วีซ่า กับ พาสปอร์ต คืออะไร มีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร
หลายคนอาจสับสนว่า วีซ่ากับพาสปอร์ต คืออะไร เอาไว้ทำอะไรหรือต่างกันอย่างไร และยิ่งถ้าต้องเดินทางไปยังต่างประเทศแล้วไม่มีทั้งวีซ่า และพาสปอร์ตเราสามารถเดินทางได้หรือไม่ เราเลยจะมาอธิบายให้เพื่อน ๆ ได้เข้าใจกันนะครับ
หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต
หนังสือเดินทาง หรือที่เราเรียกกันว่า พาสปอร์ต คือ เอกสารระบุตัวตนของเรา เพื่อใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ ภายในเล่มจะมีข้อมูลต่าง ๆ อาทิ ชื่อ-นามสกุล, วัน-เดือน-ปีเกิด, จังหวัดที่เกิด, เพศ, สัญชาติ เป็นต้น โดยปกติเมื่อประชาชนทั่วไปติดต่อกรมการกงสุล เพื่อทำหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่จะออกหนังสือเดินทางแบบธรรมดาให้ สังเกตได้จากหน้าปกจะมีสีแดงเลือดหมู โดยสามารถใช้งานได้ตั้งแต่เรื่องท่องเที่ยว ไปเยี่ยมญาติ หรือไปเรียนหนังสือที่ต่างประเทศ ซึ่งในกรณีไปเรียนต่างประเทศจะต้องขอวีซ่าเพื่อการศึกษา สำหรับชาวต่างชาติจะต้องทำพาสปอร์ตด้วยเช่นกันถ้าจะเข้าประเทศไทย แต่ไม่สามารถใช้ทำงานในประเทศไหน ๆ ได้เลย เพราะมันผิดกฏหมาย
หนังสือเดินทางประเทศไทยในปัจจุบันมี 4 ประเภท ดังนี้
หนังสือเดินทางธรรมดา (หน้าปกสีแดงเลือดหมู)
ออกให้สำหรับประชาชนทั่วไป หนังสือเดินทางธรรมดามีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบมีอายุ 5 ปี และแบบมีอายุ 10 ปี โดยแบบอายุ 5 ปี จะเสียค่าธรรมเนียมในการทำ 1,000 บาท และแบบ 10 ปี จะเสียค่าธรรมเนียมในการทำ 1,500 บาท
หนังสือเดินทางราชการ (หน้าปกสีน้ำเงินเข้ม)
หนังสือเดินทางมีอายุไม่เกิน 5 ปี หรือเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ผู้ถือต้องใช้ในราชการเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ในการเดินทางส่วนตัว โดยออกให้เฉพาะข้าราชการ, เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่จัดตั้งตามรัฐธรรมนูญ และสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ และบุคคลอื่นใดที่เดินทางเพื่อทำประโยชน์แก่ทางราชการตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุมัติ โดยผู้ที่ถือหนังสือเดินทางต้องมาดำเนินการเอง เนื่องจากต้องเก็บข้อมูลชีวภาพของผู้ถือเอกสาร ได้แก่ ภาพใบหน้า และลายนิ้วมือ ซึ่งหนังสือเดินทางข้าราชการมีด้วยกัน 2 แบบ คือ หนังสือเดินทางราชการ (Official Passport) เล่ม F และ หนังสือเดินทางยกเว้นค่าธรรมเนียม (Gratis) เล่ม G โดยทั้งสองแบบต่างกันตรงที่เล่ม F มีค่าธรรมเนียม แต่เล่ม G จะไม่มีค่าธรรมเนียม
หนังสือเดินทางทูต (หน้าปกสีแดงสด)
ประเภทนี้จะมีอายุไม่เกิน 5 ปี ไม่สามารถต่ออายุเพิ่มได้ มีข้อกำหนดออกให้เฉพาะบุคคลที่เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ หรือข้าราชการชั้นสูง (นายกรัฐมนตรี, ประธานองคมนตรีและองคมนตรี, ประธานศาลฎีกา เป็นต้น)
หนังสือเดินทางชั่วคราว (หน้าปกสีเขียว)
หนังสือเดินทางชั่วคราว อายุ 1 ปี จะออกให้ในกรณีที่คนไทยทำหนังสือเดินทางสูญหายหรือหมดอายุ และมีความจำเป็นเร่งด่วนจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่อาจรอการออกหนังสือเดินทาง E-Passport ได้ อย่างไรก็ดี หนังสือเดินทางชั่วคราวมีข้อจำกัด คือ ไม่มี Machine Readable Barcode ซึ่งหากนำไปขอวีซ่า บางประเทศอาจไม่ยอมรับ
วีซ่า (VISA) คืออะไร ?
วีซ่า (VISA) คือ หลักฐานสำคัญในการอนุญาตในการขอเข้าประเทศ สำหรับคนที่ไม่ได้มีสัญชาติของประเทศนั้น โดยอาจจะเป็นรอยประทับ หรือ เป็นแผ่นกระดาษสติกเกอร์ติดในอยู่ในหนังสือเดินทาง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตราประทับที่อยู่ในหนังสือเดินทาง แต่ก็มีข้อยกเว้นในบางประเทศที่ได้ทำข้อตกลงกับประเทศนั้น ๆ จึงทำให้ไม่ต้องขอวีซ่าระหว่างประเทศ หรือบางประเทศอาจจะยกเว้น โดยจะอนุญาตให้คนสัญชาติอื่น ๆ เดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเลยก็ได้
ประเภทและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตรวจลงตราประเภทต่างๆ
- ประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร (Transit Visa)
จะออกให้แก่คนประเทศที่ไม่ได้ถือสัญชาตินั้น ที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อเดินทางผ่าน, เล่นกีฬา, เป็นผู้ควบคุมพาหนะ หรือเป็นคนประจำพาหนะที่เข้ามายังท่า โดยวีซ่าประเภทนี้จะมีอายุ 3 เดือน พักได้ไม่เกินครั้งละ 30 วัน ปกติจะมีอายุ 5 วัน สำหรับผ่านไปยังประเทศอื่นที่เป็นจุดหมาย ที่ไม่ใช่ประเทศที่ได้รับอนุญาตหรือขอเอาไว้ - ประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist Visa)
จะออกให้แก่คนประเทศที่ไม่ได้ถือสัญชาตินั้น ที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อการท่องเที่ยว โดยวีซ่าประเภทนี้จะมีอายุวีซ่า 3 เดือน หรือ 6 เดือน พักได้ไม่เกินครั้งละ 60 วัน - ประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)
จะออกให้แก่คนประเทศที่ไม่ได้ถือสัญชาตินั้น ที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ, การติดต่อประกอบธุรกิจ, การทำงาน, การลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง, การเข้ามาใช้ชีวิตในบั้นปลายในฐานะผู้สูงอายุ, การเข้ามาในประเทศเพื่อการรักษาพยาบาล โดยวีซ่าประเภทนี้มีอายุวีซ่า 3 เดือน สำหรับเดินทางครั้งเดียว หรือ 1 ปี สำหรับเดินทางหลายครั้ง พักได้ไม่เกินครั้งละ 90 วัน - ประเภททูต (Diplomatic Visa)
จะออกให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการทูตหรือกงสุล หรือการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และผู้ร้องจะต้องถือหนังสือเดินทางทูต หรือ หนังสือเดินทางสหประชาชาติ ซึ่งเทียบเท่าหนังสือเดินทางทูตเท่านั้น โดยพักได้ไม่เกินครั้งละ 90 วัน - ประเภทราชการ (Official Visa)
จะออกให้ในการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในประเทศเป็นการชั่วคราว เพื่อ ปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ และผู้ร้องจะต้องถือหนังสือเดินทางราชการ หรือ หนังสือเดินทางสหประชาชาติ ซึ่งเทียบเท่าหนังสือเดินทางราชการเท่านั้น โดยพักได้ไม่เกินครั้งละ 90 วัน - ประเภทอัธยาศัยไมตรี (Courtesy Visa)
จะออกให้เฉพาะการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว หรือ การขอรับการตรวจลงตราของผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา โดยวีซ่าประเภทนี้จะมีอายุ 3 เดือน หรือ 6 เดือน พักได้ไม่เกินครั้งละ 90 วัน - วีซ่าธุรกิจ (Business Visa)
มีเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการค้าขาย หรือ ติดต่อกับธุรกิจในประเทศของผู้ออกวีซ่า หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจ - วีซ่าทำงาน ชั่วคราว (Temporary Worker Visa)
เป็นวีซ่าสำหรับแสดงให้บุคคลนั้น ๆ ได้รับอนุญาตให้ทำงานภายในประเทศนั้น ๆ ได้ชั่วคราว - วีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa On-Arrival)
เป็นวีซ่าที่จะได้รับเมื่อเดินทางสู่ประเทศนั้น ๆ แล้ว โดยจะได้รับตรงจุดตรวจคนเข้าเมือง - วีซ่าคู่สมรส หรือ วีซ่าแต่งงาน (Spouse Visa, Partner Visa, Marriage Visa)
เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้คู่แต่งงานที่ได้รับสัญชาตินั้น ๆ สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศของอีกฝ่าย และพำนักได้ถาวรตามบุคคลภายในครอบครัว - วีซ่านักเรียน (Student Visa)
เป็นวีซ่าที่อนุญาตสำหรับนักเรียน หรือ นักศึกษา เข้ามาศึกษาต่อในประเทศนั้น ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยในบางประเทศใช้วีซ่าท่องเที่ยวแทน - วีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน (Working Holiday Visa)
เป็นวีซ่าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงระหว่างประเทศผู้เป็นภาคี โดยสามารถเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้ - วีซ่านักเขียน (Jounalist Visa)
เป็นวีซ่าที่อนุมัติให้กับนักเขียน หรือ สื่อข่าวที่ได้รับการยอมรับ - วีซ่าอพยพ (Immigration Visa)
เป็นวีซ่าที่อนุมัติให้กับบุคคลที่ต้องการอพยพไปตั้งถิ่นฐานตามประเทศที่อนุญาต - วีซ่าผู้รับบำนาญ หรือ วีซ่าผู้เกษียณ (Pensioner Visa หรือ Retirement Visa)
เป็นวีซ่าที่อนุญาตสำหรับคนที่มีอายุถึงเกณฑ์ที่กำหนด (ประมาณ 50 ปีขึ้นไป) โดยต้องมีรายได้ในต่างประเทศนอกเหนือจากประเทศที่ออกวีซ่าดังกล่าวให้ ซึ่งต้องเพียงพอต่อการดำรงชีพ และไม่มีความประสงค์จะทำงานแล้วเท่านั้น - อิเล็กทรอนิค วีซ่า (Electronics Visa เรียกสั้น ๆ ว่า e-visa)
เป็นระบบวีซ่าที่ใช้การบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับหมายเลขหนังสือเดินทาง และบาร์โค้ด โดยจะไม่มีป้าย หรือ สติ๊กเกอร์ติดลงในหนังสือเดินทาง เป็นการอำนวยความสะดวก เพื่อลดความแออัด และสร้างพื้นข้อมูลเชื่อมกับหน่วยงานความมั่นคง - วีซ่าลูกเรือ (Ship Crew Visa)
เป็นวีซ่าสำหรับลูกเรือของสายการบินที่ต้องการเดินทางมาพร้อมกับสายการบินนั้น ๆ หรือ ลูกเรือที่ทำงานให้กับเรือเดินสมุทรของต่างประเทศที่แล่นอยู่ในบริเวณน่านน้ำภายในไหล่ทวีปนอกชายฝั่ง
Visa on Arrival (VOA) และ Free Visa
Visa on Arrival (VOA)
ประเทศ และดินแดน ที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยเดินทางไปได้ โดยที่ไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา หรือ ก็คือการไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า แต่ก็ต้องไปรับตราประทับที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศที่ไปเสียก่อน ถึงจะมีสิทธิ์เข้าไปได้
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 14 วัน
- กัมพูชา
- ไต้หวัน (เฉพาะช่วงเวลา 1 สิงหาคม 2565 – 31 กรกฏาคม 2566)
- บรูไน
- บาห์เรน
- พม่า
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 15 วัน
- ญี่ปุ่น
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 30 วัน
- มณฑลไห่หนาน (จีน)
- ฮ่องกง
- อินโดนีเซีย
- ลาว
- มาเก๊า
- มองโกเลีย
- มาเลเซีย
- มัลดีฟส์
- ฟิลิปปินส์
- กาตาร์
- รัสเซีย
- เซเชลส์
- สิงคโปร์
- แอฟริกาใต้
- ตุรกี
- วานูอาตู
- เวียดนาม
- ทาจิกิสถาน
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 60 วัน
- คีร์กีซสถาน
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 90 วัน
- อาร์เจนตินา
- บราซิล
- ชิลี
- เอกวาดอร์
- เกาหลีใต้
- เปรู
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 180 วัน
- ปานามา
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 365 วัน
- จอร์เจีย
____________________________________________________________________
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางราชการ และหนังสือเดินทางทูต
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 14 วัน
- บาห์เรน
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 30 วัน
- บรูไน
- กัมพูชา
- จีน
- เอกวาดอร์
- ฮ่องกง
- อินโดนีเซีย
- จอร์แดน
- ลาว
- มาเก๊า
- มาเลเซีย
- อัลดีฟส์
- มองโกเลีย
- โมซัมบิก
- เมียนมา
- โอมาน
- ปาเลสไตน์
- สิงคโปร์
- หมู่เกาะโซโลมอน
- ทาจิกิสถาน
- ติมอร์-เลสเต
- เวียดนาม
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 90 วัน
- แอลเบเนีย
- อาร์เจนตินา
- ออสเตรีย
- เบลารุส
- เบเยี่ยม
- ภูฏาน
- บราซิล
- บัลแกเรีย
- ชิลี
- โคลอมเบีย
- คอสตาริกา
- โครเอเชีย
- เช็ก
- เดนมาร์ก
- เอลซันวาดอร์
- เอสโตเนีย
- ฟินแลนด์
- เยอรมนี
- จอร์เจีย
- ฮังการี
- อินเดีย
- อิสราเอล
- อิตาลี
- ญี่ปุ่น
- เกาหลีใต้
- คอซอวอ
- คูเวต
- ลัตเวีย
- ลิกเตนสไตน์
- ลักเซมเบิร์ก
- เม็กซิโก
- มอนเตเนโกร
- โมร็อคโก
- เนเธอร์แลนด์
- เนปาล
- นอร์เวย์
- ปานามา
- เปรู
- ฟิลิปปินส์
- โปแลนด์
- โรมาเนีย
- รัสเซีย
- เซอร์เบีย
- เซเซลส์
- สโลวัก
- สโลวีเนีย
- แอฟริกาใต้
- ศรีลังกา
- สวีเดน
- สวิตเซอร์แลนด์
- ทาจิกิสถาน
- ตูนีเซีย
- ตุรกี
- ยูเครน
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- อุรุกวัย
- วานูอาตู
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 120 วัน
- ฟิจิ
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 180 วัน
- ปานามา
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 365 วัน
- จอร์เจีย
______________________________________________________________
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตเท่านั้น
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 15 วัน
- มอริเซียส
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 30 วัน
- บังกลาเทศ
- ปากีสถาน
ประเทศที่พักได้ไม่เกิน 90 วัน
- ฝรั่งเศส
- มอลตา
- สเปน
แต่ไม่ได้หมายความว่า เที่ยวในโซนยุโรปนั้นจะไม่ต้องขอวีซ่าเลย เพราะเรียกว่ายกเว้น แต่ก็มีการทำวีซ่าแบบพิเศษขึ้นมาที่เรียกว่า Schengen Visa เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ
วีซ่าของกลุ่มประเทศยุโรป หรือ วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa)
เป็นวีซ่าของทวีปยุโรป ขอเพียงแค่ครั้งเดียวสามารถเดินทางไปได้แทบทุกประเทศในทวีปยุโรป ซึ่งไม่รวมประเทศอังกฤษ มีทั้งหมด 27 ประเทศ คือ
- อิตาลี
- เบลเยี่ยม
- เยอรมนี
- ฝรั่งเศส
- โปรตุเกส
- เนเธอร์แลนด์
- โปแลนด์
- สเปน
- เดนมาร์ก
- เอสโตเนีย
- ฟินแลนด์
- สวีเดน
- มอลตา
- สวิตเซอร์แลนด์
- ออสเตรีย
- ฮังการี
- ลักเซมเบิร์ก
- สาธารณรัฐเช็ก
- สโลวาเกีย
- สโลวีเนีย
- ลัตเวีย
- ลิธัวเนีย
- นอร์เวย์
- ไอซ์แลนด์
- กรีซ
- ลิกเตนสไตน์
- โครเอเชีย
โดยในแต่ละประเทศจะให้ระยะเวลาพักแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นควรไปขอวีซ่าในประเทศที่เราคิดจะอยู่นานที่สุดก่อน แต่ถ้าไปทุกประเทศพอ ๆ กัน ควรไปขอในประเทศที่เราไปเป็นประเทศแรก โดยจะมีระยะ วลาอนุญาตรวมกันได้ไม่เกิน 90 วัน และขอล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน
Free Visa – ฟรี วีซ่า (ผ.30)
ผู้ถือหนังสือเดินทางจะได้รับการยกเว้นในการตรวจตราการเข้าประเทศ เพื่อการท่องเที่ยวในระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน ซึ่งประเทศที่ได้รับสิทธิการยกเว้นตรวจลงตรา มีทั้งหมด 56 ประเทศ คือ
- กรีซ
- กาตาร์
- เกาหลีใต้
- คูเวต
- แคนาดา
- สาธารณรัฐเช็ก
- ซานมารีโน
- ญี่ปุ่น
- เดนมาร์ก
- ตุรกี
- นอร์เวย์
- นิวซีแลนด์
- เนเธอร์แลนด์
- บราซิล
- บรูไน
- บาห์เรน
- เบลเยียม
- เปรู
- โปรตุเกส
- โปแลนด์
- ฝรั่งเศส
- ฟินแลนต์
- ฟิลิปปินส์
- มอริเซียส
- มัลดีฟส์
- มาเลเซีย
- โมนาโก
- ยูเครน
- เยอรมันนี
- ลักแซมเบิร์ก
- ลัดเวีย
- ลิกเตนสไตน์
- ลิทัวเนีย
- เวียดนาม
- สเปน
- สโลวัก
- สโลวีเนีย
- สวิตเซอแลนด์
- สวีเดน
- สหรัฐอเมริกา
- สิงคโปร์
- ออสเตรเลีย
- ออสเตรีย
- อังกฤษ
- อันคอร์รา
- อิตาลี
- อินโดนีเซีย
- อิสราเอล
- เอมิเรสต์
- เอสโตเนีย
- แอฟริกาใต้
- โอมาน
- ไอซ์แลนด์
- ไอร์แลนด์
- ฮ่องกง
- ฮังการี
ทุกคนคงจะเข้าใจเรื่องของ วีซ่ากับหนังสือเดินทางต่างกันอย่างไร และมีขั้นตอนแตกต่างกันอย่างไรแล้วนะครับ ซึ่งทั้ง 2 อย่างจำเป็นต่อการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องเดินทางไปต่างประเทศก็ควรต้องทำไว้ครับ