้ โดยเป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่อย่างมาก เพราะสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1607 และได้รับการบูรณะจนมีความสวยงามอย่างมาก รอบล้อมไปด้วยต้นซากุระถึง 800 ต้นที่พร้อมจะบานสระพรั่งในช่วงเดือนเมษายน นับว่าเป็นอีกจุดชมดอกซากุระที่นิยมกันอย่างมากส่วนภายในปราสาทนั้นก็เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จะแสดงข้างของเครื่องใช้โบราณจำนวนมากมาย นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
และจากตัวปราสาทไม่ไกลนักคุณก็จะพบกับแหล่งช็อปปิ้งเมืองเก่า ซึ่งตั้งอยู่เชิงปราสาทคุมาโมโต้ ที่มีบรรยากาศย้อนยุคอย่างมาก และเป็นที่จำหน่ายสินค้าที่ระลึกและบรรดาร้านอาหารต่างๆ มากมายหลายร้านให้นักท่องเที่ยวได้ลองลิ้มชิมรสชาดของเมนูอาหารขึ้นชื่อดู นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์วาคุวาคุซะ ที่นักท่องเที่ยวสามารรถหยิบจับและลองสวมใส่ชุดกิโมโนได้อีกด้วย ถือว่าโดดเด่นและน่าสนใจอย่างมาก
ในขณะที่อนุสาวรีย์ท่านท่านคาโตะ คิโยมาสะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสะพานมิยูกิ ก็โดดเด่นเป็นสง่า และบริเวณโดยรอบนั้นจะล้อมรอบไปด้วยต้นซากุระจำนวนมากมาย นับว่ามีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ส่วนทางด้านของคฤหาสน์ของตระกูลโฮโซกาว่า นั้นก็ถือว่าเป็นอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่แสดงถึงความเป็นอยู่ของซามูไรชั้นสูงในอดีต โดยมันตั้งอยู่บริเวณเดียวกับปราสาทคุมาโมโต้สามารถเดินถึงกันได้อย่างสะดวก และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจมาเที่ยวชมอย่างมาก
นอกจากนี้แล้ว Kumamoto ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายจุดด้วยกันทั้งในส่วนของสวนสัตว์และสวนพฤษศาสตร์ ที่มีการแบ่งออกเป็นสามโซนหลักๆ ด้วยกันทั้ง โซนสวนสัตว์กึ่งเปิด ที่มีสัตว์นานาชนิด จำพวกลิง ค่าง ลีเมอร์
ส่วนทางด้านของโซนสวนพฤกษศาสตร์ ก็มีพื้นที่กว้างขวางและมีสระน้ำขนาดใหญ่ โดยในช่วงของฤดูใบไม้ผลิบริเวณนี้จะได้รับความนิยมในการมาชมความสวยงามของดอกซากุระบานอย่างมาก แถมยังมีโซนเครื่องเล่น ที่มีเครื่องเล่นไว้บริการอย่างมากมาย
โดยในส่วนของพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย ก็จัดแสดงผลงานศิลปะสมัยใหม่ ที่มี แสง สี ที่น่าตื่นใจอย่างมากเลยทีเดียว โดยมีทั้งนิทรรศการถาวร และนิทรรศการที่หมุนเวียน ที่น่าสนใจและน่ามาเที่ยวชมอย่างมาก
โดยที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะคุมาโมโต้ ก็เป็นอีกหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สวยงามและมีผลงานศิลปะโบราณตั้งแต่สมัยเอโดะ และผลงานของศิลปินจากต่างประเทศ โดยมีการจัดแสดงทั้งในส่วนของภาพวาดและงานฝีมือต่างๆ อีกด้วย
โดยอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง ศูนย์แสดงงานฝีมือคุมาโมโต้ ที่เป็นพื้นที่ในการจัดแสดงหัตถกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทั้งงานไม้ และเครื่องปั้นดินเปา แถมยังเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าที่ระลึกของเมืองคุมาโมโต้อีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว คุมาโมโต้ ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายต่อหลายจุดด้วยกันทั้งในส่วนของ ต้นการบูรยักษ์ ที่มีอายุมากกว่าพันปี โดยมันตั้งอยู่ติดๆ กับสนามเบสบอล Fujisakidai โดยได้รับการดูแลและอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยเป็นจุดที่ร่มรื่นอย่างมากและสามารถมาชมความสวยงามของพระอาทิตย์ตกดินได้อีกด้วย
โดยที่ศาลเจ้าคุมาโมโต้อินาริ นั้นก็เป็นอีกหนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่อย่างยิ่งแม้จะมีขนาดเล็ก แต่กลับได้รับความนิยมจากบรรดาผู้คนในการมาสักการะขอพรกันอย่างคึกคักโดยเดือนกุมภาพันธ์ในแต่ละปีจะมีการจัดเทศกาล Hatsu Uma Taisai อีกด้วย ส่วนทางด้านของสวนพฤษศาสตร์เคนโมซุ ได นั้นก็มีการจัดแสดงพรรณไม้มากกว่า 2,100 ชนิดเลยทีเดียว และมีความสวยงามรวมทั้งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยภายในของสวนจะเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ป่าไม้ ที่เป็นอาคารเรือนกระจกอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
โดย Kumamoto ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง สวนซุยเซนจิ ที่เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่สวยงามและมีชื่อเสียงอย่างมาก โดยสร้างโดยตระกูล โฮโซกาว่า ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 แล้วจึงเป็นอีกสวนที่มีความเก่าแก่อย่างยิ่ง โดยภายในจะเป็นการจำลองแบบของสถานที่หลายๆ สถานที่ที่มีความสำคัญของญี่ปุ่น
ส่วนขาช็อปก็ไม่ควรจะพลาดมาเที่ยวชมเลือกซื้อหาสินค้าได้ที่ย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองคุมาโมโต้ บนถนนมิโทริ ถนนซึโมโทริ และถนนซันชินซึไก ที่มีร้านค้ามากมายจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภทให้คุณมาช็อปปิ้งกันได้อย่างสะใจเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้แล้วรอบๆ เมือง คุมาโมโต้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกลหายต่อหลายแห่งที่น่าสนใจทั้ง ภูเขาไฟอะโซะ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคคิวชู และเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีบรรยากาศแวดล้อมแบบชนบทของญี่ปุ่น โดยปากปล่องภูเขาไฟนั้นมีความสวยงามและแวดล้อมไปด้วยทุ่งหญ้ากว้างอย่างมาก และเหมาะกับการมาเดินเที่ยวอย่างมาก
โดยทางด้านของเมืองเล็กๆ อย่าง คุโรคาวะ ก็คือเมืองออนเซนที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งของญี่ปุ่น โดยชาวเมืองรวมตัวกันรักษาสภาพความเป็นเมืองเก่าเอาไว้ได้ โดยแต่ละอาคารนั้นจะเป็นไม้ที่มีความคลาสสิกอย่างมากและให้บรรยากาศในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเลยก็ว่าได้ ซึ่งภายในเมืองแห่งนี้จะเต็มไปด้วย โรงอาบน้ำแบบออนเซน และโรงแรมแบบญี่ปุ่นหรือเรียวกัง จำนวนมากมายไว้บริการนักท่องเที่ยว นับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองเล็กๆ ที่น่ามาสัมผัสกับบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างยิ่ง
ในขณะที่ สะพานทสึจุงเคียว ก็เป็นสะพานหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสะพานส่งน้ำไปยังที่ราบสูง Shiraito โดยมีระยะทางส่งน้ำทั้งหมด ยาว 30 กิโลเมตร และในส่วนของสะพานนั้นมีความเก่าแก่และสวยงามอย่างมากรวมทั้งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่นไปแล้ว
โดยที่วัดอังกันเซนจิ นั้นก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะที่ถ้ำเรกันโดะซึ่งเป็นสถานที่ที่ มิยาโมโต้ มูซาชิ นักดาบที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นได้มาพำนักและเขียนหนังสือขึ้นชื่อว่า คัมภีร์ห้าห่วง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก นอกจากนี้แล้วในบริเวณของถ้ายังมีพระพุทธรูปที่หน้าตา ท่าทางแต่ละองค์ไม่เหมือนกันกว่า 500 องค์กระจายอยู่ทั่วไปหมด สร้างบรรยากาศที่แปลกเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวยังเมือง Kumamoto นั้นคุณสามารถใช้บริการของรถไฟ เจอาร์คิวชูที่มีหลากหลายขบวนที่มีสีสันน่านั่งอย่างมากจากเมืองใหญ่อย่างฟุกุโอกะ ซึ่งมีสนามบินและมีเที่ยวบินจากเมืองไทยมาลงที่นี่มากมายหลายเที่ยวบินในแต่ละสัปดาห์ นับว่ามีความสะดวกสบายในการเดินทางท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง